โทรศัพท์มือถือ อวัยวะที่ 33 ของมนุษย์เรา ขึ้นเชื่อว่าเป็นหนึ่งในสิ่งของที่มีความจำเป็น ความปลอดภัยก็ต้องให้ความสำคัญมาเป็นที่ 1 ด้วยเช่นกัน แต่จะดีกว่ามั้ยถ้าปรับมาใช้ รหัสแอปมงคล เพราะนอกจากจะมีความปลอดภัยตามมาตรฐานที่ควรจะเป็นแล้ว มันยังช่วยเสริมดวงให้กับเจ้าของโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้น ๆ ได้อีกด้วย กล่าวมาถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยว่า แล้วรหัสที่มีความเป็นมงคลนั้นจะมีวิธีการตั้งอย่างไร วันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่า วิธีการตั้งรหัสของโทรศัพท์มือถือรวมไปถึงแอปต่าง ๆ ให้มีความเป็นมงคลนั้น ต้องทำอย่างไร ตามมาดูพร้อมกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เปิดเคล็ดลับเสริมโชค วิธีตั้งรหัสแอปมงคลอย่างไรให้ปังตลอดทั้งปี
รหัสแอปมงคล เป็นสิ่งที่ต่อยอดมาจากความเชื่อเรื่องเลขนำโชค เพราะเราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า ตัวเลขที่อยู่รอบตัวเรานั้น ล้วนแล้วแต่มีพลังงานที่ช่วยให้ชีวิตของเราดีขึ้นหรือแย่ลงได้ เพราะฉะนั้นตัวเลขอะไรที่ควบคุมได้ อย่างเช่นพวกรหัสทั้งหลาย หากเราเลือกใช้ตัวเลขที่มีความเป็นสิริมงคลกับชีวิตของเรา มันก็มีส่วนช่วยให้ชีวิตของเราดีขึ้นได้เช่นกัน
นอกจากนี้แอปพลิเคชันต่าง ๆ บนโทรศัพท์มือถือ ปัจจุบันเราสามารถตั้งรหัสแอปเป็นรหัส PIN จำนวน 4-8 ตัวได้ ซึ่งตัวเลขเหล่านี้นั้น สามารถใช้เป็นรหัสแอปมงคลเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลได้ นอกจากนี้ ยังสามารถป้องกันการคาดเดาจากมิจฉาชีพหรือผู้ไม่ประสงค์ดีได้อีกด้วย ดีกว่าเราใช้ตัวเลขใกล้ตัวซึ่งสามารถคาดเดาได้ง่ายนั่นเอง
อันดับแรกเราขอพาทุกคนไปทำความเข้าใจก่อนว่าชุดตัวเลขตั้งแต่ 0-9 จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประกอบไปด้วย
- เลขที่ดี ประกอบไปด้วย 2, 4, 5 และ 6
- เลขที่ไม่ดี ประกอบไปด้วย 0, 1, 3, 7 และ 8
สำหรับใครที่สงสัยว่าแล้วเลข 9 หายไปไหน ความจริงแล้วเลข 9 เป็นตัวเลขที่ส่งผลเหมือนแว่นขยายของตัวเลขอื่น ๆ หากมันไปอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังของรหัสแอปมงคลที่ใช้ตัวเลขที่ดี ก็จะช่วยส่งเสริมให้ตัวเลขเลขเหล่านั้นยิ่งดีขึ้นกว่าเดิม หากมันไปอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังตัวเลขที่ไม่ดี มันก็จะยิ่งเพิ่มผลร้ายมากขึ้นกว่าเดิมด้วยเช่นกัน
การตั้งรหัสโดยใช้ตัวเลขประจำวันเกิดตามหลักทักษาปกรณ์
รหัสแอปมงคลตามหลักทักษาปกรณ์ น่าจะเป็นอะไรที่คุ้นหูสำหรับสายมูที่เคยตั้งชื่อมงคลมาก่อน เพราะมันคือศาสตร์ตัวเลขเดียวกันที่ช่วยเสริมดวงเราได้นั่นเอง โดยศาสตร์ดังกล่าวจะบอกว่า ตัวเลขไหนคือตัวเลขมงคลตามวันเกิดของเรา และเลขไหนเป็นเลขกาลกิณีตามวันเกิดที่ควรหลีกเลี่ยง
ตัวเลขที่ควรใช้
- คนเกิดวันจันทร์ ควรใช้เลข 5 และ 7
- คนเกิดวันอังคาร ควรใช้เลข 8 และ 5
- คนเกิดวันพุธกลางวัน ควรใช้เลข 6 และ 8
- คนเกิดวันพุธกลางคืน ควรใช้เลข 2 และ 3
- คนเกิดวันพฤหัสบดี ควรใช้เลข 1 และ 2
- คนเกิดวันศุกร์ ควรใช้เลข 3 และ 4
- คนเกิดวันเสาร์ ควรใช้เลข 1 และ 6
- คนเกิดวันอาทิตย์ ควรใช้เลข 4 และ 7
ตัวเลขที่ไม่ควรใช้
- คนเกิดวันจันทร์ ไม่ควรใช้เลข 1
- คนเกิดวันอังคาร ไม่ควรใช้เลข 2
- คนเกิดวันพุธกลางวัน ไม่ควรใช้เลข 3
- คนเกิดวันพุธกลางคืน ไม่ควรใช้เลข 5
- คนเกิดวันพฤหัสบดี ไม่ควรใช้เลข 7
- คนเกิดวันศุกร์ ไม่ควรใช้เลข 8
- คนเกิดวันเสาร์ ไม่ควรใช้เลข 4
- คนเกิดวันอาทิตย์ ไม่ควรใช้เลข 6
จะเป็นอย่างไรหากเลขในหมวดร้ายดันเป็นเลขที่ควรใช้รหัสแอปมงคลตามวันเกิด
หากสังเกตให้ดีเราจะพบว่า การตั้งรหัสแอปมงคลตามวันเกิดตามใช้หลักทักษาปกรณ์ บางคนอาจได้ตัวเลขที่จัดอยู่ในเลขที่ไม่ดี ที่ส่งผลเสียต่อดวงชะตา แต่ตัวเลขนั้นกลับกลายเป็นเลขมงคลประจำวันเกิดของเรา ซึ่งเราก็สามารถใช้ตัวเลขเหล่านี้ในการตั้งรหัสได้เหมือนกัน ไม่ได้ส่งผลแย่ต่อชะตาชีวิตของคุณแต่อย่างใด
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการตั้งรหัสแอปมงคลเหมือนกันนั่นก็คือ ต่อให้มันจะเป็นเลขที่ดีตามวันเกิดของเราแค่ไหน แต่หากมันจัดอยู่ในหมวดตัวเลขที่ไม่ดี เราก็ไม่ควรนำเอาเลขร้ายมาอยู่ใกล้กับเลขที่ส่งผลร้าย และไม่ควรนำเอาเลข 9 มาวางใกล้กับเลขที่ส่งผลร้ายด้วย
ยกตัวอย่างวิธีการตั้งรหัสแอปมงคลง่าย ๆ อย่างเช่น หากคุณเกิดวันจันทร์ เลขที่คุณควรใช้คือเลข 7 และเลข 5 ส่วนเลขที่คุณหลีกเลี่ยงคือเลข 1 เลข 5 ถือเป็นเลขในหมวดดี แต่เลข 7 จัดอยู่ในโหมดเลขไม่ดี หากคุณตั้งรหัสจำนวน 6 ตัว ให้คุณนำเอาเลข 9 ขึ้นก่อนเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับเลข 5 จากนั้นตามด้วยเลข 7 เลขที่คุณชื่นชอบ ลงท้ายด้วยเลข 5 แล้วปิดท้ายด้วยเลข 9 อีกครั้ง ก็จะกลายเป็น 957259 เป็นต้น
สาเหตุที่ให้ทุกคนนำเอาเลขที่ชื่นชอบมาคั่นไว้ตรงกลางนั่นก็เป็นเพราะว่า เลขที่เป็นมงคลกับวันเกิดของเรามีเพียงแค่ 2 ตัวเท่านั้น เมื่อรวมเข้ากับเลข 9 ที่เปิดหน้าและปิดท้ายอีก 2 ตัวก็จะกลายเป็น 4 ตัวพอดี หากเป็นรหัส 6 ตัวก็อาจจะเหลือที่ว่างประมาณ 1-2 ตัวได้ ให้คุณนำเอาเลขที่อยู่ในหมวดดีมาใส่เติมลงในช่องว่าง เพียงเท่านี้คุณก็จะได้รหัสแอปมงคลเอาไว้ใช้งานแล้ว
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com
