คงจะดีไม่น้อยหากเราได้เป็นคนที่มีเสน่ห์ ไม่ว่าจะทำอะไรหรือไปไหนมาไหนก็ราบรื่นไปได้ด้วยดี เพราะมีคนคอยหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ มันจึงไม่น่าแปลกใจ พิธีนะหน้าทองจึงกลายมาเป็นวิชามหาเสน่ห์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากพิธีดังกล่าวจะช่วยให้เรานั้นกลายเป็นคนที่มีเสน่ห์ เดินทางไปไหนมาไหนก็มีแต่ผู้คนรักใคร่เอ็นดู ยิ่งทำงานในวงการบันเทิงหรือต้องติดต่อสื่อสารกับผู้คนมาก ๆ ด้วยแล้ว ยิ่งเป็นพิธีที่ช่วยเสริมหน้าที่การงานแบบสุด ๆ พิธีดังกล่าวคืออะไร ประวัติความเป็นมาน่าสนใจมากแค่ไหน วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพิธีกรรมนะหน้าทองกัน ไปติดตามกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับนะหน้าทอง ศาสตร์ที่มีรากฐานมาจากวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์
นะหน้าทอง เป็นพิธีกรรมที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยเป็นอย่างมาก ช่วยเสริมเมตตามหานิยมได้เป็นอย่างดี ถูกสืบทอดกันมาในประเทศไทยกว่า 100 ปีแล้ว แม้ว่าในตอนนี้วิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยีจะเข้ามามีส่วนสำคัญในสังคมมากขึ้น แต่พิธีกรรมนะหน้าทองก็ไม่ได้หายไปจากสังคมไทยแต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังได้รับความนิยมมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนักธุรกิจ นักแสดงผู้มีชื่อเสียงทั้งหลาย ต่างก็ทำนะหน้าทองกันทั้งสิ้น ทำเอาคนธรรมดาอย่างเราอดอยากรู้อยากเห็นเป็นไม่ได้ว่ามันคืออะไรกันแน่ พิธีกรรมดังกล่าวเป็นวิชามหาเสน่ห์ที่มีรากฐานมาจากศาสนาพราหมณ์
มีความเชื่อมโยงกับวรรณคดีในอินเดียที่ได้รับความนิยมอย่างรามายณะ หรือที่ถูกดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่นภาษาไทยในชื่อรามเกียรติ์นั่นเอง เรื่องราวเล่าถึงน้องชายของพระรามผู้มีชื่อว่าพระลักษณ์ ชายหนุ่มรูปงาม เนื้อตัวเป็นสีทองอร่ามผ่องใส มนุษย์หรือเทวดาผู้ใดที่ได้เห็นก็ต่างรักใคร่เอ็นดู
คุณลักษณะดังกล่าวจึงกลายมาเป็นคติในวิชาเมตตามหานิยมทั้งหลาย ในเมื่อพระลักษณ์มีรูปกายเป็นสีทองแล้วได้รับความนิยมชมชอบ จึงมีการใช้แผ่นทองคำเปลวปลุกเสกเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของพระลักษณ์ จากนั้นก็ประกอบพิธีลงอักขระคาถาตามตำราของครูบาอาจารย์แต่ละคน
สาเหตุที่พิธีนะหน้าทองต้องใช้ทองคำเปลวในการทำพิธีกรรม เนื่องจากทองคำคือธาตุมงคลที่สามารถดูดซับความเป็นสิริมงคลได้ มีคัมภีร์ไสยเวทระบุว่าทองคำมีแสงสว่างในตัวเอง ไม่ว่าจะมีอะไรเข้ามากระทบกระเทือนก็จะไม่เสื่อมคุณค่าลงแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามการใช้ทองคำในพิธีนั้นเป็นพิธีสำหรับยุคใหม่แล้ว เพราะในอดีตพิธีต้นตำรับโบราณจำเป็นจะต้องสักหมึกลงบนผิวหนังบริเวณขมับเป็นอักษรขอม เขียนคำว่านะลงไป มาจากคาถาเต็ม ๆ ว่า นะ โม พุท ธา ยะ อุ จันท์ สูญญ์ ณะ
ขณะลงนะหน้าทองก็จะต้องปลุกเสกตัวอักษรขึ้นมา แถมเวลาที่จะใช้ก็ยังต้องท่องคาถาปลุกขึ้นอีกครั้ง การออกจากบ้านพร้อมกับความเป็นมงคลในแต่ละครั้งสมัยอดีตจึงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่อย่างใด ในยุคนี้พิธีดังกล่าวจึงเสริมความนิยมลงไปและเปลี่ยนรูปแบบจนเหมือนกับในปัจจุบันแทน
พุทธคุณของการลงนะหน้าทอง
การลงนะหน้าทองเป็นพิธีที่มีความเชื่อมโยงกับความเชื่อ เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจให้ผู้คนมีความมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิมว่า ได้รับการเสริมดวงด้านเสน่ห์มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นคนที่มีโชคลาภบารมี เวลาจะทำอะไรก็มีความมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม ชีวิตของคนที่ทำพิธีดังกล่าวจึงเจริญรุ่งเรือง
หากในอดีตเคยไร้เสน่ห์ ไม่มีที่พึ่งพา หลังจากลงนะหน้าทองแล้วก็จะมีคนมารักใคร่เอ็นดู เมตตา หยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้ จากที่เคยขายของไม่ได้ ก็สามารถทำกำไรได้เสียอย่างนั้น ช่วยให้สมหวังตามความปรารถนา แถมยังสามารถพลิกดวงร้าย ๆ ให้กลับกลายมาเป็นดีได้อีกด้วย
บริเวณที่นิยมทำพิธีนะหน้าทอง
นะหน้าทอง เป็นพิธีที่ช่วยเสริมเสน่ห์และความมั่นใจให้กับทุกคน ดังนั้นแน่นอนว่ามันก็ต้องทำพิธีกันบนใบหน้า แถมในชื่อก็ยังพูดถึงใบหน้าอีกต่างหาก แต่ความจริงแล้วเราสามารถลงได้หลายจุดตามร่างกายแล้วแต่ความต้องการ แต่ละจุดก็จะให้ผลที่แตกต่างกันออกไปด้วย ดังนี้
- หน้าผาก เป็นบริเวณที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการลงนะหน้าทอง เป็นผลพวงมาจากการทำพิธีในสมัยอดีตที่จะทำการสักอักขระลงบนหน้าผากเช่นเดียวกัน เนื่องจากบริเวณนี้เป็นจุดที่มีความสำคัญบนใบหน้าของเรา มีความโดดเด่นและขนาดใหญ่มากที่สุด มันจึงเป็นแหล่งรวมความเป็นสิริมงคล นั่นเอง
- แก้ม เป็นจุดที่จะช่วยเสริมเรื่องความเมตตาได้เป็นอย่างดี เวลาตกทุกข์ได้ยากก็มีคนหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้ หากทำมาค้าขายลูกค้าก็จะเอ็นดูและกลับมาอุดหนุนซ้ำ
- กราม เป็นจุดที่หากทำพิธีลงนะหน้าทองแล้วก็จะช่วยให้การพูดจามีความน่าเชื่อถือมากขึ้นกว่าเดิม
- ดวงตา ทั้งบริเวณเปลือกตาหรือใต้ตาก็ตาม เชื่อว่าจะช่วยให้ผู้คนตกหลุมรักและนิยมชมชอบในตัวเราเมื่อได้สบตากัน
- ขมับ เป็นพื้นผิวบริเวณด้านข้างหน้าผากของเรา ผู้คนโบราณเชื่อกันว่ามันเป็นจุดเข้าออกของพลังชีวิต เป็นแหล่งสิงสถิตของเหล่าเทวดาผู้ปกปักรักษา ดังนั้นจึงช่วยเสริมเรื่องความแคล้วคลาดปลอดภัยได้เป็นอย่างดี
- ติ่งหู เป็นบริเวณที่วิญญาณสิงสถิตอยู่ ดังนั้นจึงนิยมลงนะหน้าทองเพื่อขอให้เทวดาคอยปกปักรักษาเรา ให้มีอายุยืนยาวมากขึ้นกว่าเดิม
- คาง เป็นจุดที่อยู่ต่ำสุดบนใบหน้า ดังนั้นมันจึงช่วยเพิ่มความน่าเคารพยำเกรงและเป็นคนที่ดูมีความมั่นคงมากขึ้นกว่าเดิม
- ลิ้น เป็นอีกหนึ่งจุดที่ได้รับความนิยมลงนะหน้าทองไม่แพ้จุดอื่น เนื่องจากจะช่วยให้การพูดจาของเราเป็นที่น่าพอใจสำหรับคนอื่น แถมยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้ด้วย
- ท้ายทอย เป็นจุดที่ช่วยให้เรามีเสน่ห์ คือคนตกหลุมรักได้แม้แต่เวลาที่มองจากข้างหลังก็ตาม
รวมเรื่องต้องห้ามที่คนลงนะหน้าทองห้ามทำโดยเด็ดขาด
สำหรับใครที่อยากให้การลงนะหน้าทองของตนเองไม่เสียเปล่า แถมยังช่วยเพิ่มโชคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม แค่ทำพิธีอย่างเดียวคงไม่พอ แต่หลังจากทำพิธีเรียบร้อยแล้วก็มีข้อห้ามมากมายที่ถูกกำหนดไม่ให้คนทำพิธีดังกล่าวทำโดยเด็ดขาด ข้อห้ามมีดังนี้
- การพูดจาหยาบคาย ว่าร้ายผู้อื่น การด่าว่าผู้มีบุญคุณ ทั้งพ่อแม่และครูบาอาจารย์
- ห้ามถุยน้ำลายลงในโถส้วม
- ห้ามรับประทานอาหารเหลือจากผู้อื่น
- ห้ามดื่มน้ำร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะอยู่ในขวดหรือแก้วเดียวกันก็ตาม
- ห้ามรับประทานอาหารเซ่นไหว้
- ห้ามรับประทานอาหารในงานศพ
- ห้ามให้คนมาจับหัวหรือเล่นหัว
- ห้ามลอดใต้ราวตากผ้า
- ห้ามลอดต้นกล้วยที่ด้านบนมีหัวปลีอยู่
- ห้ามลอดใต้ถุนบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่มีศพอยู่ด้านบน
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com