หากสังเกตดูให้ดีเราจะพบว่า บ้านหลายหลังในประเทศไทยไม่ได้มีศาลเพียงแค่หลังเดียว ในบ้านบางหลังก็มีถึง 3 ศาลเลยทีเดียว เพราะนอกจากศาลพระภูมิแล้วก็ยังมีศาลตายายที่ได้รับความนิยมในการกราบไหว้และบูชาในสังคมไทยนั่นเอง แต่เชื่อว่าหลายคนที่ไม่เคยรู้จักกับศาลดังกล่าวมาก่อน จะต้องรู้สึกสงสัยอย่างแน่นอนว่าศาลที่ได้กล่าวไปนี้คือศาลอะไรและแตกต่างจากศาลพระภูมิอย่างไร จำเป็นจะต้องตั้งขึ้นมาหรือไม่ วันนี้เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบกัน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ศาลตายายคืออะไร แตกต่างจากศาลพระภูมิอย่างไร
เมื่อพูดถึงศาลที่ตั้งอยู่ภายในบ้าน เชื่อว่าทุกคนจะต้องนึกถึงศาลพระภูมิกันก่อนอย่างแน่นอน แต่ในประเทศไทยของเรามีความเชื่อเรื่องศาลตายายด้วยเช่นกัน และแน่นอนว่าศาลทั้ง 2 รูปแบบที่ได้กล่าวไปนั้น มีความแตกต่างกันอย่างแน่นอน
ตายาย ที่ถูกเรียกประกอบกับคำว่า ศาล เป็นคำว่า ศาลตายาย นั้นก็คือชื่อเรียกของเจ้าของพื้นที่ดั้งเดิมที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านของเรามาตั้งแต่สมัยโบราณ เมื่อเรานำศาลมาตั้งก็จะมีการอัญเชิญผู้ที่เคยอยู่อาศัยในบริเวณนี้ให้มาจุติในศาล ช่วยทำหน้าที่ปกปักรักษาและคุ้มครองบ้านให้ร่มเย็นเป็นสุข
นอกจากนี้เรายังสามารถแบ่งตายายออกได้เป็นอีก 2 ประเภท ประกอบไปด้วย เจ้าของที่ดินเดิมที่อาศัยอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่สมัยที่ยังมีชีวิต เมื่อจากโลกใบนี้ไปดวงวิญญาณก็ยังคงสถิตอยู่ที่เดิม ไม่ได้ไปไหน ไม่ได้เกิดใหม่ เลือกที่จะอาศัยอยู่ในพื้นที่ของตนเองต่อไปเรื่อย ๆ และดวงวิญญาณเร่ร่อนแถวนั้นที่เข้ามาสิงสถิตยังพื้นที่เมื่อเจ้าของเดิมได้จากไป
สิ่งที่แตกต่างจากศาลพระภูมิในด้านของรูปลักษณ์ก็คือ ศาลตายายจะเป็นเรือนไทยจำลองขนาดเล็ก แต่ส่วนใหญ่มักจะมีขนาดใหญ่มากกว่าศาลพระภูมิ แต่ไม่ใหญ่ไปกว่าศาลพระพรหม มี 4 เสา หรือบางบ้านก็มี 6 เสา ตั้งอยู่ไม่ไกลจากศาลพระภูมิ แต่จะมีความสูงที่น้อยกว่า ทำให้เราสามารถแยกได้ด้วยตาเปล่า
รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการตั้งและไหว้ศาลตายาย
ศาลตายายจัดเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีคนไทยหลายคนเชื่อว่าต้องตั้งเอาไว้ภายในบ้าน โดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่ที่ได้เข้ามาปลูกบ้านอยู่อาศัยหรือเข้ามาทำประโยชน์ในที่ดิน จะมีการตั้งศาลเพื่ออัญเชิญดวงวิญญาณให้มาสิงสถิตและทำหน้าที่คอยคุ้มครองปกป้องเจ้าของบ้านให้ปลอดภัย โดยวิธีการตั้งที่ถูกต้องมีดังนี้
- พื้นที่ เราขอแนะนำว่าให้เชิญหมอดูหรือซินแสเข้ามาตรวจสอบฮวงจุ้ย แล้วกำหนดจุดที่ถูกต้องจะดีที่สุด เพื่อให้เรามั่นใจว่าตั้งในจุดที่ถูกต้องและจะไม่เกิดผลเสียตามมาในภายหลัง
- จุดที่ตั้ง ควรอยู่ไกลจากตัวบ้านในระดับหนึ่ง และไม่ควรหันไปทางทิศตะวันตกโดยตรงเด็ดขาด นอกจากนี้ยังไม่ควรตั้งไว้กับของที่มีกลิ่นเหม็นเน่าอย่างห้องน้ำ บ่อเกรอะ หรือถังขยะ ไม่ควรตั้งอยู่ใต้บันไดเพราะเป็นพื้นที่ที่ไม่สงบ ไม่ควรตั้งไว้ใต้คานบ้านเพราะจะทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ลดลงกว่าเดิม และไม่ควรกีดขวางประตูรั้วกับประตูอาคารด้วย จุดที่ควรตั้งมากที่สุดเป็นพื้นที่กว้างและสะอาด เพื่อเปิดรับสิ่งดี ๆ เข้าสู่ตัวบ้าน
- เราสามารถวางศาลเอาไว้บนพื้นธรรมดาทั่วไปได้ แต่ใครที่อยากเสริมดวงเพิ่มความเป็นสิริมงคล จะตั้งเอาไว้บนแผ่นทองหรือแผ่นเงินก็ได้เช่นกัน
ของที่ใช้ไหว้ศาลตายาย
ของที่ใช้ในการไหว้ศาลตายายจะประกอบไปด้วยส้ม 4 ผล ผลไม้มงคลทั้งหลาย อย่างเช่น กล้วย ทับทิม องุ่น แก้วมังกร เพื่อช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์และเตรียมรับสิ่งดี ๆ ส่วนอาหารคาวให้ใส่อาหารไทยเป็นหลักอย่างเช่น ต้มจืด ต้มยำ แกงเผ็ด ปลาทอด
ขนมหวานจะเน้นขนมไทยตระกูลทองทั้งหลาย อย่างเช่น ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน ฝอยทอง ส่วนของหยิบย่อยอย่างอื่นจะประกอบไปด้วย บุหรี่ หมากพลู ดอกไม้ พวงมาลัย น้ำเปล่า และธูปเทียน
วิธีไหว้ศาลตายาย
ขั้นตอนและวิธีการไหว้ศาลตายายนั้นไม่ได้ยุ่งยากหรือสลับซับซ้อน เริ่มจากการจุดธูป 5 ดอกแล้วตั้งนะโม 3 จบ แล้วสวดคาถาว่า อิติสุคโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปฐวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง นำเอาธูปปักลงไปในกระถางธูป
หรือหากใครอยากท่องคาถาบูชาให้กล่าวว่า ตา–ยาย ยัสมิง ทิสาภาเค สันติ ตายายเทวา มหิทธิกา เตปิตุมเห อนุรักขันตุ อาโรคเยนะ สุเขนะจะ จำนวน 3 จบ จากนั้นต่อด้วย สิโรเม ขอเดชะ ตายายเทวา เจ้าของที่ ขอให้ช่วยดูแลคุ้มครองรักษาบ้านเรือน (ที่อยู่) และข้าพเจ้าผู้อยู่อาศัยในสถานที่นี้ (อธิษฐานสิ่งที่ต้องการ) โสตถิ ชัยยะ ภะวันตุ เม หลังจากที่เราไหว้เรียบร้อยแล้วก็ให้ทำการลาของด้วยการตั้งนะโม 3 จบแล้วท่องคาถา เสสังมังคลัง ยาจามิ จากนั้นสามารถนำเอาของไหว้ไปรับประทานเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลได้
การขอขมาศาลตายาย
ใครที่รู้สึกว่าช่วงนี้ดวงตก ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเคยไปลบหลู่ศาลหรือเปล่า เราขอแนะนำให้ทำพิธีขอขมาด้วยการตั้งนะโม 3 จบ จากนั้นท่องคาถาว่า อิติสุคโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปฐวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง แล้วให้จุดธูปขอขมา หากเคยล่วงเกินก็ขอโทษ จากนั้นก็ขอพรสิ่งที่ต้องการ ปักธูปแล้วรอจนกว่าธูปจะหมดดอก จากนั้นให้ทำความสะอาดบ้านเพื่อปัดเป่าสิ่งอัปมงคลออกจากบ้านไปให้หมด
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com