ของที่มีความเป็นสิริมงคลนั้นไม่ได้มีเพียงแค่เครื่องรางของขลังแต่อย่างใด อาหารเองก็มีความเป็นมงคลได้เช่นเดียวกันอย่างเช่น ขนมมงคล ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ มันเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในการใช้เลี้ยงแขกหรือทำพิธีสำคัญอย่างเช่น งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ การตั้งศาลพระภูมิ หรือแม้แต่งานเลี้ยงฉลองเพื่อแสดงความยินดีก็ตาม ขนมไทยเหล่านี้ไม่ได้มีดีเพียงแค่ความอร่อยแต่ยังมีความหมายดี ๆ สืบทอดมาตั้งแต่โบราณอีกด้วย ในวันนี้ สายมู.com จะพาทุกคนไปดูกันว่าขนมแต่ละชนิดมีความหมายอย่างไรและแต่ละงานนิยมใช้ขนมอะไรบ้าง
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เปิดความหมายของขนมมงคลแต่ละชนิด
- ทองหยิบ เป็นขนมมงคลที่ลักษณะจะคล้ายคลึงกับดอกไม้และมีสีทองเหลืองอร่าม มีความหมายถึงความร่ำรวยเงินทอง ไม่ว่าจะคิดทำสิ่งใดก็จะมีเงินทองไหลมาเทมาไม่ขาดมือ ช่วยเพิ่มโชคได้สมกับชื่อหยิบเงินหยิบทองของมัน
- ทองหยอด เป็นขนมที่ลักษณะจะใกล้เคียงกับหยดน้ำ เป็นคำอวยพรช่วยเสริมดวงให้ร่ำรวยเงินทองและโชคลาภ มีเงินทองใช้จ่ายไม่มีวันหมด การมอบขนมทองหยอดให้แก่กัน ก็เหมือนกับการมอบทองคำให้กันนั่นเอง
- ฝอยทอง เป็นขนมที่มีลักษณะเป็นเส้นยาววางเรียงกันเป็นแพ มีความหมายถึงการครองรักกันอย่างยืนยาว เป็นการอวยพรให้ชีวิตคู่ประสบความสำเร็จและอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่าเหมือนกับความยาวของเส้นขนมนั่นเอง
- เม็ดขนุน ไส้ทำมาจากถั่วเขียวบดละเอียดและนำมาชุบกับไข่แดงต้มในน้ำเชื่อมเดือด ๆ มีความหมายถึงการอุปถัมภ์ค้ำชู หนุนนำในเรื่องการงานหรือการประกอบกิจการสมชื่อเม็ดขนุนนั่นเอง
- ดาราทอง เป็นขนมที่หลายคนมักเข้าใจผิดเรียกว่าจ่ามงกุฎ แต่ความจริงแล้วมันเป็นขนมอีกชนิดที่แตกต่างกัน มักใช้ในพิธีการที่สำคัญเนื่องจากขั้นตอนการทำสลับซับซ้อน ด้านบนจะเป็นขนมสีเหลืองทอง ส่วนด้านล่างจะเป็นเม็ดแตงโมที่ถูกเคลือบด้วยน้ำตาล มีความหมายถึงเกียรติยศในหน้าที่การงาน ความสง่างาม การมีอำนาจบารมี จึงนิยมเลือกใช้ในงานแสดงความยินดีเมื่อมีผู้ที่ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง
- ทองเอก เป็นขนมที่พิเศษกว่าใครเพื่อนเพราะด้านบนจะติดทองคำเปลว มีความหมายถึงการเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง มักนิยมใช้เป็นของขวัญสำหรับการเฉลิมฉลองความสำเร็จในชีวิต
- ขนมชั้น เป็นขนมที่มักจะทำทั้งหมด 9 ชั้น ซึ่งเลข 9 นั้นก็เป็นเลขมงคลที่มีความหมายถึงยศถาบรรดาศักดิ์ที่สูงขึ้นหรือการได้รับการเลื่อนขั้น เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญก้าวหน้าและการอวยพรเพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลในชีวิต
- ถ้วยฟู เป็นขนมที่มีเนื้อนุ่มฟูและมีกลิ่นหอมของดอกไม้ ลักษณะจะใกล้เคียงกับขนมเค้กในต่างประเทศ มีความหมายถึงความเป็นสิริมงคลและการเจริญก้าวหน้าฟื้นฟูสมกับชื่อของพวกมัน
- เสน่ห์จันทร์ เป็นขนมไทยประยุกต์ที่จะปั้นเป็นลูกกลมๆ ด้านบนจะมีหน้าเป็นรูปวงแหวนสีน้ำตาล ซึ่งเป็นเนื้อขนมเดียวกันแต่ผสมผงจันทร์ป่นทำให้มีกลิ่นหอมขึ้นกว่าเดิม มีความหมายถึงความมีเสน่ห์ เป็นที่รักใคร่เอ็นดู ด้วยเหตุนี้จึงนิยมใช้ประกอบงานเฉลิมฉลองหรือแม้แต่มอบเป็นของขวัญแทนความรัก นั่นเอง
ขนมมงคลแต่ละชนิดใช้ในงานอะไร ไปดูกัน
แม้ว่าขนมมงคลแต่ละชนิดจะมีความหมายที่ดีเสียเหลือเกินจนเราอยากจะใช้มันในการทำพิธีกรรมทุกอย่างที่เป็นงานทำบุญดี ๆ หรืองานเลี้ยงฉลอง แต่ความจริงแล้วแต่ละโอกาสก็จะเลือกใช้ขนมที่แตกต่างกันออกไป ในวันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่า ขนมแต่ละชนิดจะนิยมใช้ในงานอะไรกันบ้าง
- งานขึ้นบ้านใหม่หรือก่อตั้งออฟฟิศใหม่ ส่วนใหญ่แล้วจะเลือกใช้ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน และขนมถ้วยฟู ซึ่งมีความหมายที่ดีในด้านการเริ่มต้นใหม่หรือการทำงาน
- งานแต่งงาน มักจะเลือกใช้ขนมที่มีความหมายถึงชีวิตคู่หรือการแบ่งปันสิ่งดี ๆ ร่วมกันอย่างเช่นทองหยิบ ฝอยทอง เม็ดขนุน ดาราทอง ถ้วยฟู เสน่ห์จันทร์ สามเกลอเป็นขนมที่ปั้นเป็นลูกกลม 3 ลูกติดกัน ใช้ในการเสี่ยงทายว่าคู่บ่าวสาวจะรักกันนานแค่ไหน หากทอดแล้วหลุดออกไป 1 ลูกหมายความว่าจะมีลูกยาก หากหลุดออกทั้งหมดก็มีความหมายถึงการแตกแยก แต่ถึงอย่างนั้นก็มีวิธีการแก้เคล็ดอยู่จึงไม่ต้องกังวลไป ขนมกงเป็นสัญลักษณ์ของกงเกวียนที่จะหมุนไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เปรียบเสมือนความรักที่คู่บ่าวสาวมีให้แก่กันนั่นเอง ข้าวเหนียวแก้ว เป็นการอวยพรให้ความรักของบ่าวสาวเหนียวแน่นเหมือนกับข้าวเหนียวแก้ว ขนมเทียน มีความหมายถึงความรุ่งโรจน์สว่างไสวเหมือนกับเทียน และโพรงแสมที่มีความหมายถึงเสาบ้านเสาเรือนให้ความรักยั่งยืนมั่นคง
- งานเฉลิมฉลองแสดงความยินดี โดยเฉพาะการได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ส่วนใหญ่ก็จะเลือกใช้ขนมที่มีความหมายเกี่ยวกับการมีอำนาจหรือการทำงาน อย่างเช่น ทองเอก เม็ดขนุน หรือดาราทอง
- งานบวช เป็นงานที่มักจะเลือกใช้ขนมที่มีความหมายถึงสิ่งดี ๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความสุขความเจริญหรือความร่ำรวยก็ตาม อย่างเช่น ทองหยิบ ทองหยอด ถ้วยฟู และขนมชั้น
นอกจากขนมเหล่านี้ที่ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นขนมไทยโบราณหรือเป็นขนมที่มีสีทองอร่าม ยังมีขนมอีกหลายชนิดเลยทีเดียว ที่เป็นขนมมงคลที่นิยมนำมาใช้ในงานมงคลอย่างเช่น ขนมต้มขาว ขนมต้มแดง ขนมดอกจอก ขนมเล็บมือนาง ขนมถั่วแปบ ข้าวเหนียวแดง หรือแม้แต่ขนมประเภทบวดทั้งหลายอย่างเช่น กล้วยบวชชี ฟักทองบวด มันบวด เป็นต้น
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีขนมที่หารับประทานยากที่นิยมใช้กันในวันสารทไทยอย่าง ข้าวมธุปายาส ที่มีปรากฏในพุทธประวัติหรือขนมกระยาสารท ที่เรามักจะรับประทานเล่นกันในตอนเด็ก ๆ อีกด้วย หรือในวันสงกรานต์ก็นิยมเลือกใช้ข้าวเหนียวแดง ขนมเปียก และกะละแมในงานเฉลิมฉลอง เพื่อช่วยเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับวันดี ๆ อย่างวันเริ่มต้นปีอีกต่างหาก