หลวงปู่รอด พระสงฆ์ผู้ทำนุบำรุงศาสนาพุทธ 

by saimu
0 comment
หลวงปู่รอด

พระเกจิอาจารย์ชื่อดังในประเทศไทยนั้น มีมากมายหลายรูปและยังกระจายตัวอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคอีสานของไทย หลวงปู่รอด หนึ่งในพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งอีสานใต้ ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้พระเกจิอาจารย์รูปอื่น ๆ ถึงแม้ว่าท่านจะไม่ได้อยู่ให้เราได้เข้าไปสักการะแล้วก็ตาม แต่ความเลื่อมใสในตัวท่านก็ยังคงมีอยู่ไม่เสื่อมคลาย นอกจากนี้ ท่านยังทิ้งคุณงามความดีมากมายเอาไว้ให้เราได้ระลึกถึง หลวงปู่รอดท่านเป็นใคร มาจากไหน วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับท่านให้มากขึ้น ไปติดตามกันได้เลย

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ประวัติของหลวงปู่รอด จากเด็กอ่อนแอสู่พระสงฆ์ผู้มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย 

หลวงปู่รอด

หลวงปู่รอดเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่รู้จักกันดีในแถบอีสานใต้ ท่านมีคุณูปการต่อศาสนาพุทธมากมาย เคยเป็นแกนนำจัดกิจกรรมทางศาสนาเพื่อทำนุบำรุงให้ผู้คนหันมาสนใจในการเข้าวัดทำบุญมากขึ้น 

ท่านเกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2488 ที่ตำบลเพี้ยราม อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด 3 คน โดยท่านเป็นพี่ชายคนโต มีน้องชายคนกลาง และน้องสาวคนเล็ก 

ในตอนที่ยังเป็นเด็ก หลวงปู่รอดมีสุขภาพไม่ค่อยจะแข็งแรงสักเท่าไหร่ มารดาจึงได้ตั้งชื่อว่า บุญรอด ให้ท่าน เพราะกว่าจะไปแจ้งเกิดก็รอจนท่านอายุ 5 ขวบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปู่ทวดของท่านเป็นคนที่มีวิชาอาคม โดยเฉพาะวิชาหนังเหนียว คงกระพันชาตรี 

ชาวบ้านเป็นที่ประจักษ์หลังจากที่ปู่ทวดของท่านเสียชีวิตแล้วและต้องเผาศพตามขนบธรรมเนียมของชาวพุทธ ขณะที่มีการจุดเพลิง บริเวณเมรุเผาศพไม่เกิดไฟลุกท่วมตามปกติแต่อย่างใด ทำให้เกิดความอัศจรรย์ใจแก่คนที่เข้าร่วมพิธีเป็นอย่างมาก 

หลังจากที่หลวงปู่รอดมีอายุได้ 13 ปี ท่านก็ได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ด้วยการบวชเป็นสามเณร หลังจากนั้นก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในวันที่ 17 พฤษภาคม 2510 ในวัดสิรินทราราม ตั้งอยู่ในตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ พระครูอรุณสาธุกิจจากวัดเดียวกันเป็นพระอุปัชฌาย์ให้ และได้รับฉายาว่าอาภสฺสโร 

อีกหนึ่งความแปลกประหลาดของท่านก็คือ ตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก ท่านชื่นชอบการปั้นพระพุทธรูปเป็นอย่างมาก ในขณะที่เด็กคนอื่นไปเที่ยวเล่นหรือไม่ก็ช่วยพ่อแม่ทำไร่ไถนา แต่หลวงปู่รอดกลับง่วนอยู่กับกิจกรรมพิเศษที่เด็กคนอื่นไม่ทำกัน สาเหตุเกิดจากปู่ทวดของท่านเองที่บอกให้ท่านทำ หลังจากนั้นก็ได้คุณปู่ทวดนี่เองที่เป็นผู้สอนวิชาอาคมให้

การช่วยเหลือสังคมและทำนุบำรุงศาสนา 

หลวงปู่รอด

หลวงปู่รอดเป็นพระสงฆ์ที่ชาวบ้านในจังหวัดสุรินทร์ต่างเคารพบูชา เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านเลยก็ว่าได้ เพราะท่านเป็นผู้ที่มีจิตเมตตากับทุกคน ได้นำเอาความรู้เรื่องการรักษาโรคแบบโบราณและยามาเผยแพร่ให้ชาวบ้านนำไปใช้ 

ที่สำคัญคือมันเป็นวิชาที่ถูกสืบทอดมาจากพระสงฆ์ชื่อดังอย่าง หลวงปู่โต๊ะ หลวงตาโด๊ะ และหลวงปู่ชิตเลยทีเดียว ตำรับยาบางตัวหลวงปู่ก็ได้ศึกษาด้วยตัวเองจากตำราโบราณ ที่บรรพบุรุษเคยเขียนเอาไว้ มีทั้งยารักษาโรคมะเร็งและเบาหวาน รวมไปถึงแก้อาการปวดเมื่อย 

ชาวบ้านหลายคนนำเอาไปทำตามแล้วหาย หลวงปู่รอดก็เลยกลายเป็นที่ศรัทธามาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ไม่เพียงเท่านั้นท่านยังเคยรักษาโรคมากมายจากการใช้สมุนไพร ซึ่งสมุนไพรบางตัวท่านต้องเข้าไปในป่าลึก ตามแนวตะเข็บชายแดนไทยและกัมพูชาเพื่อเก็บมาเลยทีเดียว 

ไม่เพียงเท่านั้นหลวงปู่รอดยังช่วยเหลือพระพุทธศาสนาอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างวัดหลายแห่ง การจัดสร้างอาคารโรงพยาบาล รวมไปถึงการช่วยเหลือโรงเรียนด้อยโอกาสในจังหวัดสุรินทร์ และยังมีการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์เพื่อมอบให้กับโรงพยาบาลประจำจังหวัด มันจึงไม่น่าแปลกใจเลยแม้แต่น้อยว่าเพราะเหตุใดผู้คนจึงเคารพศรัทธาท่านมาจนถึงทุกวันนี้ 

การจากไปของหลวงปู่รอด เกจิดังจากอีสานใต้ด้วยอายุ 77 ปี 

หลวงปู่รอด

เป็นเรื่องน่าเศร้าที่หลวงปู่รอดได้จากโลกใบนี้ไปขณะที่มีอายุ 77 ปี และ 55 พรรษา เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 เวลา 23:15 น. ด้วยอาการวูบเพราะพักผ่อนน้อย และมีโรคประจำตัวที่ต่อสู้มาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี อย่างโรคเส้นเลือดหัวใจโป่งพอง เจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาลได้พยายามกู้ชีพอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ ทำให้ช่วงเวลานั้นอำเภอพนมดงรักต่างเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ 

ความเป็นมาของเครื่องรางของขลังรุ่นแรกของหลวงปู่รอด 

หลวงปู่รอด

อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วว่า หลวงปู่รอดนั้นได้เรียนวิชาอาคมมาจากปู่ทวดของตน ดังนั้นท่านจึงมีวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมอยู่หลายอย่างเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น พระสมเด็จ ตะกรุด หรือสีผึ้ง พุทธคุณก็มีทั้งเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี ช่วยเสริมความเป็นสิริมงคล ยกระดับชีวิตให้ดีขึ้น กลายเป็นคนที่มีโชคมีลาภไหลมาเทมาไม่ขาดมือ 

ในช่วงแรกท่านทำเอาไว้เพื่อแจกให้กับญาติโยมที่มากราบไหว้ มีทำแจกให้เหล่าทหารและตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในภาคใต้ ไม่ได้ทำเพื่อขายเชิงพุทธพาณิชย์แต่อย่างใด ก่อนที่ในภายหลังของเหล่านี้จะหาได้ยาก จนกลายเป็นของมีราคาที่หาซื้อกันให้วุ่น 

ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com

You may also like

Leave a Comment