หนึ่งในเครื่องรางที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรและเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก คงหนีไม่พ้น ควายธนู เครื่องรางของขลังที่ถูกจำสับสนกันกับวัวธนู เนื่องจากมีรูปลักษณ์ที่คล้ายคลึงกัน ในอดีตภาพจำของหลายคนมองว่าเป็นเครื่องรางสายดำ ที่มุ่งเน้นไปที่การทำร้านหรือปลิดชีพฝ่ายตรงข้าม แต่ในปัจจุบัน มีการนำมาใช้เป็นเครื่องรางสายขาวกันมากขึ้น มักใช้ในการเสริมดวงชะตา โชคลาภ เสียเป็นส่วนใหญ่ วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเครื่องรางของขลังชนิดนี้กัน ไปติดตามกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับควายธนู วัตถุมงคลที่ไม่ได้ส่งผลร้ายต่อคนอื่นเสมอไป
หากพูดถึงควายธนู เชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึงคุณไสยมนต์ดำอะไรประมาณนั้นอย่างแน่นอน เพราะเครื่องรางของขลังชนิดนี้ มักจะเป็นวลีติดปากคนไทยว่า เดี๋ยวเสกควายธนูเข้าท้องซะเลย ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว พวกเขาก็เป็นวัตถุมงคลที่มีทั้งสายขาวและสายดำเหมือนกับวัตถุมงคลอื่น ๆ ทั่วไป
หากพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ควายธนูเป็นหุ่นพยนต์ที่ถูกสร้างออกมาในรูปลักษณ์ของสัตว์เท่านั้น และวิถีชีวิตของคนไทยในอดีต ก็ผูกพันกับสัตว์ที่ใช้ในการเกษตรกรรมอย่างวัวหรือควายอยู่แล้ว พวกเขาจึงถือว่าเป็นสัตว์ที่มีคุณูปการต่อมนุษย์เราในยุคโบราณไม่น้อยเลยทีเดียว
เราสามารถสร้างควายธนูได้จากหลากหลายวิธีด้วยกัน หากรีบหน่อย ต้องใช้ด่วนก็อาจจะสานขึ้นมาจากไม้ไผ่ธรรมดาทั่วไป แถมรุ่นสานด้วยไม้ไผ่ยังได้รับความนิยมในกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าอีกด้วย เพราะเชื่อว่าหากพกติดตัวเอาไว้ก็จะทำให้มีเสน่ห์และค้าขายร่ำรวย เป็นวัตถุมงคลสายขาวประเภทหนึ่ง
บ้างก็ถูกปั้นมาจากขี้ผึ้ง ดินผสมมวลสาร หรือหล่อขึ้นมาโดยโลหะอาถรรพ์อย่างเหล็กยอดเจดีย์ เหล็กขนันผีพราย หรือตะปูตอกโลงศพ 7 ป่าช้า บางตำราในการสร้างควายธนู อาจมีการใส่ส่วนผสมพิเศษเข้าไปบ้าง อย่างเช่นครั้งที่ได้มาจากต้นพุทรา เส้นผมจากศพตายโหงหรือตายทั้งกลม
เมื่อปั้นควายธนูขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ก็จะมีการเสกอาการ 32 เข้าไปเพื่อปลุกให้มีชีวิตขึ้นมา บางตำราก็มีการปลุกอาการที่ 33 นั่นก็คือคนเลี้ยงเข้าไปด้วย เพื่อให้ควายธนูจงรักภักดีและอยู่ในคำสั่ง
ในอดีตผู้คนนิยมใช้ให้พวกเขาคอยเฝ้าบ้านหรือเรือกสวนไร่นาเอาไว้ ต่อมาก็มีการพัฒนาให้สามารถใช้งานได้หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งป้องกันอันตรายจากผู้ร้ายและภูตผีปีศาจ หรือจะสั่งให้ไปทำร้ายผู้อื่นก็ได้เช่นกัน
แต่แรกเริ่มเดิมทีความเป็นมาของควายธนู เริ่มต้นจากการเอาไว้ใช้งานธรรมดาทั่วไปในเชิงสายขาวมากกว่า สิ่งที่ต้องระวังเมื่อรับมาบูชาก็คือจะต้องเลี้ยงดูเป็นอย่างดีเหมือนกับกุมารทองหรือรักยม คอยให้อาหารอยู่เป็นประจำ ปล่อยให้ออกไปเดินเล่นบ้าง
แต่ห้ามประมาทและหลงลืมควายธนูเหล่านี้โดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะกลับมาทำร้ายเจ้าของ หรือที่สายดำเรียกกันว่า ของเข้าตัว นั่นเอง
เปิดขั้นตอนการบูชาควายธนู บูชาอย่างไรให้ถูกต้อง
สำหรับใครที่อยากจะบูชาควายธนูเป็นเครื่องรางช่วยเสริมดวง เป็นวัตถุมงคลสายขาว เราก็สามารถบูชามาไว้ในบ้านได้เช่นกัน ลักษณะการบูชาจะค่อนข้างคล้ายคลึงกับกุมารทองหรือรักยม นั่นก็คือไม่ใช่แค่เอามาวางประดับไว้บนหิ้งแล้วกราบไหว้บูชาอย่างเดียว แต่เรายังต้องเลี้ยงดูปูเสื่อเป็นอย่างดีอีกด้วย โดยวิธีการบูชามีขั้นตอนดังนี้
- จุดธูปเพื่อบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง ศาลพระภูมิ และพระบนหิ้ง ขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในการนำควายธนูเข้ามาอาศัยอยู่ภายในบ้าน เพื่อช่วยปกปักรักษาทั้งบ้าน ผู้คนในบ้าน และทรัพย์สินของเรา
- หลังจากนำวัตถุมงคลเข้าบ้านเป็นวันแรก ให้เราตั้งชื่อให้กับควายธนูด้วย จากนั้นจุดธูปจำนวน 4 ดอกแล้วบูชาบอกกล่าว แนะนำตัวให้วัตถุมงคลรู้จักกับเรา คนที่อาศัยอยู่ภายในบ้านเรา ควายหรือวัวธนูที่มาอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้ หรือหากใครมีกุมารทองกับรักยมก็ต้องให้ทำความรู้จักกันไว้ด้วย และขอให้ทุกสิ่งร่วมมือกัน ดูแลบ้านและผู้คนที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน อย่าได้เกิดความขัดแย้งกันเอง
- ดูแลตามวิธีการของแต่ละสำนักที่สร้างขึ้นมา บางสำนักก็ว่าต้องเลี้ยงดูควายธนูด้วยน้ำ อาหาร หญ้าสด หรือหญ้าแห้ง แต่บางตำราก็ว่ามีการปลุกเสกให้อิ่มทิพย์เรียบร้อยแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้น้ำหรืออาหาร ถ้าอยากจะบูชาก็ให้แค่น้ำเปล่าในวันเสาร์หรือวันอังคารก็พอ บ้างก็ให้จุดธูป บ้างก็ไม่จำเป็นต้องจุดธูป เพราะฉะนั้น เราต้องศึกษาให้ดีว่าวัตถุมงคลของเรามาจากสำนักไหน และมีวิธีการบูชาอย่างไรบ้าง
ไขข้อสงสัย เราสามารถเสกควายธนูเข้าท้องผู้อื่นได้หรือไม่
ในอดีตเราจะได้ยินพวกผู้ใหญ่พูดในเชิงที่ว่ามีการเสกควายธนูเข้าท้องผู้คนได้ด้วย เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยไม่น้อยเลยทีเดียวว่า มันสามารถทำแบบนั้นได้จริงหรือไม่ เพราะในความเป็นจริงแล้วเครื่องรางของขลังดังกล่าว นิยมใช้งานสำหรับการเฝ้าบ้านหรือเฝ้าไร่นา ให้ความคุ้มครอง
คอยปกป้องเราจากภัยอันตรายทั้งหลาย รวมถึงภูตผีปีศาจ ในฝั่งคนทำมาค้าขายยังมีความเชื่อว่าควายธนูสามารถช่วยให้ทำมาค้าขึ้น เรียกลูกค้าให้เข้ามาซื้อของในร้านได้อีกด้วย
แต่หากเราพูดถึงฝั่งไสยศาสตร์หรือการเล่นของแล้ว พวกเขาสามารถใช้ในการทำร้ายหรือแม้แต่สังหารคู่อริได้เช่นกัน แต่จะไม่ใช่การทำร้ายในเชิงเสกเข้าท้องแต่อย่างใด เพราะคงไม่มีใครยอมแลกวัตถุมงคลที่กว่าจะได้มาอย่างยากลำบากให้เข้าไปอยู่ในท้องใครสักคน
ทั้งที่เราสามารถเสกตะปูเข้าไปได้ แถมตะปูยังอาจทำให้รู้สึกถึงความเจ็บปวดได้มากกว่าอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เราไม่สนับสนุนการใช้วัตถุมงคลในการทำร้ายผู้อื่นแต่อย่างใด
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com