สักน้ำมัน การประทับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงบนร่างกายแบบที่คนอื่นมองไม่เห็น

by saimu
0 comment
สักน้ำมัน

การสักน้ำมันนั้นเป็นรูปแบบการประทับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงบนร่างกาย ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากมายเป็นระยะเวลาร่วม 10 ปีแล้ว ต้องเท้าความก่อนว่า ด้วยวัฒนธรรมและความเชื่อในประเทศไทยนั้นการสักไม่ได้เป็นการบันทึกลวดลายศิลปะลงบนผิวหนังเหมือนกับในต่างประเทศแต่อย่างใด เรามีความเชื่อที่ค่อนข้างแย่เกี่ยวกับรอยสักว่าเป็นคนไม่ดี ในขณะที่ความเป็นจริงแล้วสำหรับคนโบราณต่างก็สักกันทั้งนั้น เพียงแต่สิ่งที่พวกเขาประทับลงไปบนร่างกาย เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่าจะช่วยเพิ่มโชคลาภเงินทอง หรือแม้แต่คุ้มครองให้พ้นจากอันตราย วันนี้ สายมู.com จะพาทุกคนมาดูกันว่า การสักแบบน้ำมันนั้นมีความแตกต่างและความน่าสนใจอย่างไร

ทำความรู้จักกับการสักน้ำมัน การปลุกเสกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงบนผิวหนัง

สักน้ำมัน

ความจริงแล้วการสักน้ำมันนั้นก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากการสักแบบธรรมดาทั่วไป วิธีการรวมไปถึงลักษณะนั้นเหมือนกับการสักยันต์แบบไม่มีผิดเพี้ยน เพียงแต่สิ่งที่ใช้สักลงไปในร่างกายไม่ใช่น้ำหมึกแต่เป็นน้ำมันแทน ย้อนกลับไปในยุคโบราณที่เราต้องรบทัพจับศึกกับประเทศเพื่อนบ้าน คนธรรมดาทั่วไปคงไม่อยากเอาชีวิตไปทิ้งเปล่าๆ ในสนามรบ สิ่งที่จะช่วยให้พวกเขาเหล่านั้นมีความมั่นใจและกล้าสู้มากขึ้นกว่าเดิมก็คือ การพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง 

การสักยันต์จึงเป็นความเชื่อว่าสามารถเพิ่มความแข็งแกร่ง ความอยู่ยงคงกระพัน ช่วยคุ้มครองจากอันตราย แถมยังช่วยให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นมาได้ ดังนั้นคนที่สักจะต้องเป็นคนที่มีความเคารพศรัทธาในครูบาอาจารย์ เป็นคนที่มีคุณธรรมอยู่ในใจ หลังจากสักไปแล้วก็ใช่ว่าจะสามารถดำรงชีวิตได้ตามเดิม เพราะการสักยันต์ไม่ว่าจะเป็นแบบน้ำมันหรือหมึกธรรมดา ก็ล้วนแล้วแต่มีวิธีปฏิบัติที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดด้วยกันทั้งสิ้น 

โดยน้ำมันที่ใช้ในการสับนั้นจะเป็นน้ำมันว่าน 108 ที่ช่วยเพิ่มเมตตามหานิยม เมื่อสักลงไปบนผิวหนังแล้วจะไม่เห็นและไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ครูบาอาจารย์บางท่านหรือบางสำนักก็มีการผสมน้ำมันปลาพะยูน น้ำมันช้างตกมัน หรือน้ำมันเสือโคร่งลงไปด้วย โดยปกติยันต์ที่ใช้สักนั้นจะเป็นอักขระขอมหรือลวดลายสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างเช่น ฤาษี เสือเผ่น ห้าแถว เก้ายอด เป็นต้น 

รวมข้อห้ามที่คนสักห้ามทำโดยเด็ดขาด

สักน้ำมัน

อย่างที่เรากล่าวไปข้างต้นว่า การสักน้ำมันนั้นก็เป็นการสักยันต์ประเภทหนึ่งที่มีกฎระเบียบและข้อห้ามที่ต้องประพฤติปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยข้อห้ามของคนที่ไปสักจะต้องไม่ลอดราวตากผ้า ห้ามกินของเหลือของคนอื่น ห้ามกินผักปลังหรือผักที่ลื่น ห้ามกินผักเขียวที่ลักษณะคล้ายคลึงกับหน้าอกของผู้หญิง ห้ามกินมะเฟืองเนื่องจากมีลักษณะคล้ายคลึงกับอวัยวะเพศหญิง ห้ามลอดต้นกล้วย ห้ามรอดเงาใต้ปราสาท หรือเต็นท์คลุมงานศพ ห้ามกินของในงานศพ หรือสูดกลิ่นอายในงานศพ ห้ามลอดใต้ถุนบ้าน หากต้องการเคี้ยวใบพลูให้เด็ดใบออก ห้ามถ่มน้ำลายลงในชักโครก ห้ามใครจับ หรือลูบหัวโดยเด็ดขาด 

ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับเครื่องรางของขลังเพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com

You may also like

Leave a Comment