กรมหลวงชุมพร กรมหลวงผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของทหารเรือ

ในประเทศไทยของเรามีบุคคลที่มีความสำคัญมากมาย แต่ละคนล้วนแล้วแต่มีความสำคัญและทรงอิทธิพลเป็นอย่างมาก ก่อให้เกิดการสร้างสิ่งใหม่ ๆ มากมาย อย่างกรมหลวงชุมพร กรมหลวงผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของเหล่าทหารเรือในประเทศไทย ท่านเป็นใครและมีความเป็นมาอย่างไร เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับท่านกัน ไปติดตามกันได้เลย 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

เปิดประวัติของกรมหลวงชุมพร ผู้ก่อตั้งโรงเรียนนายเรือ

กรมหลวงชุมพร หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าเสด็จเตี่ย มีชื่อเต็มว่าพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ประสูติในวันที่ 19 ธันวาคมปี 2423 มีพระนามเดิมว่าพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอาภรณ์เกียรติวงศ์ ยศถาบรรดาศักดิ์ของท่านมาจากการที่ท่านเป็นพระโอรสของพระบาทสมเด็จจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระองค์ที่ 28 

เมื่อเติบโตขึ้นท่านก็ได้เข้าเรียนในโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ หลังจากมีพระชันษาครบ 13 ปีสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวและท่าน ก็ถูกสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ 

เป็นช่วงเวลาที่กรมหลวงชุมพรได้เข้าศึกษาในโรงเรียนนายเรืออังกฤษ หลังจากจบการศึกษาระดับมัธยมแล้วก็ได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยทหารเรือ ทั้งโรงเรียนตอปิโดและโรงเรียนปืนใหญ่ ได้รับโอกาสเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งเป็นถึงเรือเอก ใช้เวลาศึกษาราชนาวีอังกฤษยาวนานถึง 6 ปีเลยทีเดียว 

เข้าสู่ปี 2443 กรมหลวงชุมพรก็ได้เดินทางเสด็จกลับคืนสู่ประเทศไทย และยังได้รับพระราชทานยศให้เป็นนายเรือโท หรือในปัจจุบันจะเทียบเท่ากับตำแหน่งนาวาตรี และยังได้รับพระอิสริยยศเป็นกรมหมื่นชุมพรเขตอุดมศักดิ์อีกด้วย ดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้บัญชาการของกรมทหารเรือ และยังเป็นเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือโท 

ด้วยเหตุนี้ท่านจะมีโอกาสได้ปรับปรุงและแก้ไขระเบียบโรงเรียนนายเรือใหม่ เป็นครูสอนเหล่านักเรียนด้วยตนเอง และมีการเพิ่มเติมวิชาที่มีความสำคัญกับการเดินเรืออย่าง พีชคณิต ตรีโกณมิติ อุทกศาสตร์ ดาราศาสตร์ การเดินเรือเรขาคณิต

เพราะต้องการให้นักเรียนนายเรือทั้งหลาย สามารถออกเดินเรือทางไกลท่ามกลางมหาสมุทรที่เต็มไปด้วยทะเลน้ำลึกได้นั่นเอง ท่านได้กลายมาเป็นกำลังหลักของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และยังทรงเห็นความสำคัญในการพัฒนาวงการทหารเรือไทยอีกด้วย 

กรมหลวงชุมพรได้พระราชทานพระราชวังเดิมของตน ให้กลายเป็นที่ตั้งโรงเรียนนายเรือนับตั้งแต่ปี 2449 เป็นการวางรากฐานให้เหล่าทหารเรือ กองทัพเรือจึงได้ยึดวันดังกล่าวให้เป็นวันกองทัพเรือของทุกปี

ต่อมาในปี 2460 ประเทศไทยของเราได้เข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 1 ช่วงเวลานั้นกองทัพเรือของเรายังไม่มีผู้รู้มากประสบการณ์ กรมหลวงชุมพรจึงได้เข้ารับราชการเป็นจเรทหารเรือ และยังเป็นเสนาธิการอีกด้วย 2 ปีต่อมาท่านทรงเป็นผู้บังคับการเรือรบหลวงพระร่วง เดินทางจากประเทศอังกฤษข้ามทวีปมายังประเทศไทยด้วยตนเอง 

ท่านเป็นบุคคลสำคัญในวงการทหารเรือที่มองการณ์ไกลเป็นอย่างมาก มีการขอพระราชทานที่ดินใกล้กับสัตหีบเพื่อสร้างฐานทัพเรือขึ้นมาในปี 2465 เนื่องจากเห็นว่าบริเวณนี้เป็นอ่าวขนาดใหญ่และมีทะเลน้ำลึก เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการซ้อมยิงตอปิโด 

ทั้งยังมีเกาะน้อยใหญ่มากมาย ช่วยให้สามารถบังคับคลื่นลมได้ดี เรือจากภายนอกที่แล่นเข้าสู่บริเวณดังกล่าวก็จะไม่สามารถมองเห็นกองทัพได้แต่อย่างใด แม้ว่าตอนนี้กรมหลวงชุมพรจะจากโลกใบนี้ไปแล้ว แต่ท่านก็กลายมาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนเคารพนับถือเป็นอย่างมาก 

ความสามารถของกรมหลวงชุมพรที่คุณอาจไม่เคยรู้ 

กรมหลวงชุมพร ไม่ได้มีเพียงคุณูปการต่อวงการทหารเรือไทยเท่านั้น แต่ท่านยังมีความสามารถในการต่อยมวยไทยอีกด้วย สมัยรัชกาลที่ 6 ท่านได้เป็นผู้ฝึกสอนแก่นักมวยต่างจังหวัดทั้งหลาย และในเวลาต่อมาพวกเขาก็กลายเป็นนักมวยที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ทั้งทับ จำเกาะ, พูน ศักดา, ยัง หาญทะเล หรือตู้ ไทยประเสริฐ 

งานศิลปะก็โดดเด่นไม่แพ้ใคร ทรงเขียนภาพบนผนังโบสถ์ในวัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นรูปภาพพุทธประวัติที่เล่าถึงเหตุการณ์การพบกันของปัญจวัคคีย์และพระพุทธเจ้า ผลงานดังกล่าวยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้ นอกจากนั้นท่านยังมีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับการแพทย์แผนโบราณอีกด้วย 

เคยออกจากราชการเป็นเวลายาวนานถึง 6 ปี เพื่อศึกษาเกี่ยวกับแพทย์แผนไทยอย่างจริงจัง จนสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับผู้คนได้ กรมหลวงชุมพรท่านทรงช่วยเหลือทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนจีนหรือคนไทย ย่านสำเพ็งชาวจีนต่างซาบซึ้งเป็นอย่างมาก เรียกพระองค์ท่านว่าเตี่ยที่มีความหมายถึงพ่อ ทำให้ชื่อดังกล่าวกลายมาเป็นชื่อเล่นที่ผู้คนต่างเรียกขานพระองค์ท่านมาจนถึงปัจจุบัน 

ความศรัทธาของทหารเรือไทยต่อกรมหลวงชุมพร 

กรมหลวงชุมพรได้สร้างสิ่งต่าง ๆ มากมายเพื่อพัฒนาวงการทหารเรือไทย บรรดาทหารเรือต่างยกย่องท่านให้เป็นบิดาแห่งกองทัพเรือ เพราะท่านเป็นผู้ที่นำพาความเจริญรุ่งเรืองมายังกองทัพ มีการวางรากฐานการบริหารงานอย่างชัดเจน รวมถึงระเบียบปฏิบัติต่าง ๆ 

ช่วยให้กองทัพเรือมีมาตรฐาน ทันสมัย และทัดเทียมกับนานาประเทศมาจนถึงในปัจจุบัน นอกจากนั้นผู้คนก็มีความเชื่ออีกด้วยว่า หากใครก็ตามที่มาขอพรท่านก็จะได้รับความเมตตา เพราะสมัยที่ท่านยังคงมีพระชนม์ชีพอยู่ ท่านอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้คนมาโดยตลอด 

โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพร่างกายที่รักษาทุกคนโดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย มีการตั้งศาลของท่านเนื่องจากเชื่อว่า ท่านสามารถปกป้องลูกหลานเวลาที่ออกเดินเรือได้อีกด้วย หากใครมีโอกาสลองแวะเวียนไปขอพรท่านดูได้ โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ รับรองว่าทุกคนจะมีสุขภาพยืนยาวและอายุแข็งแรงแน่นอน 

ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com