เซียนแปะโรงสี บุคคลที่พ่อค้าแม่ค้าเชื้อสายจีนนับถือ 

บุคคลที่ประสบความสำเร็จหรือมีคุณงามความดี มักได้รับการยกย่องและถูกกล่าวขานสืบต่อมาสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน อย่างเช่นเซียนแปะโรงสี ท่านเป็นพ่อค้าที่เดินทางมาจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ มีตัวตนอยู่จริงบนหน้าประวัติศาสตร์ ทำงานเป็นเจ้าของโรงสีไม่ต่างจากลูกหลานชาวจีนที่อพยพมาหากินในประเทศไทย แต่เพราะเหตุใดจึงทำให้ท่านกลายเป็นที่เคารพบูชาของผู้คน โดยเฉพาะคนที่ทำมาค้าขาย เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบกัน 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

เปิดประวัติความเป็นมาของเซียนแปะโรงสี ชายเชื้อสายจีนที่มีตัวตนอยู่จริง 

เซียนแปะโรงสี เดิมทีเป็นชาวจีน มีชื่อภาษาไทยว่านที ทองศิริ ก่อนจะกลายมาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ผู้คนเคารพนับถือ ท่านเคยเป็นเด็กที่อาศัยอยู่ในประเทศจีนตามปกติ เมื่อเติบใหญ่ขึ้นก็ได้อพยพเดินทางเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 6 

ช่วงเริ่มต้นก่อร่างสร้างตัวของเซียนแปะโรงสีในประเทศไทย ไม่ต่างอะไรกับชาวจีนแผ่นดินใหญ่คนอื่นที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมายังประเทศไทยของเรา นั่นก็คือการรับจ้างทั่วไป จนกระทั่งมีโอกาสได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ทำงานในโรงสีแห่งหนึ่ง ท่านไม่ได้เพียงแค่มีความขยันขันแข็งในการทำมาหากินเท่านั้น แต่ยังสู้ชีวิตและประหยัดอดออมเป็นอย่างมาก เจออุปสรรคแค่ไหนก็ไม่ย่อท้อ 

ในขณะเดียวกันท่านก็เป็นคนที่มีน้ำใจ มักหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับผู้ที่ยากลำบากอยู่เสมอ หลังจากที่เริ่มตั้งตัวได้แล้ว ท่านก็เลิกเป็นแรงงานรับจ้างและหันมาทำอาชีพขายข้าวสารแทน ด้วยความที่เป็นคนดี เหล่าบรรดาเถ้าแก่โรงสีทั้งหลายจึงต่างไว้วางใจ 

นอกจากนี้เซียนแปะโรงสียังมีการร่วมทุนการสร้างโรงสีข้าวที่บริเวณปากคลองบางโพธิ์ล่าง ทำให้ท่านได้ก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของกิจการ แม้ว่าจะร่ำรวยจะมีชีวิตที่สุขสบาย แต่ท่านก็ยังคงหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับผู้อื่นเหมือนเดิม ทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้นต่างรักใคร่ท่านเป็นอย่างมาก

ในวันหนึ่งเซียนแปะโรงสีได้บังเอิญพบเข้ากับศาลเจ้าไม้ขนาดเล็กตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำ ศาลเจ้าแห่งนั้นมีความชำรุดทรุดโทรม ท่านจึงได้เดินทางมาซ่อมแซมด้วยมือของตนเองเป็นประจำทุกวัน กลายเป็นภาพที่ชาวบ้านต่างชินตา 

หลังจากนั้นชาวบ้านก็เริ่มหันมาช่วยท่านบูรณะศาลเจ้าด้วย จนสุดท้ายสถานที่แห่งนั้นก็ได้กลายมาเป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ หลังจากบูรณะเสร็จท่านก็ได้หาฤกษ์ยามงามดีเพื่อจัดพิธีเฉลิมฉลอง วันที่ทำพิธีอยู่นั้น ฟ้ามืดครึ้มเต็มไปด้วยเมฆฝน ท่านจึงทำพิธีจุดธูปไล่ฝน 

ทันใดนั้นเองท้องฟ้ากลับสว่างจนเป็นที่อัศจรรย์แก่ชาวบ้านผู้พบเห็น ผู้คนต่างพูดกันปากต่อปากว่าท่านนั้นเป็นคนดีมีศีลธรรม ทำให้มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก และผู้คนก็เริ่มเกิดความเชื่อในตัวท่านมากขึ้นกว่าเดิม 

หลังจากเซียนแปะโรงสีจากโลกใบนี้ไปก็ได้มีการก่อตั้งศาลขึ้นมา ผู้คนแวะเวียนไปอยู่ไม่ขาดสายเลยทีเดียว แม้ว่าท่านจะไม่ใช่ผู้มีพลังวิเศษหรืออำนาจบารมีอะไร แต่ด้วยคุณงามความดีและศีลธรรมของท่าน ก็ช่วยให้ท่านนั้นกลายเป็นที่จดจำมาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน 

ยันต์ฟ้าประทานพรของเซียนแปะโรงสี ของดีของพ่อค้าแม่ขาย 

เซียนแปะโรงสี เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับพิธีกรรมและฮวงจุ้ย ผู้คนจึงมักเดินทางมาปรึกษาท่านในเรื่องนี้อยู่เสมอ ใครที่แวะเวียนมาหา นอกจากจะได้คำปรึกษาไปแบบฟรี ๆ แล้ว ยังจะได้รับของตอบแทนจากท่าน เป็นยันต์ภาษาจีนที่อ่านว่าเทียน กัว สื่อ ฮก

หากนำเอาไปบูชาเชื่อว่าจะช่วยเสริมดวงด้านการทำมาค้าขายเป็นอย่างดี ผ้ายันต์ดังกล่าวจึงกลายมาเป็นยันต์ฟ้าประทานพรตามความหมายในภาษาจีน ที่ได้รับความนิยมนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เนื่องจากเชื่อว่าหากพกติดตัวเอาไว้ หรือเก็บไว้ในบ้านหรือร้านค้า จะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลได้ 

โดยเฉพาะคนที่ทำมาค้าขาย จะช่วยเสริมเรื่องโชคลาภ การเงิน ให้มีงานทำไม่อดตาย เจริญก้าวหน้า และช่วยดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี 

ศาลเซียนแปะโรงสี สถานที่รวมตัวของเหล่าผู้เคารพศรัทธา 

นอกจากยันต์ฟ้าประทานพรของเซียนแปะโรงสีที่ได้รับความนิยมในกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าแล้ว อย่างที่เราบอกไปว่ามีการก่อตั้งศาลเจ้าขึ้นมาในชื่อศาลเซียนแปะโรงสีให้ผู้คนได้เดินทางไปกราบไหว้ บ้างก็ไปบนบานศาลกล่าว เพื่อขอให้ตนเองประสบความสำเร็จในการทำมาค้าขายเช่นเดียวกัน 

ผู้คนเชื่อกันว่าหากขอเป็นลูกศิษย์ท่านและท่านตอบรับ เราจะฝันถึงท่านและอาจจะได้กลิ่นแปลก ๆ อย่างกลิ่นหมากพลู กลิ่นธูปเทียน หรือดอกไม้ ทุกปีหลังวันตรุษจีนจะจัดเป็นวันงานประจำปีของศาลเจ้าแห่งนี้ ลูกศิษย์และผู้คนต่างเดินทางหลั่งไหลมาเพื่อร่วมพิธีบูชาเซียนแปะโรงสี  และยังมีการจัดแสดงงิ้วเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองอีกด้วย 

สำหรับใครที่ต้องการไหว้ท่าน สิ่งที่ต้องใช้ก็คือธูป 5 ดอก น้ำชา 5 ถ้วย ส้ม 5 ลูก พวงมาลัย 1 คู่ และขนมแต้เหลียว 1 จาน ใครต้องการบูชา ให้ท่องนะโม 3 จบ จากนั้นท่องคาถาตามยันต์ของท่านนั่นก็คือ เทียน กัว สื่อ ฮก 5 ครั้ง 

เสร็จแล้วก็สามารถอธิษฐานความตั้งใจหรือความต้องการของตนเองได้เลย ปัจจุบันศาลของท่านตั้งอยู่ในวัดศาลเจ้า อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาสามารถเข้าไปแวะเวียนบูชาได้ตั้งแต่วันอังคารถึงวันอาทิตย์ เวลา 8:00 น. ถึง 17:00 น. 

ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com