จันทรุปราคาหรือกบกินเดือน ปรากฏการณ์ที่หลายคนหวาดกลัว

ในธรรมชาติของเรานั้นล้วนแล้วแต่มีปรากฏการณ์มากมายที่แปลกประหลาดจนทำให้หลายคนหวาดกลัว และที่สำคัญปรากฏการณ์เหล่านั้นก็มีความเกี่ยวข้องกับความศรัทธาของมนุษย์เช่นเดียวกัน  อย่างเช่นปรากฏการณ์ จันทรุปราคา หรือที่รู้จักกันในชื่อ กบกินเดือน ตามความเชื่อของชาวล้านนาที่บอกต่อกันมาแบบรุ่นสู่รุ่นว่า และในวันนี้ สายมู.com จะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับปรากฏการณ์นี้ให้มากขึ้นกันว่า มันคืออะไรและจะส่งผลอย่างไรกับเราบ้าง 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ทำความรู้จักกับปรากฏการณ์จันทรุปราคา หรือกบกินเดือนของชาวล้านนา 

“จันทรุปราคา” “กบกินเดือน” หรือที่เรียกกันว่า “ราหูอมจันทร์” ปรากฏการณ์นี้ถือว่าเป็นลางดี ซึ่งเชื่อกันว่าหากทำพิธีไหว้ราหูในคืนวันวิสาขบูชา จะช่วยเพิ่มความโชคดีและความเป็นสิริมงคลได้เป็นอย่างดี แต่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติดังกล่าวสามารถอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ได้ว่า เกิดจากการโคจรของดาว 3 ดวงอันประกอบไปด้วยโลก ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์โคจรมาอยู่ในระนาบเดียวกัน จนทำให้เงาของโลกเรานั้นไปบดบังดวงจันทร์บางส่วนหรืออาจจะทั้งหมด หลังจากเวลาผ่านไปไม่นานเมื่อดาวทั้ง 3 ดวงโคจรออกจากแนวเดียวกัน ปรากฏการณ์ดังกล่าวก็จะหายไป 

ตามตำนานที่คนโบราณเล่าขานกันมาอธิบายว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการที่พระอาทิตย์นั้นมีปัญหาโกรธเคือง เมื่อครั้งที่บรรดาเทวดาได้ทำการกวนน้ำอมฤต เทวดาพยายามขัดขวางไม่ให้อสูรได้ดื่มน้ำอมฤตนั้นด้วย พระจันทร์และพระอาทิตย์ซึ่งเป็นเทวดาก็ได้รู้ความว่า พระราหูนั้นได้แอบเข้ามาดื่มน้ำอมฤต ทั้งสองจึงได้ไปทูลกับพระนารายณ์ให้ทราบ พระนารายณ์รู้สึกโกรธกริ้วเป็นอย่างมากจึงได้นำเอาจักรขว้างไปโดนพระราหูจนขาดออกเป็น 2 ท่อน 

แต่ถึงอย่างนั้นพระราหูก็ยังไม่สิ้นชีพเนื่องจากได้ดื่มน้ำอมฤตไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หัวนั้นได้กลายมาเป็นดาวพระเกตุ ส่วนท่อนล่างยังเป็นพระราหูตามเดิม ด้วยเหตุนี้พระราหูจึงประกาศเป็นอริศัตรูกับพระจันทร์และพระอาทิตย์แทบจะในทันที พระราหูนั้นจะคอยจับพระจันทร์หรือพระอาทิตย์อมหรือกินเข้าไปเป็นการแก้แค้น 

ส่วนที่มาของสีที่มีสีแดงเหมือนเลือดเมื่อเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคานั้น เกิดจากการที่พระอาทิตย์ได้ส่องแสงผ่านผิวดวงจันทร์ มีการหักเหของแสงทำให้แสงอาทิตย์นั้นมีการรวมกันทั้งหมด 7 สี ประกอบไปด้วยสีม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด และแดง โดยสีทั้งหมดนั้นจะมีความยาวคลื่นสั้นกว่าสีแดงทำให้สะท้อนหายไปหมด เหลือเพียงแค่สีแดงเท่านั้นที่ไปตกกระทบลงบนดวงจันทร์ จึงกลายมาเป็นจันทร์สีเลือดที่เราได้เห็นกันนั่นเอง 

ส่วนประวัติทางพุทธศาสนาเองก็มีเช่นเดียวกัน โดยกล่าวว่าพระราหูนั้นเป็นศัตรูกับพระจันทร์ ในอดีตเคยมีเศรษฐีคนหนึ่งที่มีชื่อว่าหัสวิสัย เขานั้นมีบุตรทั้งหมด 3 คน เมื่อถึงคราวที่บุตรจะต้องทำบุญให้กับบิดาพวกเขาก็ทำบุญตักบาตรร่วมกัน บุตรคนโตนั้นได้นำเอาขันทองมาใส่ของ บุตรคนรองนำเอาขันเงินมาใส่ ในขณะที่บุตรคนสุดท้ายแย่งของไม่ทัน เลยจำเป็นต้องเอากระบุงขนาดเล็ก ที่ใช้ในการตวงข้าวสมัยโบราณที่เรียกว่ากระทายมาใส่แทน ด้วยเหตุนี้น้องคนสุดท้องจึงรู้สึกโกรธเคืองพี่ของตนเองเป็นอย่างมาก 

เมื่อมีการตั้งจิตอธิษฐานพี่ทั้งสองคนต่างก็แย่งตำแหน่งดี ๆ กันไปจนหมด ลูกคนโตได้อธิษฐานขอให้ตนเองได้กลายเป็นพระอาทิตย์ ส่วนพี่คนร้องนั้นได้อธิษฐานขอให้ตนเองได้เป็นพระจันทร์ น้องคนสุดท้องที่คิดไม่ทันจึงโกรธแค้น และอธิษฐานขอให้ตนนั้นมีร่างกายใหญ่โต สามารถบดบังแสงของทั้งพระอาทิตย์และพระจันทร์ได้ เมื่อทั้ง 3 คนได้ตายไปก็ได้เกิดมาเป็นสิ่งที่ตนเองเคยอธิษฐานเอาไว้ น้องคนสุดท้องจึงได้เกิดใหม่เป็นพระราหูที่คอยบดบังแสงของทั้งพระจันทร์และพระอาทิตย์นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 

อยากโชคดีต้องไหว้กบกินเดือน 

เชื่อว่าทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า โหราศาสตร์นั้นมีความเกี่ยวข้องกับดวงชะตา เรื่องกบกินเดือนหรือจันทรุปราคาที่มีความเกี่ยวข้องกับพระราหู จึงกลายมาเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้คนต่างเคารพศรัทธา เกิดเป็นการบูชาราหูตามมาด้วย ถึงแม้ว่าตามประวัติแล้วเขานั้นจะเป็นอสูรที่แอบมากินน้ำอมฤตก็ตาม เนื่องจากเชื่อว่าเมื่อไหว้แล้วจะทำให้โชคดี โดยของที่ใช้ไหว้นั้นจะต้องเป็นของดำ 12 อย่างประกอบไปด้วยไก่ดำต้ม เครื่องดื่มสีดำอย่างเช่น น้ำอัดลมสีดำหรือกาแฟดำ ซุปไก่ ขนมเปียกปูน องุ่นดำ เฉาก๊วย ถั่วดำ ไข่พะโล้หรือไข่เยี่ยวม้า งาดำ คุกกี้สีดำ ข้าวเหนียวดำ และสาหร่าย ใช้ธูป 8 ดอก 

หลังจากไหว้เสร็จเป็นที่เรียบร้อยและธูปใกล้หมด ให้ลาของไหว้แล้วนำเอามารับประทาน เพื่อช่วยเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต ก่อนจะรับประทานของไหว้เข้าไปให้ท่องคาถา คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ หลังเสร็จสิ้นการไหว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วให้ทำบุญตามศรัทธาอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการถวายสังฆทานของที่เกี่ยวกับแสงสว่างอย่างเช่น การเติมน้ำมันตะเกียงหรือบริจาคหลอดไฟ ใส่บาตรพระ 8 รูปหรือ 12 รูป นั่งสวดมนต์ทำสมาธิในวันพุธกลางคืนเป็นประจำและท่องคาถาพระราหู 12 จบ