ไม่ว่าใครก็ล้วนแล้วแต่อยากจะเป็นที่รักกันทั้งนั้น เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ต้องอาศัยอยู่รวมกัน ด้วยเหตุนี้ความรักจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญสำหรับใครหลายๆ คน สายมู.com จึงอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับ งั่ง ของมหาเสน่ห์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยแต่มีที่มาจากประเทศกัมพูชา ผู้คนเชื่อว่าหากพกเอาไว้กับตัวจะช่วยให้มีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม แต่ถึงอย่างนั้นด้วยลักษณะภายนอกที่ดูค่อนข้างน่ากลัว หลายคนจึงอาจจะไม่กล้าบูชา ด้วยเหตุนี้เราจึงจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับเครื่องรางของขลังชิ้นนี้กันว่า มันคืออะไรและมีประวัติความเป็นมาอย่างไรกันแน่ ซึ่งอาจจะทำให้คุณต้องเปลี่ยนใจหันมาบูชากันเลยก็ได้ ใครจะไปรู้
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับงั่ง ของมหาเสน่ห์สายล่างที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย
งั่ง นับว่าเป็นหนึ่งในเครื่องรางที่ช่วยเสริมด้านเมตตามหาเสน่ห์และดึงดูดความรักจากเพศตรงข้ามที่ค่อนข้างได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะมีที่มาจากประเทศกัมพูชาแต่ก็ได้รับความนิยมในแถบประเทศลาว รวมไปถึงพื้นที่ในภาคอีสานของประเทศไทยด้วยเช่นเดียวกัน
มีความเชื่อว่าหากพกพาติดตัวเอาไว้ก็จะช่วยให้มีเมตตามหานิยม คนเห็นต่างรักใคร่เอ็นดู ช่วยให้ทำมาค้าขึ้น มีเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ช่วยดึงดูดให้เพศตรงข้ามมาตกหลุมรัก นอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้อยู่ยงคงกระพัน ปลอดภัยจากภัยอันตรายทั้งหลายทั้งปวงอีกด้วย
เครื่องรางของขลังชนิดนี้จัดว่าเป็นพรายที่มีอิทธิฤทธิ์รุนแรงมากที่สุด จากบรรดาเครื่องรางสายล่างทั้งหมดกันเลยทีเดียว ลักษณะของงั่งจะเป็นรูปคนที่อยู่ในท่านั่งขัดสมาธิ มีฐานบัวที่ใกล้เคียงกับพระเครื่องทั่วไป แต่ลักษณะท่าทางนั้นค่อนข้างหยาบโลนเนื่องจากท่อนบนจะมีร่างกายที่เปลือยเปล่า
หัวจะเอียงขวาเล็กน้อย หน้าตามักทำออกมาให้ดูมีความดุดัน ไม่ว่าจะเป็นตาที่เบิกโพลง หน้าผากและกล้ามเนื้อส่วนอื่นบนใบหน้าที่ตึงเปรี๊ยะ แต่ปากกลับยกยิ้มเหมือนกับกำลังแสยะยิ้มดูถูกยังไงอย่างนั้น นอกจากนี้ยังมีดวงตากลมโตสีแดงฉานจนน่ากลัวอีกด้วย โดยมีทั้งผู้ชายและผู้หญิง
ตัวผู้ชายนั้นเครื่องเพศจะตั้งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่เพศหญิงนั้นก็จะเห็นเครื่องเพศเช่นเดียวกัน ประกอบกับท่าทางที่แยกขาออกจากกันยิ่งทำให้เห็นทุกส่วนได้อย่างชัดเจน ด้านบนจะเปิดเผยให้เห็นหน้าอกแบบเต็ม ๆ โดยส่วนใหญ่แล้ว หน้าอกก็จะมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่และกลมกลึง
ตามตำนานนั้นมีประวัติเล่าเรื่องราวต่อกันมายาวนานนับร้อยปีเลยทีเดียว ในประเทศไทยพบว่ามีการกล่าวถึงงั่งมาตั้งแต่สมัยอยุธยา พบว่าในอดีตนั้นผู้คนอาจใช้เป็นรูปเสมือนแทนตัวของพระศิวะคล้ายกับปลัดขิก ซึ่งเป็นของขลังในด้านเมตตามหานิยมเช่นเดียวกัน
เพียงแต่ว่าของขลังชนิดนี้จะมาในลักษณะรูปร่างที่เป็นบุคคล นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าอีกด้วยว่า สาเหตุที่ลักษณะภายนอกนั้นมีความใกล้เคียงกับพระเครื่อง เกิดจากผู้ที่ต้องการจะบวชพระแต่กลับไม่ได้บวช มีชายอยู่คนหนึ่งที่ต้องผิดหวังจากความรักและทำให้ตัดสินใจที่จะบวช
แต่เมื่อประกอบพิธีอุปสมบทคนรักดันกลับมาขอคืนดีเสียอย่างนั้น ชายผู้นี้จึงตัดสินใจที่จะไม่บวชและไปกับหญิงสาวคนรักของตนเองแทน แทนที่มันจะกลายเป็นเรื่องอัปยศอดสู กลับกลายเป็นว่าชายผู้นี้ดันมีเสน่ห์ขึ้นมาเสียอย่างนั้น ผู้คนมากมายโดยเฉพาะหญิงสาวต่างรักใคร่และเข้ามาติดพันไม่ขาดสายเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้ผู้ใช้ไสยศาสตร์ทั้งหลายจึงนำเอาจุดขายดังกล่าวมาใช้เป็นเคล็ดลับสำหรับการสร้างของสายเสน่ห์ขึ้นมา และรูปลักษณ์ของพวกเขาจะมีความใกล้เคียงกับพระแบบมีนัยสำคัญ เพื่อเป็นการสะท้อนถึงตำนานของชายที่อยากจะบวชแต่ดันไม่ได้บวชนั่นเอง
ในขณะเดียวกันมันก็ยังสามารถสื่อถึงความโง่เขลาเบาปัญญาได้อีกด้วย เพราะแทนที่ชายผู้นั้นจะบวชเป็นพระเพื่อฝักใฝ่ในทางธรรมให้จิตใจสงบสุขผ่องใส กลับลุ่มหลงในกามและตัณหาจนไม่สามารถบวชได้สำเร็จ
เปิดวิธีการเลี้ยงและบูชางั่งอย่างไรให้เกิดผล
งั่ง นับว่าเป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความนิยมในการพกพาเพื่อช่วยเสริมดวงในเรื่องความรักเป็นอย่างมาก แต่แค่พกพาติดตัวเอาไว้เพียงอย่างเดียวก็อาจจะเกิดผลน้อยหรืออาจไม่เกิดผลเลยก็ได้เช่นเดียวกัน สิ่งสำคัญก็คือเราต้องเลี้ยงดูพวกเขาด้วยวิธีการพิเศษที่แตกต่างจากของศักดิ์สิทธิ์ชนิดอื่น
ให้เรานำเอาของดังกล่าวพกติดตัวเอาไว้ ยิ่งอยู่ใกล้กับกางเกงหรือของสงวนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี หากผู้เลี้ยงไม่อาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย มีเนื้อตัวที่สกปรกก็จะยิ่งทำให้อิทธิฤทธิ์ของมันมีความขลังมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากเป็นของที่ชื่นชอบของต่ำ
ส่วนของที่ใช้ในการบูชางั่งนั้น ก็จะมีพวกอาหารคาว อาหารหวานทั่วไป หากต้องการเสริมในด้านโชคลาภบารมีด้วยก็ให้ถวายเป็นผลไม้ น้ำผึ้ง น้ำเปล่า หรือเหล้า แต่หากคุณต้องการจะมีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม ก็ให้เลี้ยงด้วยเลือดประจำเดือน เป็นการเลี้ยงใหญ่เพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้น ในวันสงกรานต์หรือวันที่ 15 เมษายนของทุกปี
ส่วนอาหารอย่างอื่นนั้นก็จะประกอบไปด้วย น้ำเปล่า ข้าว ไข่ต้ม ไก่ต้ม และเหล้าขาว หากคุณอยากพิสูจน์ว่าของที่คุณมีอยู่ในตอนนี้ เป็นของจริงหรือเป็นแค่รูปจำลองทั่วไปที่ไม่ได้มีความศักดิ์สิทธิ์อะไร ให้วางไว้กับพื้นแบบคว่ำหน้าลง
จากนั้นให้ผู้หญิงทำการกระโดดข้าม หากเป็นของจริงที่มีความศักดิ์สิทธิ์ งั่งที่เราวางเอาไว้บนพื้นแบบคว่ำหน้าในตอนแรก จะพลิกตัวหันกลับมาเงยหน้าอย่างอัศจรรย์ หรือสำหรับใครที่ไม่สะดวกให้ผู้หญิงกระโดดข้ามก็อาจจะใช้เป็นผ้าถุงของผู้หญิงโบกข้ามแทนก็ได้เช่นเดียวกัน