เรื่องเล่าตำนานแห่งโชคชะตานั้น มีอยู่ทุกที่ทุกแห่งหน และยังมีบางความเชื่อที่มีความคาบเกี่ยวใกล้เคียง หรือเกือบเหมือนกัน ทั้งเรื่องเล่า ตำนานภูตผี ตำนานเมืองต่าง ๆ รวมถึง นกแสก หนึ่งในตำนาน สัตว์อาถรรพ์ สัตว์ที่มีตำนานอยู่ในหลากหลายพื้นที่ เป็นสัญลักษณ์แห่งความตาย พาหะของโรคระบาดและลางร้ายต่าง ๆ สายมู.com จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับตำนานของนกแห่งความตายกัน
เพราะเหตุใด นกแสก จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งหายนะ
ก่อนที่เราจะได้กล่าวถึงความเชื่อเรื่องตำนานแห่งความโชคร้าย ก็ต้องมารู้จักกันก่อนว่า นกแสก มีหน้าตาลักษณะทั่วไปอย่างไร นกแสก จัดอยู่ในกลุ่มของนกเค้าแมวชนิดหนึ่ง ใบหน้ามีลักษณะเป็นรูปหัวใจ มีขนสีขาวสะอาด ลำตัวจะมีขนที่แตกต่างออกไปเป็นสีน้ำตาลเข้ม มีดวงตากลมโตสีดำสนิท ทรงคอสั้น ปากเรียวแหลมงุ้ม จะงอยปากเป็นทรงตะขอ ทรงปีกได้รูปสวยงามยาวแข็งแรง หางสั้น สีขนหางกับขนปีกมีลายสีเหลืองสลับไปมากับสีน้ำตาลอ่อน ช่วงที่นกได้ออกบินจะส่งเสียงร้องออกว่า แสก แสก
พอได้ทำความรู้จักกันแล้ว เราจะมาบอกเล่าถึงความเชื่อของ นกแสก ที่มีอยู่ในแต่ละชาติ ว่าคนแต่ละชาติมีความเชื่อที่แตกต่างกันออกไปอย่างไรบ้าง
- ความเชื่อของไทย เชื่อกันว่า พวกมันเป็นนกที่นำพาความตาย หากนกตัวนั้นบินมาเหาะ บินข้ามหลังคา หรือบินวนอยู่รอบ ๆ และส่งเสียงร้องออกมา ก็จะทำให้เกิดความโชคร้าย ทำให้คนที่อยู่ในบ้านที่นกบินอยู่ด้านบน มีอันเป็นไปและเสียชีวิตในเวลาสามวันเจ็ดวัน
- ความเชื่อของกรีกและโรมัน มีความเชื่อไม่ต่างจากไทย นั้นคือ เชื่อว่านกแสก เป็นพาหะนำของโรคระบาดที่ชั่วร้าย และนำลางร้าย ถ้าหากนกตัวนี้ไปอยู่ในบ้านไหนก็จะเกิดความเจ็บปวด
- ความเชื่อของอิตาลี ก็จะเป็นความเชื่อที่ไม่แตกต่างกันคือ เป็นความเชื่อที่เกี่ยวกับความตาย ชาวบ้านมีความเชื่อกันว่า หากนกตัวนั้นส่งเสียงร้องใกล้บ้านของใคร คนในบ้านก็จะป่วยและเสียชีวิตภายในสามวัน
- ความเชื่อของอินเดีย มีความแตกต่างจากคนประเทศอื่นเพราะว่า นกแสก เป็นตัวแทนของการเรียกทรัพย์ เรียกโชคลาภและความเจริญงอกงาม เทพแห่งการเกษตร
นกแห่งความเจริญและความตาย
นกแสก นกที่มีความเชื่อในเรื่องการนำพาความโชคร้ายมาให้ แต่ก็จะมีคนบางกลุ่มที่เชื่อว่า พวกมันนำมาซึ่งความโชคดี นำอุดมสมบูรณ์มาให้กับการเกษตรกรรมของคนในพื้นที่ แต่มันก็เป็นเพียงความเชื่อ หากเราจะโทษว่าพวกมันนำพาความตายมาให้ เป็นสื่อที่นำพาคนในครอบครัวให้พบเจอแต่ความโชคร้ายก็คงจะไม่ถูกต้องนัก ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติของมันที่ควรจะเป็น จึงไม่ควรที่จะไปโยนความผิดให้ใคร
