หนูมุสิกะ ยานพาหนะของพระพิฆเนศที่หลายคนเคารพบูชา 

สำหรับใครที่ไม่ได้บูชาพระพิฆเนศก็อาจจะไม่คุ้นหูกับชื่อ หนูมุสิกะ ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้สักเท่าไหร่ นั่นก็เป็นเพราะว่าหนูเหล่านี้เป็นสัตว์บริวารและยังเป็นยานพาหนะของพระพิฆเนศอีกด้วย ด้วยเหตุนี้คนที่บูชาพระพิฆเนศจึงต้องมีหนูเหล่านี้ติดบ้านเอาไว้ เพื่อช่วยเพิ่มจำนวนบริวารให้พระพิฆเนศของเราสบายมากขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าจะเป็นสัตว์พาหนะ แต่ความจริงแล้วพวกเขามีตำนานมากมาย จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

เปิดตำนานความเป็นมาเกี่ยวกับหนูมุสิกะ 

หนูมุสิกะ เป็นสัตว์บริวารและยานพาหนะของเทพในศาสนาฮินดูอย่างพระพิฆเนศ มีความเชื่อว่าหากเราบูชาพระพิฆเนศและถวายหนูเหล่านี้ให้กับพระพิฆเนศที่เราบูชา เวลาขออะไรไปก็จะประสบความสำเร็จราบรื่นมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้หนูเหล่านี้ยังมีเรื่องเล่าตามตำนานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น 

ตำนานราชาหนูแห่งเขาไกรลาส

ประวัติของหนูมิสิกะนั้น เป็นเพียงแค่ตำนานอย่างคร่าว ๆ เท่านั้น จึงทำให้เรื่องราวอาจจะไม่ได้มีความหวือหวาหรือน่าสนใจมากสักเท่าไหร่ ซึ่งตามตำนานได้กล่าวกันเอาไว้ว่า ในอดีตหนูตนนี้เคยเป็นราชาของหนูทั้งปวงที่อาศัยอยู่บนเขาไกรลาส คอยอยู่เป็นเพื่อนเล่นกับพระพิฆเนศมาตั้งแต่สมัยยังเยาว์วัย เมื่อพระพิฆเนศได้เติบใหญ่ขึ้นมาหนูเหล่านี้พร้อมทั้งราชา ก็ได้ถวายตนเป็นข้ารับใช้และทำหน้าที่เป็นสัตว์พาหนะของพระองค์ตั้งแต่นั้นมา ตราบเท่าทุกวันนี้ 

ตำนานพระพิฆเนศใช้พระสุรเสียงสยบอสูรภังคี 

เป็นตำนานที่จะเล่าถึงเรื่องราวของหนูมุสิกะที่ในอดีตเคยเป็นอสูรภังคี อสูรที่ลักษณะร่างกายคล้ายกับช้างน้ำ มีผิวพรรณเป็นสีแดงชาด มาพร้อมกับบริวารมากมายออกเดินทางไปรุกรานทั้งมนุษย์รวมถึงเทวดา สร้างความเดือดร้อนรำคาญไปทั่วจนเรื่องไปถึงหูของพระพิฆเนศ 

ด้วยเหตุนี้พระพิฆเนศจึงเสด็จลงมาเพื่อปราบอสูรตนนี้โดยเฉพาะ พระองค์เพียงแค่ตวาดออกมาด้วยเสียงที่ดังกึกก้อง เมื่ออสูรได้ยินเสียงตวาดของเทพผู้ยิ่งใหญ่ ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว 

ด้วยเหตุนี้จึงขอขมาต่อพระพิฆเนศและถวายตัวเป็นสัตว์รับใช้ ด้วยการแปลงกายเป็นหนูรับใช้ตั้งแต่ตอนนั้น จนในปัจจุบันกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกหนึ่งอย่างที่ผู้คนเคารพนับถือ 

ตำนานคนธรรพ์ที่ถูกสาป 

เป็นตำนานที่กล่าวว่าหนูมุสิกะในอดีตที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนธรรพ์ บ้างก็ว่าเป็นเทวดาบนสวรรค์ ในวันหนึ่งขณะที่มีการจัดประชุมเทวสภา คนธรรพ์ผู้นี้ก็ดันพลั้งเผลอไปเหยียบนิ้วเท้าของฤๅษีรามเทพเข้าโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ด้วยเหตุนี้พระฤๅษีผู้เต็มไปด้วยฤทธาอำนาจจึงได้สาปให้คนธรรพ์กลายเป็นหนู 

คนธรรพ์รู้สึกผิดเป็นอย่างมากจึงอ้อนวอนขอให้พระฤๅษีช่วยถอนคำสาป เนื่องจากตนเองไม่ได้ตั้งใจแต่อย่างใด แต่คำสาปนั้นไม่สามารถถอนได้ ด้วยเหตุนี้พระฤๅษีจึงเก็บนำเอาหนูตนนี้ไว้ในอาศรมของปรศุราม ด้วยนิสัยที่ชื่นชอบการขุดคุ้ยคอยหาอาหารตามประสาหนู 

ทำให้คนธรรพ์ที่อยู่ในร่างของหนูก็ติดนิสัยแบบนี้ไปด้วย เขามักจะไปกินเมล็ดข้าวในยุ้งฉางอยู่เสมอ ในวันหนึ่งพระพิฆเนศได้มาเห็นเข้าก็รู้ในทันทีว่าหนูตัวนี้ไม่ใช่หนูทั่วไป ด้วยเหตุนี้จึงนำเอาบ่วงบาศมาจับเพื่อนำไปใช้เป็นยานพาหนะ ทำให้หนูตันนั้นกลายมาเป็นสัตว์พาหนะของพระพิฆเนศนับตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา 

ตำนานปีศาจคชสารในอดีต 

เป็นตำนานที่กล่าวว่า เดิมทีหนูมุสิกะเป็นปีศาจคชสารที่มีร่างกายใหญ่โต อสูรตอนนี้ได้เดินทางไปก่อความวุ่นวายทั่วทั้ง 3 โลก ไม่ว่าจะเป็นโลกสวรรค์ โลกมนุษย์ และในโลกบาดาล เพราะทะนงตนว่าเก่งกล้า เนื่องจากได้รับพรมาจากพระศิวะ 

มันเป็นพรที่คุ้มครองให้อสูรตนนี้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลาย ที่มาจากสิ่งมีชีวิตรวมไปถึงเทพ ด้วยเหตุนี้จึงร้อนถึงพระพิฆเนศผู้อยู่เหนือสิ่งมีชีวิตทั่วทั้งปวงและยังเป็นทั้งกึ่งเทพกึ่งคชสาร เทพจึงได้ร้องขอให้พระพิฆเนศปราบปรามอสูรตนนี้ให้สำเร็จ 

ระหว่างการต่อสู้พระพิฆเนศก็ได้หักงาข้างขวาของตนเองเป็นหอกขว้างเข้าใส่อสูรตนนั้น หลังจากนั้นก็รีบไปกระทืบร่างของอสูรจนได้รับบาดเจ็บหนัก ถึงขั้นต้องแปลงกายให้ตัวเองเป็นหนูยักษ์ก่อนจะทำการหลบหนี แต่พระพิฆเนศก็รีบขึ้นขี่ไปบนหลังและปราบอสูรจนสิ้นฤทธิ์ 

อสูรตนนี้จึงได้ขอขมาเหล่าเทพที่เคยล่วงเกินและกลายมาเป็นสัตว์พาหนะของพระพิฆเนศนั่นเอง 

วิธีการบูชาและขอสิ่งต่าง ๆ จากหนูมุสิกะ 

หนูมุสิกะ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานพาหนะของพระพิฆเนศเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะผู้คนยังนับถือเป็นเครื่องรางของขลังด้วยเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้จึงมีคนจำนวนไม่น้อยที่มักจะพกพาเครื่องรางรูปหนูมุสิกะติดตัวเอาไว้เพื่อช่วยให้โชคดี 

นอกจากนี้ยังนิยมไหว้รูปเคารพที่มักจะอยู่ไม่ไกลจากพระพิฆเนศอีกด้วย สำหรับใครที่อยากบูชาและขอพร วิธีการนั้นง่ายมาก ขอเพียงแค่เรากระซิบบอกสิ่งที่เราต้องการหรือปรารถนาข้างหูของพวกเขา จะเป็นหูข้างซ้ายหรือข้างขวาก็ได้ 

ก่อนกระซิบให้เราใช้มืออีกข้างอ้อมมาปิดหูอีกฝั่งหนึ่งของตัวหนูเอาไว้ จากนั้นก็สามารถกระซิบบอกความต้องการได้เลย หลังจากขอเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วให้เราถวายเงิน นม หรือขนมตามความสะดวกและความศรัทธาของเรา

นอกจากการกระซิบแล้วยังมีความเชื่ออีกว่า หากเรานำเอาหนูมุสิกะมาถวายให้กับรูปเคารพพระพิฆเนศ ก็จะช่วยให้พระพิฆเนศที่เราบูชามีบริวารเป็นจำนวนมากขึ้นกว่าเดิม เวลาที่เราปรารถนาสิ่งใดและขอไป หนูที่เราถวายก็จะช่วยให้สิ่งที่เราขอสมปรารถนาได้รวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม 

ดังนั้นหากใครที่บูชาพระพิฆเนศ เราจึงอยากจะแนะนำให้บูชาหนูบริวารเหล่านี้เอาไว้ด้วยอย่างน้อยสัก 2 ตัว ไม่ว่าจะขออะไรคุณก็จะประสบความสำเร็จสมความปรารถนาอย่างแน่นอน และต้องไม่ลืมปฏิบัติตนให้อยู่ในศีลในธรรม หมั่นทำบุญอยู่เป็นประจำ และถวายอาหารที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์ให้กับทั้งพระพิฆเนศและสัตว์บริวารด้วย รับรองว่าชีวิตของคุณจะราบรื่นอย่างแน่นอน 

ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com