
เมื่อเราไปงานศพนั้นเราจะเห็นว่าสัปเหร่อจะทำการมัดตราสังทุกครั้ง การมัดตราสังศพนั้น ก็เพื่อไม่ให้ศพพองขึ้นจนดันโลงแตกเมื่อตอนขึ้นอืด จึงต้องมีการมัดให้แน่นและจัดให้ศพนอนตะแคงในโลง ส่วนการปล่อยเชือกมัดออกมานอกโลงนั้น ก็เพื่อผูกผ้าโยงเข้ากับพระบังสุกุล บุญจะได้แล่นเข้าถึงตัวศพ นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า การทำพิธีกรรมนี้ก็เพราะกลัวผีจะมารังควาน จึงมัดเสียแน่นหนา ไม่ต้องการให้ผีเดินไปมาได้ บางท่านอาจสงสัยว่าทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย วันนี้ สายมู.com มีคำตอบในเรื่องนี้ให้ทุกท่านได้อ่านกันค่ะ

การมัดตราสัง หรือ การตราสัง มีหมายความว่าอย่างไร ?
การตราสัง หมายความว่า การมัดศพ หรือการผูกศพให้เป็นเปลาะ ๆ ด้วยด้ายดิบ ส่วนคำว่า “สัง” นักปราชญ์บางท่านสันนิษฐานมาจากคำว่า “สังขาร” แต่เสถียรโกเศศ สันนิษฐานว่า “สาง” แปลว่า ผี มากกว่า สำหรับคำว่า “ดอยใน” นั้น “ดอย” เป็นกริยา มีความหมายว่า ผูก มัด ตอก ชก ตี ปา หรือทอย “ดอยใน” จึงหมายความว่า ผูกหรือมัดอยู่ข้างใน หมายความว่า การมัดศพ

วิธีขั้นตอนการมัดตราสัง
ก่อนนำศพใส่โลง สัปเหร่อจะจัดดอกไม้ธูปเทียนไปใส่มือศพ ให้ศพพนมมือไว้แล้วกล่าวบอกทางสวรรค์เพื่อให้วิญญาณของผู้ตายนำไปบูชาพระจุฬามณี โดยกล่าวตั้ง นะโม 3 จบแล้วกล่าวบอกทางสวรรค์ สัปเหร่อจะท่องคาถา จากนั้นกล่าวว่า เจ้าผู้มีนามว่า (ชื่อผู้ตาย) จงนำดอกไม้ไปไหว้พระจุฬามณี ท้าวศรีทันดร เพื่อความสุขสบายในภพภูมิใหม่ที่จะได้ไปจุติ จุติ จุตัง อะระหังจุติ ทั้งหมด 3 ครั้ง
การเสียชีวิตในสมัยก่อน หลังจากแต่งตัวให้ผู้ตายเรียบร้อยแล้ว หากเป็นศพของผู้ที่มีฐานะ จะมีการนำถุงผ้าขาวสวมบริเวณศีรษะ มือ และเท้า โดยที่มือทั้งสองข้างจะอยู่ในท่าพนมมือถือดอกไม้ ธูปเทียน จากนั้นสัปเหร่อจะนำด้ายดิบมามัดตราสัง ส่วนใหญ่จะนิยมมัดเป็น 3 เปลาะ มีความหมายดังนี้
ห่วงที่ 1 นำบ่วงคล้องที่คอจะท่องคาถา “ปุตโต คีว” หมายถึง ลูกเป็นห่วงผูกคอ
ห่วงที่ 2 โยงด้ายมากลางลำตัว ทำเป็นห่วงผูกนิ้วหัวแม่มือทั้งสองของผู้ตายให้มืออยู่ในลักษณะของท่าพนมโดยที่จะมีดอกไม้ ธูปเทียน ใส่ไว้ในมือ แล้วจึงรวบผูกมือไว้ที่กลางหน้าอก พร้อมท่องคาถา “ธน หตุเถ” หมายถึง ทรัพย์นับเป็นห่วงผูกมือ
ห่วงที่ 3 โยงด้ายมาที่ปลายเท้า ทำเป็นบ่วงผูกนิ้วหัวแม่เท้าและข้อเท้าทั้งสองข้างให้ติดกัน พร้อมท่องคาถา “ภริยา ปาเท” หมายถึง ภรรยานั้นนับเป็นห่วงผูกเท้า หากเป็นศพผู้หญิงใช้คาถาเดิม แต่เดินคาถาว่า ธนํ หัตเถ หมายถึง ทรัพย์คือห่วงผูกเท้า

ตามปริศนาธรรม 3 บ่วงนี้ นับเป็นสิ่งที่ผูกรั้งทุกชีวิตให้เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสาร หากต้องการหลุดพ้นได้ต้องละทั้ง 3 บ่วงให้ได้ก่อน เมื่อถึงเวลาเปิดโลงศพหลังจากสัปเหร่อเอาน้ำมะพร้าวล้างหน้าศพ จากนั้นเอาด้ายดิบขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ มัดเป็นเปลาะๆ ให้แน่นเป็น 5 เปลาะ ซึ่งจะสอดคล้องเป็นปริศนาธรรม ที่กล่าวถึง นิวรณ์ 5 อันประกอบไปด้วย
1. กามฉันทะ
2. ความพยาบาท
3. ความง่วงเหงาหาวนอน
4. ความฟุ้งซ่านรำคาญใจ
5. ความลังเลใจ
เหตุผลที่แท้จริงที่ต้องทำพิธีกรรมนี้นั้นเนื่องจากว่า สมัยก่อนไม่มีฟอร์มาลีนช่วยรักษาสภาพศพอย่างในปัจจุบัน เมื่อมีคนเสียชีวิตจึงต้องมัดศพให้แน่น เพราะหลังจากที่เสียชีวิตไปหลายวันแล้ว ศพจะบวมอืด จึงต้องมัดศพให้ดี เพื่อไม่ให้ร่างกายนั้นพองจนดันโลงปริแตกออกนั่นเอง