มาลาไคท์ แร่ทองแดงที่อยู่คู่กับอารยธรรมอียิปต์โบราณ

สาเหตุที่ทำให้อัญมณีทั้งหลายมีราคาแพง นั่นก็เป็นเพราะว่า การถือกำเนิดขึ้นมาของมันไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งอัญมณีนั้นมีส่วนผสมของแร่มีค่าอย่าง มาลาไคท์ ราคาของมันก็ยิ่งสูงขึ้นกว่าเดิม เพราะมันเป็นหนึ่งในแร่ทองแดงที่มีสีเขียวเข้มสะดุดตา ดูสวยงามจนชาวอียิปต์โบราณนำเอามาทำเป็นเครื่องประดับ รวมถึงเครื่องสำอางที่ใช้กันในยุคก่อนคริสต์ศตวรรษกันเลยทีเดียว เรื่องราวและตำนานที่เกี่ยวข้องกับอัญมณีชนิดนี้จึงมีค่อนข้างมากและเต็มไปด้วยความน่าสนใจ 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับมาลาไคท์ อัญมณีล้ำค่าช่วยเสริมความเป็นสิริมงคล

มาลาไคท์ เป็นหินนำโชคที่ถือกำเนิดจากแร่ทองแดงคาร์บอเนตไฮดรอกไซด์ มันจึงเป็นแร่ที่มีสีเขียวทึบแสง มาพร้อมกับลายเส้นขีดเป็นชั้น ๆ เหมือนกับอาเกต เนื่องจากลักษณะโครงสร้างผลึกเป็นแบบโมโนคลินิกนั่นเอง 

ทำให้รูปร่างของมาลาไคท์มักจะคล้ายคลึงกับเส้นใย พวงองุ่น หรือหินย้อย บางครั้งอาจเกิดขึ้นจากการตกตะกอนหรือแทรกขึ้นมาในรอยแตกของพื้นดินก็ได้ ส่วนใหญ่มักจะเกิดในบริเวณแหล่งน้ำร้อน ถือว่าเป็นแร่หายาก โดยเฉพาะผลึกบริสุทธิ์ที่มีก้อนขนาดใหญ่ มันจึงมีราคาสูงมาตั้งแต่ในสมัยโบราณแล้ว 

มาลาไคท์เป็นแร่ที่ถูกค้นพบมาอย่างยาวนานหลายพันปี ซุกซ่อนอยู่ในความเชื่อของหลายอารยธรรม ในอดีตมันเป็นอัญมณีที่ถูกนำเอาไปทำเป็นเครื่องประดับและเครื่องสำอางในอารยธรรมอียิปต์โบราณ บางพื้นที่มีการใช้เป็นวัสดุในการสร้างงานประติมากรรมด้วย 

จนถึงในปัจจุบันมันก็ยังคงเป็นแร่อัญมณีที่ได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย แต่ส่วนใหญ่จะถูกนำเอามาประดับไว้บนเรือนแหวนหรือทำเป็นลูกปัดมากกว่า คุณลักษณะที่โดดเด่นของมาลาไคท์อีกหนึ่งอย่างก็คือ มันเป็นแร่อัญมณีที่สีเขียวของมันจะไม่มีวันซีดจาง ไม่ว่าจะผ่านเวลามายาวนานแค่ไหน หรือสัมผัสกับแสงมากเท่าไหร่ มันจะยังคงรักษาสีเขียวของตนเองเอาไว้ต่อไปตราบนานเท่านาน 

ด้วยเหตุนี้มาลาไคท์จึงมาพร้อมกับข้อจำกัดอย่างความเปราะ สามารถบดเป็นฝูงได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย หากนำเอาไปใช้ทำเป็นเครื่องประดับก็ต้องผ่านกระบวนการเพิ่มความแข็งแรง ไม่เช่นนั้นหากเกิดการกระทบกระเทือนหรือการเสียดสีก็อาจจะเสียหายได้ แต่ด้วยข้อจำกัดดังกล่าวทำให้ผู้คนในอดีตนิยมบดให้กลายเป็นผงเพื่อใช้เป็นสี นั่นเอง 

เปิดตำนานเกี่ยวกับมาลาไคท์ แร่ที่มีความสำคัญในอารยธรรมอียิปต์โบราณ

มาลาไคท์ เป็นภาษากรีกที่มีความหมายว่า หินชบาสีเขียว ที่สีเขียวของมันมีความคล้ายคลึงกับใบของต้นชบานั่นเอง มีข้อมูลปรากฏว่าในประเทศอังกฤษ มีการทำเหมืองแร่อย่างกว้างขวางตั้งแต่ 3,800 ปีที่แล้ว ใช้หินและกระดูกสัตว์เป็นเครื่องมือในการขุดค้นหาแร่ 

มีหลักฐานทางโบราณคดีบ่งชี้ว่า การทำเหมืองมาลาไคท์ ได้สิ้นสุดลงในช่วง 600 ปีก่อนคริสตกาล หากคำนวณปริมาณการผลิตแบบคร่าว ๆ เท่ากับว่า ในช่วงเวลานั้นชาวอังกฤษสามารถขุดค้นมาลาไคท์ได้เป็นจำนวนกว่า 1,760 ตันทองแดงกันเลยทีเดียว 

นอกจากนี้ยังค้นพบหลักฐานที่ว่า บริเวณหุบเขาทิมนาที่ตั้งอยู่ในประเทศอิสราเอล ปัจจุบันมีการทำเหมือง รวมถึงการสกัดโลหะทองแดงมาเป็นระยะเวลายาวนานร่วม 3,000 ปี เราจึงสามารถคาดการณ์ได้ว่า ในอดีตมันไม่ได้เป็นเพียงแค่อัญมณีเท่านั้น แต่ยังถูกใช้ในฐานะโลหะประเภทหนึ่งอีกด้วย 

แต่หากพูดถึงอารยธรรมที่มาลาไคท์มีความสำคัญและเปรียบเสมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากที่สุด ก็ต้องยกให้อารยธรรมอียิปต์โบราณ ผู้คนในยุคสมัยนั้นเชื่อว่า สีเขียวมีความเกี่ยวข้องกับความตายและการฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง เป็นตัวแทนแห่งชีวิตใหม่ รวมถึงความอุดมสมบูรณ์ 

ซึ่งชาวอียิปต์เชื่อกันว่า ชีวิตหลังความตายจะได้ไปอาศัยอยู่ในสวรรค์ชั่วนิรันดร์ ลักษณะเหมือนกับการมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์ แต่จะไร้ซึ่งความเจ็บปวด ไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวนใจ พวกเขาจึงเรียกสถานที่แห่งนั้นว่า ทุ่งแห่งมาลาไคท์ นั่นเอง 

สุดท้ายก็กลายมาเป็นเครื่องรางชั้นสูงของพวกเขา ทำหน้าที่ในการส่งพลังงานจากพื้นดินมาสู่ผู้ที่ครอบครอง ฟาโรอียิปต์มักสวมใส่อัญมณีดังกล่าวบริเวณชายผ้าของหมวกด้านใน เนื่องจากเชื่อว่ามันช่วยให้สามารถวางแผนได้อย่างฉลาดหลักแหลม และยังมีการนำเอาไปบดเป็นผงเพื่อใช้เป็นอายแชโดว์ แต่ไม่ใช่เพราะเพื่อความสวยงามเพียงเท่านั้น เพราะเชื่อว่ามันยังสามารถการกระตุ้นให้เรามองเห็นได้อย่างชัดเจนอีกด้วย  

มาลาไคท์ช่วยเรื่องอะไร ใครควรพกพาติดตัวเอาไว้มากที่สุด

ในปัจจุบัน มาลาไคท์ ได้รับความนิยมในฐานะของเครื่องราง ที่สามารถช่วยเสริมดวงให้กับผู้ที่ครอบครองหรือสวมใส่ได้ มันได้รับการขนานนามว่าเป็น หินป้องกัน ช่วยเตือนว่ากำลังจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีขึ้นในอนาคต สามารถดูดซับพลังงานแย่ ๆ หรือสิ่งที่ไม่ดีออกไปจากตัวเรา 

ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่ไม่ดี รังสีต่าง ๆ รอบตัวที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จะสวมใส่เป็นเครื่องประดับก็ได้ หรือวางเอาไว้ในบริเวณที่ทำงานก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้มันยังจัดเป็นหินแห่งการเดินทาง ช่วยลดความกลัวเครื่องบิน และสามารถส่งเสริมคนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการเดินทางได้อีกด้วย 

มันจึงเหมาะสำหรับคนที่ทำอาชีพเกี่ยวกับการเดินทางและอาชีพที่ต้องใช้ความคิด อย่างเช่น พนักงานในสายการบิน นักธุรกิจ เลขานุการ หรือแม้แต่คนทำงานในเหมือง ก็สามารถสวมใส่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุได้เช่นกัน 

ในฝั่งคนไทยเชื่อกัน ว่าหินดังกล่าวสามารถเสริมได้ทั้งอำนาจบารมี ช่วยป้องกันอุบัติเหตุ มีคำพูดคำจาน่าฟัง ให้ชีวิตของเรามีความเจริญก้าวหน้าและส่งเสริมอนาคตของเราให้ดีขึ้นกว่าเดิม

 ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com