พระขุนแผน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยเสริมเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ 

by saimu
0 comment
พระขุนแผน

เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคมเราจึงต้องการการยอมรับจากผู้อื่นอยู่เสมอ ดังนั้น พระขุนแผน จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในฐานะของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถช่วยเสริมเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ได้เป็นอย่างดี หากใครที่บูชาเอาไว้ก็จะได้รับพุทธคุณเมตตามหานิยมให้มีผู้คนหันมารักและเอ็นดู แต่ทราบหรือไม่ว่าที่มาที่ไปของพระดังกล่าวนั้นเกิดจากอะไร เพราะเหตุใดตัวละครในวรรณคดีไทยจึงกลายมาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ผู้คนให้เคารพศรัทธามากมายขนาดนี้ สายมู.com จะพาทุกคนไปดูกัน 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เปิดประวัติของพระขุนแผน จากตัวละครในวรรณคดีไทยสู่การเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์

พระขุนแผน

พระขุนแผนนั้นเป็นพระที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้พุทธคุณอ้างอิงจากตัวละครหลักตัวหนึ่งในวรรณคดีไทยเรื่อง ขุนช้างขุนแผน แต่ทราบหรือไม่ว่าความจริงแล้ววรรณคดีดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องราวชีวิตจริงที่เคยเกิดขึ้นกับผู้คนในยุคสมัยอยุธยาในช่วงปี 1976 ที่ผ่านมา ในรัชสมัยของพระเจ้าสามพระยาหรือพระเจ้าพันวัสสานั่นเอง ความจริงและชื่อของท่านขุนทั้งสองไม่ปรากฏในทำเนียบราชการแต่อย่างใด ชื่อขุนช้างนั้นเป็นคำที่ชาวบ้านตั้งให้เนื่องจากเป็นคนที่เกิดในตระกูลมหาเศรษฐี คอยทำหน้าที่ในการหาช้างถวายให้แก่พระราชา เป็นหัวหน้ากองช้างจึงถูกเรียกชื่อว่า ช้าง แต่ความเป็นจริงแล้วมีชื่อว่า ศรี ลักษณะรูปร่างภายนอกนั้นก็เป็นคนที่ดูสง่าผ่าเผยและหน้าตาผ่องใส ผิวขาว ไม่ได้หัวล้านแต่อย่างใด 

พระขุนแผน

ส่วนนายแผนนั้นความจริงแล้วมีชื่อว่า พลายแก้ว เกิดจากการที่โหรพยากรณ์เอาไว้ว่าเด็กชายผู้นี้จะเติบโตมาเป็นคนมีอำนาจและมีความสามารถในการสู้รบตบมือเอาชนะข้าศึกได้จากทุกทิศทาง เป็นชายหนุ่มที่หน้าตาดี ท่าทางทะมัดทะแมง แต่ที่มีชื่อว่าแผนตามที่ชาวบ้านเรียกเพราะดันเป็นคนที่จู้จี้จุกจิก ชื่นชอบการวางแผนและการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งคู่นั้นเป็นเพื่อนที่รักกันเป็นอย่างมากจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์เรื่องราวของนางวันทองในเวลาต่อมา พลายแก้วนั้นเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีแถมยังเป็นนักรบสมภาคภูมิ ดังนั้นจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งเสน่ห์ มีหญิงสาวเข้ามาติดมาพัวพันเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกันไม่ว่าจะกราบทูลอะไรต่อพระพันวัสสาก็ตาม ก็มักจะได้รับการเชื่อใจและอนุญาตให้จัดการทุกสิ่งทุกอย่างตามความต้องการอยู่ร่ำไป ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้คนนำเอาตำนานของท่านมาสร้างเป็นพระเพื่อบูชาคุณ กลายมาเป็นพระเครื่องหนึ่งในตำนานของประเทศไทยและเป็นของขลังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก 

โดยพระเครื่องดังกล่าวถูกใช้ในทางเสริมความเมตตามหานิยม ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนประวัติศาสตร์การสร้างพระของไทยในฐานะพระเครื่องที่เด่นชัดมากที่สุดก็คือ พระที่ถูกค้นพบภายในวัดบ้านกร่างในจังหวัดสุพรรณบุรี ลักษณะเด่นก็คือเป็นพระที่พิมพ์ทรงห้าเหลี่ยม ลักษณะอยู่ในท่าปางมารวิชัยประทับในซุ้มเรือนแก้ว เป็นของขลังที่มีหลายพิมพ์ มีทั้งแบบพรายคู่และพรายเดี่ยว ได้รับการตรวจสอบและยืนยันและว่าถูกสร้างขึ้นมาในยุคอยุธยา 

พระขุนแผน

สำหรับใครที่บูชาของขลังดังกล่าวก็จะมีอำนาจทางเมตตามหานิยม ผู้คนรักชอบและเอ็นดู ช่วยเสริมเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันก็เป็นพระที่ช่วยให้เสริมโชคลาภทรัพย์สินเงินทองอีกด้วย ดังนั้น ความเชื่อที่ว่า การแขวนของขลังดังกล่าวแล้วจะทำให้จนนั้น ความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้นแต่อย่างใด การจะแขวนแล้วจนหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับอุปนิสัยส่วนตัวของผู้ที่บูชามากกว่า หากเราใช้จ่ายฟุ่มเฟือยโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ต่อให้มีพระที่ช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลในด้านโชคลาภเงินทองมากแค่ไหนก็ทำให้ยากจนอยู่ดี 

นอกจากนี้ยังเป็นของขลังที่สามารถบูชาได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ไม่ได้จำกัดเฉพาะเพศชายแต่อย่างใด ปัจจุบันของขลังที่ได้รับความนิยมนั้นจะมาจากวัดใหญ่ชัยมงคลในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดละหารไร่ในจังหวัดระยอง ของหลวงปู่ชื่น วัดญาณเสน หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่ามในจังหวัดนครปฐม และหลวงปู่ชื่น วัดตาอีในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยราคาในการบูชานั้นจะอยู่ที่ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันแล้วแต่ที่มาและความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป 

เปิดความเชื่อ พระขุนแผนจะหายไปเมื่อเราพบกับเนื้อคู่ 

พระขุนแผน

ทราบหรือไม่ว่า ในบางพื้นที่นั้นมีความเชื่อด้วยว่า หากเราห้อยพระขุนแผนเป็นของขลังเพื่อช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลในด้านเมตตามหานิยม ช่วยเพิ่มเสน่ห์กับเพศตรงข้าม เมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้พบเจอกับเนื้อคู่แล้ว พระเครื่องดังกล่าวนั้นก็จะอันตรธานหายไปแบบที่เราไม่รู้ตัว โดยเฉพาะในกรณีที่เราไม่ได้ห้อยแขวนคอหรือพกติดตัวอยู่ตลอดเวลา เป็นความเชื่อว่าพระดังกล่าวนั้นมีพุทธคุณในการตามหาความรักหรือคนรักที่เหมาะสม ดังนั้นเมื่อมีแฟนหรือแต่งงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วและคนนั้นเป็นเนื้อคู่ที่แท้จริง พระก็จะหายไปแบบที่เราไม่ทันรู้ตัวกันเลยทีเดียว เป็นเรื่องที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้แต่อย่างใด แต่ถึงอย่างไรก็มีผู้คนเชื่อเรื่องนี้เป็นจำนวนไม่น้อยและมีอยู่หลายคนเลยทีเดียวที่พอแต่งงานไปแล้ว พระของตนเองก็ได้หายออกไปจากบ้านแบบที่ไม่มีใครรู้ว่าหายไปได้อย่างไร

You may also like

Leave a Comment