ว่ากันว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มาพร้อมกับความพิเศษในตัว อยู่ที่ว่าเราสามารถปลุกมันให้ตื่นขึ้นมาได้หรือไม่ อย่างเช่นดวงตาที่สาม ดวงตาที่เชื่อกันว่าอยู่บริเวณกลางหน้าผากของเรา ทำหน้าที่แตกต่างจากดวงตาสองข้างที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด เพราะมันช่วยให้เราได้เห็นสิ่งที่ตาเนื้อธรรมดาไม่สามารถมองเห็นได้ แต่ที่น่ากลัวก็คือ เมื่อเปิดแล้วต่อให้เห็นอะไร เราก็ไม่สามารถเลือกได้ว่าจะเห็นหรือไม่เห็นอีกต่อไป เป็นความลึกลับที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ความเป็นมาของดวงตาดวงนี้เป็นอย่างไร วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกัน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับดวงตาที่สาม การเปิดโลกให้คุณมองเห็นสิ่งที่ไม่เคยเจอ
ดวงตาที่สามมีที่มาจากศาสนาฮินดู ศาสนาที่มีผู้คนนับถือมากที่สุดอันดับ 3 ในโลกเลยทีเดียว ว่ากันว่าทุกการกระทำของมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ ล้วนแล้วแต่ถูกจับตามองโดยเทพเจ้าจากเบื้องบนทั้งสิ้น ดังนั้นคนที่นับถือศาสนาดังกล่าวจึงเกรงกลัวการกระทำความผิดหรือสิ่งที่เป็นบาปอย่างมาก เพราะความเชื่อของพวกเขาคือ พระเจ้าสามารถมองเห็นทุกฝีก้าวของมนุษย์ทุกคนนั่นเอง
สิ่งที่ทำให้พระเจ้าสามารถมองเห็นทุกความเป็นไปของมนุษย์ได้ก็คือ ดวงตาแห่งพุทธะ มันเป็นดวงตาวิเศษที่ผุดขึ้นมาบริเวณกลางหน้าผาก สัญลักษณ์นี้เป็นที่นับถือเป็นอย่างมากในพื้นที่ที่ผู้คนนิยมนับถือศาสนาฮินดู ไม่ว่าจะเป็นในประเทศอินเดีย เนปาล รวมถึงทิเบต และมันก็ถูกส่งต่อมายังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ไม่เว้นแม้กระทั่งในประเทศไทย
ไม่เพียงเท่านั้น ดวงตาที่สามยังมีความเกี่ยวข้องกับจักระอีกด้วย โดยเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของพลังทั้ง 7 เชื่อว่าเมื่ออยู่บนใบหน้าแล้วจะอยู่บริเวณต่อมไพนิล ต่อมที่มีอยู่จริงบริเวณกลางสมองของเรา ซ่อนอยู่ด้านหลังดวงตาเนื้อทั้งสองข้าง ขนาดเล็กเท่ากับเม็ดถั่ว
ผู้คนในบางพื้นที่เชื่อว่า บริเวณดังกล่าวนั้นเป็นจุดศูนย์รวมของพลังทั้งหมดในร่างกายเรา อย่างเช่นชาวกรีกโบราณเชื่อว่า หากเราทำสมาธิอยู่เป็นประจำ ก็จะช่วยกระตุ้นให้ต่อมนี้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ที่สำคัญมันสามารถเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์ปกติทั่วไปกับโลกวิญญาณได้ด้วย เป็นจุดสำคัญหากต้องการเริ่มต้นปลุกพลังพิเศษเหนือธรรมชาติให้ตื่นขึ้นมา หากใครที่สามารถเปิดได้สำเร็จก็จะสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้มากกว่าที่มนุษย์ทั่วไปมองเห็น
วิธีการเปิดดวงตาที่สาม ง่าย ๆ ทำได้ด้วยตัวเอง
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากเปิดดวงตาที่สาม เราต้องขอเตือนเอาไว้ก่อนว่า ดวงตาที่สามนี้เป็นสิ่งที่เปิดแล้วเปิดเลย หลังจากนี้ไม่ว่าจะมองเห็นอะไรก็ตาม เราไม่สามารถเลือกได้ และไม่สามารถปิดมันลงได้แต่อย่างใด
นอกจากนี้ การที่เราไม่สามารถใช้ดวงตาที่สามได้ตั้งแต่เกิด มันอาจเป็นประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ที่ไม่อยากให้เราเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าคุณอยากจะมีพลังลึกลับในครอบครอง ทุกคนก็สามารถทำตามวิธีการดังต่อไปนี้ได้เลย
- การอานาปานสติ วิธีการค่อนข้างง่าย นั่งอยู่เฉย ๆ ก็ทำได้ เพียงแค่การกำหนดลมหายใจไปยังบริเวณท้องน้อย ท่องในใจเวลาหายใจออกว่ายุบหนอ และหายใจเข้าพองหนอ ทำจนเกิดความชำนาญ จากนั้นก็ให้รวบรวมลมปราณทั้งหมดของเราไปยังท้องน้อย
- การเพ่งกสิณสิบ เป็นวิธีการเก่าแก่โบราณ ใครที่มีบารมีด้านกสิณอยู่แล้วจะยิ่งทำได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม วิธีการคือให้เราหลับตาลง จากนั้นเราจะเห็นดวงกสิณเป็นสี ๆ ลอยไปมาอยู่บนอากาศ ให้เราเพ่งไปยังดวงสีเหล่านั้นจนเกิดความชำนาญ
- การเพ่งภาพพระพุทธรูป หากในบ้านของคุณมีภาพพระพุทธรูป ให้เพ่งจิตไปที่ภาพนั้นเป็นประจำทุกวัน วันละประมาณ 5 นาที ติดต่อกันตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์ขึ้นไป ให้เราจัดที่นั่งสำหรับการบริกรรมให้ดูปลอดโปร่งและโล่งสบาย ห้ามไม่ให้มีอะไรมารบกวน ถ้าทำแล้วไม่ได้ผลขอแนะนำให้ไปสร้างบุญกุศลเพิ่ม หรือจะไปแก้กรรมก็ได้เช่นกัน
- การอาบน้ำมนต์ ให้เราเตรียมเทียนเล่มละบาท 7 เล่ม ธูป 7 ดอก ข้าวตอก 7 กระทง ดอกไม้ 7 ดอก บาตรสำหรับใส่น้ำมนต์ จากนั้นท่องคาถา นำเอาน้ำมนต์มาอาบตัวติดต่อกัน 7 วัน
รู้หรือไม่ ดวงตาที่สามมีเป็นเครื่องรางของขลังด้วย
ดวงตาที่สาม ไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องราวเกี่ยวกับการเปิดมันบนร่างกายของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นของนำโชคอีกด้วย ผู้คนที่เชื่อเรื่องดังกล่าวนิยมนำเอาสัญลักษณ์นี้พกติดตัวไปไหนมาไหน ในลักษณะของเครื่องประดับหรือพวงกุญแจ
ช่วยสร้างสมาธิให้กับผู้ที่พกพาได้เป็นอย่างดี และยังเพิ่มญาณวิเศษให้เรารับรู้เหตุการณ์ในอนาคตได้อีกด้วย เหมือนกับว่าพกพาแล้วจะมีจิตสัมผัสที่ 6 ขึ้นมายังไงอย่างนั้น มันช่วยให้เรารับรู้ได้ว่ากำลังจะเกิดเรื่องดีหรือไม่ดีกับเราในอนาคตอันใกล้ ทำให้เราสามารถระมัดระวังตัวในการใช้ชีวิตได้มากขึ้นกว่าเดิม
อย่างเช่นหากมีคนคิดร้าย เราก็จะรู้สึกไม่ดีล่วงหน้าไปก่อน ช่วยให้เราเตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์เลวร้ายที่จะเกิดขึ้นได้ นั่นเอง
สำหรับใครที่ครอบครองสัญลักษณ์ดวงตาที่สาม เราขอแนะนำว่าให้นั่งสมาธิอยู่เป็นประจำ ใครที่ยังไม่เคยทำมาก่อน ให้เริ่มจากการทำสมาธิง่าย ๆ ประมาณวันละ 15 นาที จากนั้นก็ค่อย ๆ เพิ่มเวลามากขึ้นกว่าเดิม
เพราะการนั่งสมาธิจะช่วยให้เข้าถึงสิ่งที่ดวงตามองเห็นได้ เป็นการเพิ่มพลังให้กับดวงตาที่สามได้เป็นอย่างดี ยิ่งทำให้เราสามารถสัมผัสถึงเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com