เวลาเดินทางไปในสถานที่ทางศาสนาอย่างเช่น วัด เราก็มักจะเห็นพระประจำวันเกิดวางเรียงรายอยู่ ให้เราได้เดินเข้าไปกราบไหว้และบริจาคเงินเพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต แต่เชื่อว่าหลายคนคงจะสงสัยไม่น้อยเลยว่า พระประจำวันเกิดของเรานั้นเป็นปางอะไรและมีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่ เพราะเหตุใดพระในปางต่าง ๆ เหล่านี้จึงกลายมาเป็นพระประจำวันในแต่ละวัน วันนี้ สายมู.cm จะพาทุกคนไปหาคำตอบกัน
ไขข้อสงสัยพระประจำวันเกิดแต่ละวันคืออะไรกันแน่
1. วันอาทิตย์
พระประจำวันเกิดของคนที่เกิดวันอาทิตย์นั้นคือ ปางถวายเนตร โดยจะอยู่ในอิริยาบถยืน ลืมพระเนตรขึ้นทั้งสองข้าง พระหัตถ์ทั้งสองห้อยลงมาและประสานกันอยู่ระหว่างพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ด้านขวาซ้อนเหลื่อมพระหัตถ์ด้านซ้าย เกิดจากการที่เมื่อพระศาสดาได้ตรัสรู้เป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ได้พบกับความสุขอันเกิดจากความสงบอยู่บริเวณใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นระยะเวลากว่า 7 วัน จากนั้นก็ได้ไปประทับยืนบริเวณกลางแจ้งทางทิศอีสานของต้นไม้ในลักษณะดังกล่าว ทอดพระเนตรมองต้นไม้แบบไม่กะพริบตาติดต่อกันถึง 7 วัน
2. วันจันทร์
สำหรับใครที่อยากไหว้พระเสริมดวงให้ไหว้พระปางห้ามญาติ ลักษณะนั้นจะยกพระหัตถ์ขวา 1 ข้างอยู่ในอิริยาบถท่ายืน โดยจะยกพระหัตถ์ขึ้นมาบริเวณเสมออก เกิดจากตอนที่พระญาติฝ่ายบิดาและพระญาติฝ่ายมารดาได้ทะเลาะเบาะแว้งกัน เกี่ยวกับการแย่งน้ำภายในแม่น้ำเพื่อนำไปทำการเกษตร พอตกลงกันไม่ได้ก็เปิดศึกต่อกัน พระพุทธองค์จึงไปเจรจาห้ามศึกเพราะไม่ต้องการให้ญาติต่อสู้กันนั่นเอง
3. วันอังคาร
ใครที่อยากเสริมดวงขอแนะนำให้ไหว้พระปางไสยาสน์ ลักษณะคือจะนอนบรรทมตะแคงขวา หลับพระเนตรทั้งสองข้าง พระเศียรหนุนอยู่บนหมอน พระหัตถ์ซ้ายทาบตามพระวรกาย ส่วนพระหัตถ์ขวานั้นจะตั้งขึ้นรับพระเศียรและมีพระเขนยรองรับอีกที เกิดจากตอนที่พระพุทธเจ้าได้รับสั่งให้พระจุลทะเถรทำการปูอาสนะที่อยู่ระหว่างต้นรางแล้วประทับบรรทม ตั้งพระทัยว่าจะไม่ลุกขึ้นอีกต่อไป เป็นการรำลึกถึงการเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานนั่นเอง
4. วันพุธกลางวัน
สำหรับคนที่อยากเสริมดวงขอแนะนำให้ไหว้พระปางอุ้มบาตร อยู่ในอิริยาบถท่ายืนโดยพระหัตถ์ทั้งสองข้างนั้นจะถือบาตรเอาไว้ เกิดจากเมื่อครั้งที่พระองค์ได้สำแดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เหาะเหินเดินอากาศเพื่อให้พระญาติคล้ายทิฐิมานะ จากนั้นก็ได้เทศนาสั่งสอนเรื่องพระเวสสันดรชาดก ต่างคนต่างก็พากันกลับโดยที่ไม่มีใครทูนอาราธนาให้ฉันในวันรุ่งขึ้น เนื่องจากเข้าใจว่าพระองค์จะฉันภัตตาหารที่เตรียมเอาไว้ในพระราชนิเวศน์ด้วยตนเอง พระองค์จึงได้ออกบิณฑบาตเพื่อออกไปโปรดสัตว์ในตอนเช้า
5. วันพุธกลางคืน
สำหรับใครที่อยากเสริมดวงขอแนะนำให้ไหว้พระปางป่าเลไลยก์ อยู่ในอิริยาบถนั่งประทับอยู่บนก้อนหินโดยพระบาททั้งสองข้างจะวางอยู่บนดอกบัว พระหัตถ์ซ้ายวางข้างบนเข่าส่วนพระหัตถ์ขวาจะวางหงายบนเขาอีกข้าง เกิดจากครั้งที่พระองค์ประทับอยู่ภายในเมืองโกสัมพีแล้วมีพระที่สงฆ์จำนวนมากมักทะเลาะกันอยู่เสมอ พระองค์จึงเข้าไปประทับอยู่ในป่าตามลำพัง โดยมีพระยาช้างมาคอยปรนนิบัติและพิทักษ์ เมื่อพญาลิงเห็นจึงเกิดจิตกุศล พอชาวบ้านไม่เห็นพระพุทธเจ้าแล้วทราบเหตุก็พากันตำหนิและไม่ทำบุญกับพระที่ทะเลาะวิวาทกันแต่อย่างใด พระเหล่านั้นจึงสำนึกและขอให้พระองค์เสด็จกลับคืนมา
6. วันพฤหัสบดี
ต้องไหว้พระปางสมาธิเพื่อเสริมดวงโดยจะอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิ พระบาทขวาทับอยู่ด้านบน พระหัตถ์ซ้อนกันบนตัก เกิดจากตอนที่เจ้าชายสิทธัตถะประทับขัดสมาธิอยู่บนหญ้าคาใต้ต้นมหาโพธิ์และได้ตรัสรู้กลายเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในเวลาต่อมา
7. วันศุกร์
ต้องไหว้พระปางรำพึงเพื่อเสริมดวง โดยจะอยู่ในอิริยาบถท่ายืน พระหัตถ์ทั้ง 2 ข้างประสานกันบริเวณอก โดยพระหัตถ์ขวาทับอยู่ด้านบน เกิดขึ้นหลังจากที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ได้ไม่นานก็คิดพิจารณาว่าทำที่ตรัสรู้นั้นเป็นเรื่องที่ยากเกินกว่าจะเข้าใจ จึงตั้งใจว่าจะไม่แสดงธรรมจนกระทั่งท้าวสหัมบดีพรหมขอให้พระองค์แสดงธรรมต่อ
8. วันเสาร์
พระประจำวันนี้คือปางนาคปรก อยู่ในท่านั่งสมาธิแต่มีพญานาคแผ่ขึ้นปรกพระเศียร เกิดขึ้นหลังจากที่พระองค์ตรัสรู้ได้ไม่นานและประทับอยู่บริเวณใต้ต้นจิก หลังจากนั้นก็เกิดฝนตกติดต่อกันยาวนานถึง 7 วัน พญานาคจึงแสดงอิทธิฤทธิ์หดตนเป็นวงกลมและแผ่พังพานเพื่อปกพระพุทธเจ้าเอาไว้จนกระทั่งฝนหยุดตก
พระประจำวันเกิดสำหรับผู้ไม่รู้วันเกิดต้องไหว้อะไรไปดูกัน
พระประจำวันเกิดนั้นเป็นพระที่ช่วยเสริมดวงสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับผู้ที่ทราบวันเกิดของตนเอง แต่สำหรับใครที่ไม่ทราบวันเกิดของตนเองก็มีพระปางสมาธิเพชร พระที่เราสามารถไหว้เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองได้เช่นเดียวกัน โดยจะเป็นพระที่อยู่ในอิริยาบถนั่งขัดสมาธิพระบาททั้ง 2 ข้างหงาย พระหัตถ์วางซ้อนกันบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาซ้อนอยู่บนพระหัตถ์ซ้าย แสดงให้เห็นถึงการพ้นแล้วจากการครอบคลุมของพญามารรวมไปถึงการปราศจากความยินดียินร้ายต่อสิ่งใดก็ตามที่เกิดในโลก