ประเทศไทยที่นับถือศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลัก ทำให้สิ่งที่เราพบเจออยู่เป็นประจำนั่นก็คือ พระเครื่อง ซึ่งมีหลากหลายรุ่นจากหลากหลายเกจิอาจารย์ที่ได้รับความนิยม หนึ่งในพระเครื่องที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก็คือ พระปิดตา ลักษณะของพระเครื่องรุ่นนี้มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก เพราะองค์พระจะอยู่ในลักษณะท่าทางที่กำลังปิดตาอยู่ ความจริงแล้วพระเครื่องเหล่านี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ซึ่งต้องย้อนกลับไปในสมัยพุทธกาลเลยทีเดียว สำหรับใครที่สนใจวันนี้ สายมู.com จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพระปิดตากันค่ะ ซึ่งจะมีความเป็นมาและมีลักษณะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เปิดตำนานของพระปิดตาที่ต้องย้อนกลับไปในสมัยพุทธกาล
พระปิดตา เป็นพระเครื่องที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะในกลุ่มคนที่ชื่นชอบวัตถุมงคลหรือคนที่ซื้อเอาไว้เพื่อเก็งกำไร บางคนก็มีความเชื่อว่าหากพบติดตัวเป็นเครื่องราง ก็จะได้รับความคุ้มครองและโชคดีมากขึ้นกว่าเดิม มีตำนานกล่าวว่า พระปิดตานั้นคือพระมหากัจจายน์เถระเจ้า ปางอธิษฐานเนรมิตกาย
เดิมทีเพราะรูปนี้เคยเป็นเอตะทัคคะที่ขยายความย่อให้เกิดความพิสดาร และยังเป็นผู้ที่วางหลักสูตรพระบาลีมูลกัจจายน์ ซึ่งเป็นคำสอนบาลีไวยากรณ์ในยุคก่อน ท่านเกิดในวรรณะพราหมณ์ มีผิวพรรณวรรณะสะอาดสะอ้าน ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกรวมไปถึงกิริยาท่าทางนั้น มีความละม้ายคล้ายคลึงกับองค์พระบรมศาสดาเจ้าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหากเดินมาแต่ไกล
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้คนต่างหลงเข้าใจผิดคิดว่าท่านเป็นพระพุทธเจ้า แม้แต่เทพเทวดาก็ยังเคยพากันหลงผิดมาแล้วด้วยความสง่างามที่น่าหลงใหล ด้วยเหตุนี้ท่านจึงเป็นที่นิยมชมชอบไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ชายหญิงหรือเหล่าเทพก็ตาม จนได้รับฉายาว่าเป็นควัมปติหรือผู้ที่มีร่างกายคล้ายกับศาสดานั่นเอง
กาลครั้งหนึ่งมีพ่อค้าวานิชได้ออกเดินทางคุมคาราวานไปยังเมืองไกลโพ้นเพื่อค้าขาย ประจวบเหมาะกับได้เจอกับพระมหากัจจายน์เถระเจ้าพอดี จึงคิดอยู่ภายในใจว่า ภรรยาของตนเองนั้นมีความงามที่เป็นเลิศ แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบกับสมณะท่านนี้ได้ หากเราได้ภรรยาเช่นนี้คงจะปลื้มใจไม่น้อย
แต่แล้วความคิดก็สะดุดลงเมื่อร่างกายของพ่อค้าวานิชผู้นี้ ได้กลับกลายเปลี่ยนเป็นเพศหญิงในทันใดพ่อค้ารู้สึกเกิดความละอายจึงหลบหน้าหลบตาไม่ออกไปพบปะผู้คนอีกเลย ทอดทิ้งให้ครอบครัวต้องรอคอยอย่างร้อนใจ จนสุดท้ายเงินที่มีอยู่ก็หมดลง แถมยังได้สามีกับบุตรอีก 2 คนตามมาอีกต่างหาก
เรื่องราวใหญ่โตบานปลายคิดฟุ้งซ่านมานานหลายปี จนกระทั่งในวันหนึ่งก็ได้พบเข้ากับพระมหากัจจายน์เถระเจ้าอีกครั้ง ขณะที่ท่านออกบิณฑบาตเพื่อโปรดสัตว์ อดีตพ่อค้าวานิชที่ปัจจุบันเป็นหญิงได้จัดภัตตาหารไปตักบาตรและกราบทูลว่า เกิดอะไรขึ้นบ้างพร้อมทั้งอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ
ด้วยเหตุนี้ท่านจึงหยิบยื่นความช่วยเหลือให้โดยมีข้อแม้ว่า พ่อค้าจะต้องอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ หลังจากกลับไปเป็นเพศเดิมเรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุนี้นางจึงได้กลับมาอยู่ในร่างเดิมที่เป็นผู้ชายอีกครั้ง ทั้งยังบวชแล้วสามารถบรรลุอรหัตตผลได้อีกด้วย
พระมหากัจจายน์เถระเจ้าตระหนักว่า ความสวยงามในรูปกายของตนเองนั้น ทำให้ทั้งผู้คนและเทพต่างหลงใหลจนเป็นโทษ ด้วยเหตุนี้จึงต้องการจะเปลี่ยนแปลงสรีระใหม่ให้ไร้ซึ่งความงาม ท่านจึงนั่งลงบนบัลลังก์และยกหัตถ์ของตนเองขึ้นมาปิดพระพักตร์ พร้อมทั้งอธิษฐานให้มีรูปกายอ้วนโตและเตี้ยม่อต้อ จนกลายมาเป็นรูปแบบของพระปิดตาที่เรานิยมบูชากันมาจนถึงในปัจจุบันนั่นเอง
โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดต้องยอมรับว่าเป็นพระปิดตาของหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมนั้นจะมีทั้งหมด 5 รุ่นประกอบไปด้วย
รุ่นที่ 1 จัมโบ้ สร้างขึ้นในปี 2520 มีทั้งหมด 3 เนื้อประกอบไปด้วยเนื้อผงใบลาน เนื้อผงเกสร และเนื้อผงสมเด็จ เป็นรุ่นที่สร้างขึ้นมาในโอกาสครบรอบอายุ 90 ปีของหลวงปู่
รุ่นที่ 2 รุ่นเงินล้านที่ถูกสร้างขึ้นในปี 2521 ทางวัดได้บูรณปฏิสังขรณ์ใหม่จึงสามารถรวบรวมเงินได้ 1 ล้านบาทและนำเอามาตั้งเป็นชื่อพระรุ่นดังกล่าว มีอยู่ 2 เนื้อประกอบไปด้วย เนื้อใบลานและเนื้อเกสร มีตะกรุดเงินที่ประกอบไปด้วยสังกะสี ทองแดง และนิกเกิล
รุ่นที่ 3 จะเป็นรุ่นปลดหนี้ที่ใช้เวลาปลุกเสกยาวนานถึง 3 ปีนับตั้งแต่ปี 2521 ถึง 2523 เป็นรุ่นที่ช่วยเสริมในด้านการเงินเป็นพิเศษ ด้านหลังจะมี 2 พิมพ์ประกอบไปด้วยยันต์ตรีนิสิงเหและยันต์นะมหาเศรษฐี
รุ่นที่ 4 จะเป็นรุ่นพิมพ์กนกข้าง สร้างขึ้นในปี 2521 รุ่นนี้ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก เนื่องจากด้านข้างจะพิมพ์ลายกนกที่มีความสวยงามและโดดเด่นมากกว่ารุ่นอื่น ด้านหลังเป็นยันต์ตรี มีขอบเนื้อปลิ้น
รุ่นที่ 5 รุ่นมหาเสน่ห์ สร้างขึ้นในปี 2518 ด้านหลังจะมีตัวอักษรหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีอยู่
ทำความรู้จักกับพระปิดตาแต่ละชนิด มีที่มาที่ไปอย่างไร
พระปิดตา นั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีพุทธคุณมาก โดยเฉพาะในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย หรือแม้แต่ให้โชคลาภก็มีเช่นเดียวกัน โดยจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ประกอบไปด้วย
- พระปิดตานั่งยอง มีความหมายถึงพระโพธิสัตว์ในพระครรภ์ซึ่งเรียกว่าพระมหาอุด เป็นการปิดทวารทั้ง 9 ไม่มีคำเรียกอย่างอื่นแต่อย่างใด
- พระปิดตานั่งขัดสมาธิยกหัตถ์ปิดทวารทั้ง 9 มีความหมายถึงพระเจ้าเข้านิโรธหรือภควัม ซึ่งบ่งบอกถึงพระปิดทวารทั้ง 9 โดยปิดตาคว่ำพระพักตร์ลง
- พระนั่งขัดสมาธิยกหัตถ์ทั้งสองข้างขึ้นมาปิดพระพักตร์แต่เว้นส่วนอื่นเอาไว้ เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมและเห็นบ่อยที่สุดก็ว่าได้ ผู้คนมักเรียกว่า พระควัมปติ ตามตำนานที่เรากล่าวกันเอาไว้ข้างต้นนั่นเอง เป็นพระอรหันต์สาวกรุ่นแรกของพระพุทธเจ้า ก่อนจะอุปสมบทนั้นเคยเป็นเศรษฐีที่มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย แต่เมื่อครั้งที่เกิดธรรมาพิสมัย ทั้งท่านและสหายก็ได้พากันพร้อมใจมาอุปสมบทจนกระทั่งบรรลุเป็นอรหันต์
ท่านได้มารู้วิชาโดยมีความชำนาญในการวิปัสสนากรรมฐาน เคยสามารถใช้ฤทธิ์เดชในการห้ามกระแสน้ำได้สำเร็จ ถึงอย่างนั้นก็เป็นผู้ที่สำรวม ภายนอกดูเคร่งครัดอย่างสม่ำเสมอจนทั้งมนุษย์และเทพต่างเคารพสรรเสริญ จนต่อมาก็ได้สร้างรูปสักการบูชาในลักษณะที่ยกพระหัตถ์ขึ้นมาปิดพระพักตร์ นั่นเอง
