ว่านจักจั่น พอจักจั่นใกล้ตายจะทำการฝังตัวเองลงในดิน สักพักจะมีหงอนยื่นออกมาจากพื้นดินคล้ายเห็ด มีอาถรรพ์ในตัว พบได้ยากและพบได้ในบางพื้นที่เท่านั้น โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนอย่างนี้ จัดเป็นของมงคลอาถรรพ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตามความเชื่อโบราณ ชาวบ้านนิยมนำไปปลุกเสกปลุกวิญญาณให้มีจิตเกิดขึ้น เป็นเครื่องรางในด้านโชคลาภเงินทอง แต่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ได้ชี้ชัดไปแล้วว่า ว่านที่หลายคนบูชานี้ที่แท้แล้วคือ จักจั่นที่ตายแล้วจากการติดเชื้อรา ไม่มีส่วนไหนที่เป็นว่านหรือพืชตามที่เข้าใจ พบเห็นได้ในจังหวัดแนวชายแดนไทยลาวของทั้ง 2 ประเทศ วันนี้ สายมู.com จะมาอธิบายในด้านที่เกี่ยวกับความเชื่อที่มีมาแต่โบราณและด้านวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ตามหลักวิทยาศาสตร์ ว่านจักจั่น คืออะไร
ในด้านวิทยาศาสตร์ได้มีการออกมาชี้แจงแล้วว่า ว่านจักจั่นไม่ใช่ว่าน ไม่มีส่วนไหนเกี่ยวกับพืชเลย มันคือ “จักจั่นที่ตายจากการติดเชื้อรา” นึกภาพตามในขณะที่จักจั่นขึ้นมาลอกคราบบนดิน มันจะอ่อนแอมาก เชื้อราบริเวณนั้นสามารถแทงเส้นใยเข้าไปเติบโตในตัวจักจั่นได้ โดยดูดสารอาหารในตัวจักจั่นเป็นอาหารจนจักจั่นตาย มองผิวเผินเหมือนจักจั่นงอกมาจากดินคล้าย ๆ ว่าน พบได้ทั่วไป ซึ่งจะเรียกว่าเป็นพืชล้มลุกก็ได้ จะเกิดขึ้นและพบเป็นช่วง ๆ ส่วนหัวจะฝังอยู่ใต้ดิน จะพบรวมเป็นกระจุก เกาะเป็นกลุ่ม ๆ ละ 2-3 ตัว ขนาดเท่าข้อนิ้วก้อยถึงนิ้วชี้ จะมีทั้งตัวผู้และตัวเมีย โดยตัวผู้จะมีลักษณ์ก้านยาวชูขึ้น ตัวเมียจะมีลักษณ์ก้านเป็นช่อฝอย สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเผยแพร่ข้อมูลว่า หากกินแล้วอาจจะมีอันตรายถึงชีวิตได้ เพราะจากการตรวจสอบสารพิษพบว่ามีสาร ibotenic acid ซึ่งสารพิษในกลุ่มนี้มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง กินแล้วจะทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว ชัก กล้ามเนื้อเกร็งกระตุก ดวงตาหมุนวนไปรอบ ๆ ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน อ่อนแรงใจสั่น และเวียนศีรษะ อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
พุทธคุณตามความเชื่อโบราณ
ช่วงหน้าฝนอย่างนี้อะไรก็งอกงามไปหมด ไม่เว้นแม้แต่วัตถุมงคลนามว่า “ว่านจักจั่น” ก็ยังงอกจากดินในช่วงหน้าฝน สร้างความประหลาดใจ ชาวบ้านตั้งข้อสงสัยว่าวัตถุมงคลอะไรจะงอกจากดินได้ ? ตามความเชื่อของคนโบราณ หากว่าที่ใดมีว่านนี้อยู่ จะมีเสียงจักจั่นร้องระงมเต็มไปหมดทั่วบริเวณ แต่ไม่เห็นตัว ให้สังเกตพื้นดินก็มักจะพบว่านชนิดนี้ ชาวบ้านที่รู้ก็มักจะเดินออกหาเก็บนำมาบูชา และนำไปให้พระสงฆ์ทำการสวดปลุกเสกก็จะเพิ่มความขลังมากขึ้น เป็นว่านกึ่งพืชกึ่งสัตว์ประเภทเดียวกับพวกมักกะลีผล ถือว่าเป็นของกายสิทธิ์ซึ่งมีเทพเทวดารักษา เป็นของดีมีอาถรรพณ์ที่หายาก มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองมีพลังบารมีจากเทพชั้นสูง ผู้ใดมีบูชาก็จะมีทรัพย์สินงอกเงยไม่ขาดมือ เรียกเงิน เรียกทอง มีโชคลาภเงินทอง มีสติปัญญาที่ดี มีสุขภาพที่แข็งแรง มีความเจริญรุ่งเรือง มีหน้าที่การงานที่ก้าวหน้า จะทำการค้าขายก็ร่ำรวย และแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตราย คุณไสยมนต์ดำทั้งหลาย
