บาป 7 ประการ ความบาปของมนุษย์ที่ถูกบัญญัติเอาไว้ทั้งหมด 7 ประการ

ในแต่ละศาสนาก็มีสิ่งที่ผู้คนเชื่อแตกต่างกันออกไป แม้แต่ในคริสต์ศาสนิกชนเองก็มีเรื่องบุญบาปที่พวกเขาเชื่อด้วยเช่นเดียวกัน หลายคนน่าจะเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ บาป 7 ประการ มาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย มันเป็นหลักคำสอนที่ถูกสั่งสอนกันมาตั้งแต่ในยุคโบราณ ไม่ให้มนุษย์ทำไปตามสัญชาตญาณของตัวเองมากจนเกินไปและเบียดเบียนผู้อื่น ด้วยเหตุนี้เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าบาป 7 ประการที่เราได้กล่าวไปนั้น มีอะไรอยู่บ้าง ไปติดตามกันได้เลย

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

เปิดบาป 7 ประการ มีอะไรบ้างไปดูกันเลย 

1.ราคะ 

บาป 7 ประการ ข้อแรกในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ที่มีความหมายถึงความต้องการทางเพศที่หมกมุ่นจนเกินไป ความต้องการได้รับความสนใจ ความเร้าใจที่ผิดปกติอย่างเช่น การมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนในครอบครัวหรือการมีเพศสัมพันธ์กับสัตว์ การมีชู้ การข่มขืนผู้อื่น สัญลักษณ์ของบาปดังกล่าวนั้นเป็น แพะ ผู้ใดก็ตามที่กระทำบาปในข้อนี้ จะถูกลงรมสารกำมะถันและไฟรวมไปถึงการตัดอวัยวะเพศเป็นการลงโทษ

2.ตะกละ 

ไม่ใช่แค่ความต้องการในการรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันยังเป็นความต้องการที่ไม่ยั้งคิดจนเบียดเบียนหรือมุ่งร้ายผู้อื่น การบริโภคสิ่งต่างๆ มากจนเกินความจำเป็น นับว่าเป็นปีศาจเพราะว่าการทำบาปดังกล่าวจะทำให้ถูกชักจูงไปทำบาปอย่างอื่นได้ง่าย สัญลักษณ์ของบาปดังกล่าวจึงเป็น หมู ผู้ใดที่กระทำบาปในข้อนี้จะถูกลงโทษด้วยการโดนหนู งู หรือคางคกกินทั้งเป็น 

3.โลภะ 

เป็นความทะเยอทะยานเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการโดยไม่คำนึงถึงวิธีการหรือคุณธรรม ไม่ว่าจะเป็นการยักยอกทรัพย์ การขโมย การปล้นจี้ การไม่ช่วยเหลือหรือแบ่งปันผู้อื่น การกระทำทุจริต สัญลักษณ์ของบาปข้อนี้คือ กบ ผู้ที่โลภมากจนเกินไปจะถูกลงโทษด้วยกันนำเอาตัวไปแช่อยู่ในน้ำมันเดือด 

4.เกียจคร้าน 

เป็นหนึ่งในบาป 7 ประการที่แสดงถึงการใช้เวลาไปโดยไร้ค่า ไม่ยอมทำอะไรขึ้นมาเลยแม้แต่อย่างเดียว ไม่สนใจความเปลี่ยนแปลง ปล่อยให้คนอื่นต้องทำงานหนักเพื่อตนเอง ละเลยหน้าที่ สัญลักษณ์ของบาปดังกล่าวคือ แพะ ผู้ที่กระทำบาปจะถูกลงโทษด้วยการโยนลงไปอยู่ในบ่อของงูพิษ 

5.โทสะ 

เป็นความพยาบาทอาฆาตแค้นหรือความโกรธเคือง ไม่สามารถยอมรับในบางสิ่งบางอย่างได้ แสวงหาวิธีการเพื่อให้สามารถแก้แค้นได้ตามความต้องการ มุ่งร้ายที่จะทำอะไรก็ตามกับคนที่เราไม่ชอบ หรือแม้แต่การที่เราไม่ชอบคนอื่นโดยไม่มีเหตุผล อย่างเช่นการเหยียดสีผิว สัญลักษณ์ของบาปดังกล่าวคือ หมี ใครที่ทำบาปในข้อนี้จะโดนลงโทษด้วยการฉีกร่างทั้งเป็นซ้ำไปซ้ำมา 

6.ริษยา 

เป็นความรู้สึกที่ไม่ยอมรับว่าผู้อื่นดีกว่าตนเองไม่ว่าจะในด้านใดก็ตาม ทำให้รู้สึกรังเกียจตัวเอง อยากเป็นคนอื่น และมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างเช่น การทำลายผู้อื่นหรือการขโมยข้าวของ สัญลักษณ์ของบาปดังกล่าวนั้นคือ สุนัข ผู้ใดก็ตามที่กระทำบาปจะต้องถูกลงโทษด้วยการเย็บตา 

7.อัตตา

เป็นสุดยอดของบาป 7 ประการ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความต้องการมีอำนาจเหนือผู้อื่นและได้รับความสำคัญกว่าผู้ใด ต้องการเป็นที่รักมากเกินขอบเขต หลงใหลในรูปลักษณ์หรืออำนาจของตนเอง ไม่เคารพใครทั้งสิ้นและต่อต้านผู้คนไปทั่ว สัญลักษณ์ของบาปดังกล่าวนั้นมีทั้ง นกยูง ม้า และสิงโต ผู้ใดที่กระทำผิดบาปดังกล่าว จะถูกทรมานด้วยการจับมัดเข้ากับวงล้อแล้วปล่อยให้วงล้อหมุนไปเรื่อย ๆ 

สิ่งสุดท้าย 4 อย่าง สิ่งที่มาคู่กับบาป 7 ประการที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน 

นอกจากบาป 7 ประการที่เป็นความเชื่อของชาวคริสต์แล้ว ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่อยู่คู่กัน นั่นก็คือ สิ่งสุดท้าย 4 อย่าง เพียงแต่มันไม่ค่อยจะได้รับการพูดถึงสักเท่าไหร่ แต่มันก็ถูกบรรจุอยู่ใน 1 คำสอนจากสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรี่ที่ 1 ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 6 เช่นเดียวกัน 

มันเป็นสิ่งที่จะตามมาจากการพฤติกรรมทั้งหลายในตอนที่เรายังคงเป็นมนุษย์ หลักฐานในปัจจุบันคืองานภาพสีน้ำมันบนไม้ของศิลปินอย่าง ฮีเยโรนีมึส โบส ที่ยังคงเป็นที่โต้เถียงกันว่า ผลงานดังกล่าวเป็นผลงานของเขาจริงหรือไม่ ซึ่งงานชิ้นดังกล่าวถูกวาดขึ้นมาในศตวรรษที่ 1500 ปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑ์ปราโด เมืองมาดริด ประเทศสเปน 

รูปวาดดังกล่าวนั้นเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมโดยข้างในนั้นมีวงกลมอยู่ทั้งหมด 5 วง วงในสูตรเป็นวงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดโดยระบุถึงบาปทั้ง 7 ของมนุษย์ ส่วนด้านนอก 4 วงนั้นเป็นสิ่งสุดท้าย 4 อย่างที่เราจะพูดถึงกัน นั่นเอง 

หากคุณทำบาป 7 ประการหรือละเว้นการทำบาป สิ่งที่จะพบเจอก็คือสิ่งที่อยู่ในวงกลมเล็ก ๆ เหล่านั้น ซึ่งจะประกอบไปด้วย ความตาย การตัดสิน สวรรค์ และนรก ตรงกลางสุดของวงกลมนั้นจะมีลักษณะเหมือนกับพระเนตรของพระเจ้า โดยในรูปที่ปรากฏจะเป็นรูปของพระเยซูที่โผล่พ้นขึ้นมาจากโลง เป็นการเตือนว่าไม่ว่า อะไรก็ตามที่เราทำในตอนที่เป็นมนุษย์อยู่นั้นถูกมองเห็นทั้งหมดทั้งสิ้น 

ด้านบนและด้านล่างของภาพนั้นมีภาษาละตินเขียนกำกับอยู่ ซึ่งมีความหมายว่า พวกเขานั้นเป็นชนชั้นที่ไร้ซึ่งความคิด ไม่มีความฉลาดหลักแหลม และข้อความที่มีความหมายว่า หากพวกเขาฉลาดและเข้าใจก็จะสามารถมองออกได้ว่า บั้นปลายของตนเองจะเป็นอย่างไร เปรียบเสมือนกับคำสอนที่ว่า หากเราทำบาปสุดท้ายแล้วเราก็จะตกสู่นรก แต่หากเราไม่ประพฤติบาปเมื่อตายไปจะได้ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์อย่างสงบสุข นั่นเอง

ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com