ในประเทศไทยนั้นมีเรื่องลี้ลับมากมายอยู่เต็มไปหมด แต่บางอย่างก็ยากเกินกว่าจะทำความเข้าใจได้ และเรื่องราวของ ผีตากผ้าอ้อม ก็เป็นหนึ่งในเรื่องราวลี้ลับที่หาคำอธิบายได้ยาก หากฟังจากชื่ออย่างผิวเผินทุกคนคงจะนึกถึงภูตผีวิญญาณอย่างแน่นอน แต่ความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่ภูตผีวิญญาณแต่อย่างใด แต่กลับเป็นชื่อเรียกช่วงเวลาต่างหาก ด้วยเหตุนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับช่วงเวลาดังกล่าวกันว่า มันเป็นอย่างไรและมีอะไรที่ผู้คนเชื่อเกี่ยวกับช่วงเวลานี้กันบ้าง
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับปรากฏการณ์ผีตากผ้าอ้อม ช่วงเวลาโพล้เพล้ที่ทั้งสวยงามและเต็มไปด้วยเรื่องลึกลับ
ผีตากผ้าอ้อม ไม่ได้เป็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติแต่อย่างใด มันเป็นปรากฏการณ์ปกติทั่วไปที่สามารถพบได้ในช่วงเย็นหรือช่วงหัวค่ำในบางวัน หากมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเราจะพบว่าท้องฟ้าเป็นสีฟ้า สีเหลือง สีส้ม สีชมพู สีแดง บางครั้งก็มีสีเดียว บางครั้งก็มีหลายสีปะปนกันไป หรือที่ในต่างประเทศเรียกกันว่า VANILLA SKY
ความจริงแล้วมันเป็นช่วงเวลาที่บรรยากาศโรแมนติกและดูอบอุ่นมากที่สุด แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นช่วงเวลาที่ทำให้ผู้คนรู้สึกซึมเศร้า รวมไปถึงง่วงเหงาหาวนอนได้มากที่สุดเช่นเดียวกัน สาเหตุที่ทำให้เรานั้นมองเห็นท้องฟ้าเป็นสีต่าง ๆ เกิดจากแสงสีขาวที่ส่งมาจากพระอาทิตย์โดนโมเลกุลในอากาศ
จนทำให้ถูกแยกออกมาในลักษณะหลายสีสันและแผ่กระจายในทิศทางที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นแสงสีน้ำเงิน ที่มีความยาวคลื่นสั้นก็จะเจออยู่บนท้องฟ้า แสงสีแดงที่มีความยาวคลื่นยาวก็จะถูกแผ่กระจายลงมาด้านล่างบริเวณขอบของดวงอาทิตย์ ช่วงเวลาดังกล่าวนั้นจะกินเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงต่อวัน
ดังนั้นปรากฏการณ์ผีตากผ้าอ้อมจึงไม่ได้มีความหมายถึงภูตผีปีศาจหรือสิ่งลี้ลับแต่อย่างใด แต่มันเป็นชื่อเรียกช่วงเวลาธรรมดาทั่วไปที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ทั่วโลกต่างหาก สาเหตุที่คนไทยเรียกชื่อช่วงเวลาดังกล่าวในลักษณะของเรื่องราวลี้ลับเหนือธรรมชาตินั้น เกิดมาจากความเชื่อในสมัยก่อนที่เชื่อว่า
ช่วงเวลาพลบค่ำจะเป็นช่วงเวลาที่โลกของวิญญาณหรือภูตผีปีศาจเชื่อมต่อเข้ากับโลกของมนุษย์ บรรดาสิ่งเหนือธรรมชาติทั้งหลายจึงได้เวลาออกมาเพ่นพ่านบนโลก และหนึ่งในนั้นก็คือ ผีตายทั้งกลมหรือผีที่ตายไปพร้อมกับลูก จะออกมาในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อซักผ้าอ้อมและตากผ้าอ้อมให้ลูกตนเอง
ด้วยเหตุนี้ปรากฏการณ์ผีตากผ้าอ้อมจึงไม่ได้เป็นตำนานความน่ากลัว ที่ผู้คนพบเจอหญิงสาวมาซักผ้าอ้อมหรือตากผ้าอ้อม ก่อนจะพบว่าเป็นผีในภายหลังแต่อย่างใด ซึ่งในความจริงแล้วมันเป็นเพียงแค่ชื่อเรียก ที่เหมือนกับสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ เพื่อเป็นกุศโลบายไม่ให้คนนอนหลับในช่วงเวลาตอนเย็นหรือพลบค่ำเสียมากกว่า
เนื่องจากการนอนหลับในช่วงเวลาดังกล่าวจะทำให้ฝันร้าย ตื่นมาแล้วรู้สึกเหนื่อยหรือปวดหัวอย่างรุนแรง บางคนที่มีอาการรุนแรงอาจถึงขั้นเป็นไข้ไม่สบาย ในบางคนที่นอนหลับไม่สนิทก็อาจจะมีอาการผีอำร่วมด้วย จนทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวถูกนำเอาไปผูกกับเรื่องราวของภูตผีปีศาจและวิญญาณ
ในอดีตผู้คนเชื่อว่ามันเกิดจากช่วงเวลาเย็นหรือพลบค่ำนี้ เป็นช่วงเวลาที่วิญญาณได้เดินทางกลับมายังโลกมนุษย์ พวกเขาต้องการที่จะมีกายเนื้อเป็นของตนเอง จึงพยายามเข้าสิงร่างของผู้ที่กำลังหลับอยู่ นอกจากนี้ยังมีผู้คนกลุ่มอื่นนอกจากคนไทยที่เชื่อว่า ไม่ควรนอนในช่วงเวลานี้อีกด้วยอย่างเช่น
ในศาสนาฮินดูเชื่อกันว่า ช่วงพลบค่ำและช่วงรุ่งสาง เป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญ เทพเจ้าจะเสด็จลงมาเพื่อให้พรแก่มนุษย์ ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมความพร้อมในการรับพรจากเทพเจ้าแทนที่จะไปงีบหลับ
เพราะเหตุใดคุณจึงไม่ควรนอนในช่วงเวลาผีตากผ้าอ้อม
เชื่อว่าคนไทยหลายคนก็น่าจะเคยได้ยินวลีที่กล่าวว่า ไม่ควรนอนในช่วงผีตากผ้าอ้อม ถึงแม้ว่าจะฟังดูเป็นเรื่องเล่าขานที่เป็นกุศโลบายเพียงเพื่อไม่ให้นอนตอนเย็นเท่านั้น แต่ในทางวิทยาศาสตร์การนอนในช่วงเวลาดังกล่าวก็ส่งผลเสียต่อร่างกายเช่นเดียวกัน
สาเหตุแรกเลยก็คือ การนอนหลับในช่วงเวลาดังกล่าวจะทำให้นาฬิกาภายในร่างกายของเราเกิดการรวน เนื่องจากเรานอนผิดเวลา ร่างกายรวมและสมองเกิดความไม่เคยชิน เพราะในช่วงเวลาที่เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติดังกล่าวนั้น ยังคงมีแสงให้เห็นอยู่บ้าง
ดวงตาของเราได้รับแสงอาทิตย์และมีการส่งไปประมวลผลในสมอง เพื่อให้สามารถปรับระบบไหลเวียนโลหิตให้มีความเหมาะสมกับอุณหภูมิภายในร่างกาย แต่เมื่อเรานอนหลับและตื่นขึ้นมาใช่ช่วงที่มืดไปแล้ว ดวงตาไม่เห็นแสงสว่างจากพระอาทิตย์ สมองก็จะมีการปรับหลอดเลือดให้เป็นไปตามเวลาและอุณหภูมิ
ด้วยเหตุนี้หลอดเลือดจึงมีการหดตัวและขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกปวดหัวหลังจากตื่นนอนนั่นเอง ไม่เพียงเท่านั้นมันยังทำให้คุณรู้สึกไม่ง่วงหรือนอนหลับได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพในช่วงเวลากลางคืนอีกด้วย
ที่สำคัญไปมากกว่านั้นก็คือ การที่นาฬิกาภายในร่างกายของเราไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ จะเป็นบ่อเกิดของโรคร้ายมากมายไม่ว่าจะเป็น ความดันโลหิต โรคเบาหวาน หัวใจเต้นผิดปกติ ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ ระดับฮอร์โมนเกิดความผิดปกติ เป็นต้น
ในยุคอดีตที่วิทยาศาสตร์ยังไม่เป็นที่รู้จักและยังไม่ได้ก้าวหน้าเหมือนกับในปัจจุบัน ผู้คนใช้วิธีการสังเกตร่างกายของตนเองว่าจะเป็นอย่างไรหากนอนในตอนเย็นและตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงค่ำ เมื่อพบว่ามันส่งผลเสียต่อร่างกายจึงมีการสร้างกุศโลบายขึ้นมา และใช้ชื่อเรียกในช่วงเวลาดังกล่าวให้น่ากลัวเอาไว้ว่าผีตากผ้าอ้อม เพื่อให้ผู้คนไม่นอนหลับในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะจะทำให้เสียสุขภาพนั่นเอง
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com