ประเทศไทยของเรานั้นอยู่คู่กับการมูเตลูมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์อีกต่างหาก มีพระเครื่องมากมายที่ได้รับความนิยมในช่วงเวลาหนึ่งอย่างเช่น “จตุคามรามเทพ” ที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้นั่นเอง ย้อนกลับไปในช่วงปี 2548 พระเครื่องรุ่นนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นมีการขายใบจองกันเลยทีเดียว วันนี้ สายมู.com อยากจะพาทุกคนย้อนรอยอดีตไปดูกันว่า พระเครื่ององค์ดังกล่าวนั้นคืออะไรและเพราะเหตุใดจึงเสื่อมความนิยมลงไปในที่สุด
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เปิดประวัติจตุคามรามเทพ ของดีจากนครศรีธรรมราช
จตุคามรามเทพ ที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้คนที่เกิดตั้งแต่ยุค 90 เป็นต้นมา จะต้องรู้จักอย่างแน่นอน เพราะมันเป็นปรากฏการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยของเรา เมื่อพระเครื่องได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนราคาเฟ้อไปไกล บางองค์มีราคามากกว่าหลักแสนหรือหลักล้านบาทในระยะเวลาสั้น ๆ
แต่หลังจากนั้นไม่นานพระเครื่องเหล่านี้ก็แทบจะไม่มีราคาเลยแม้แต่น้อย สาเหตุที่พระเครื่องดังกล่าวได้รับความนิยมเนื่องจาก เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีความเชื่อว่า หากบูชาไว้ก็จะช่วยเสริมดวงเพิ่มความร่ำรวยได้เป็นอย่างดี แต่เชื่อว่าน้อยคนที่จะรู้จักองค์จตุคามจริง ๆ เราจึงจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกัน
องค์จตุคามนั้นเป็นเทพรักษาที่ประดิษฐานอยู่ใน วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีทั้งหมด 2 องค์ประกอบไปด้วย ท้าวจตุคามและท้าวรามเทพ เป็นเทพเจ้าชั้นสูงในศาสนาพราหมณ์และความจริงแล้ว หากสังเกตดูให้ดีก็มีกระจายอยู่ในวัดทุกภาคของประเทศไทยเช่นเดียวกัน
สำหรับชาวนครศรีธรรมราชนั้นเชื่อว่า เทพทั้งสององค์เป็นพระเสื้อเมือง ทำหน้าที่คอยดูแลปกปักรักษาทิศทั้ง 4 ของบ้านเมืองให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ตามตำนานกล่าวว่าพระองค์นั้นเป็นกษัตริย์ในยุคสมัยอาณาจักรนครศรีธรรมราช โดยมีพระนามที่เรียกกันอย่างเป็นทางการว่า พระเจ้าจันทรภาณุ เป็นกษัตริย์องค์ที่ 2 ในราชวงศ์ศรีธรรมโศกราช
ตำนานเล่าขานต่อกันมาว่า พระวรกายของพระองค์นั้นเป็นสีเข้มและยังเป็นกษัตริย์นักรบที่มีความแกร่งกล้า หลังจากที่สถาปนาอาณาจักรศรีวิชัยจนมั่นคงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้รับสมญานามว่าเป็นราชันดำแห่งทะเลใต้ และยังมีอีกหนึ่งพระนามว่า พญาพังพกาฬ อีกด้วย
ในเวลาต่อมาท่านได้สำเร็จวิชาจตุคามศาสตร์ และได้มีการบำเพ็ญบารมีอธิษฐานจิตจนบรรลุเป็นพระโพธิสัตว์ ช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับมนุษย์ทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้จึงได้รับความเคารพนับถือในกลุ่มชาวนครศรีธรรมราชเป็นอย่างมาก และยังเชื่อว่าทรงฤทธานุภาพในทุกด้าน ช่วยให้คำอธิษฐานเป็นจริงได้
โดยจะต้องมีเงื่อนไขทั้งหมด 3 ประการประกอบไปด้วย อธิษฐานในสิ่งที่สามารถเป็นไปได้และไม่ขัดต่อศีลธรรม หลังจากที่สมปรารถนาเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ต้องรักษาสัจจะที่ให้ไว้ และสุดท้ายก็คือ สร้างบุญกุศลถวายให้กับพระองค์ นอกจากนี้ขณะที่บูชายังควรสร้างกุศลให้กับตนเองไม่ว่าจะเป็น การรักษาศีล การให้ทาน รวมไปถึงการบำเพ็ญภาวนา
สำหรับการสร้างรูปเคารพนั้นเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2530 เป็นรูปแบบพระผงสุริยันจันทรา มีดวงตราพระยาราหู รอบกายถูกแวดล้อมด้วยพระราหู 8 ตน บริเวณตรงกลางจะมีรูปเทวรูปประทับนั่งอยู่ ผู้สร้างในตอนนั้นกล่าวว่า เป็นรูปจำลองสมมุติพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ผู้เป็นตัวแทนของกษัตริย์แห่งกรุงศรีวิชัย นั่นเอง
เจาะสาเหตุความนิยมที่เสื่อมลงของจตุคามรามเทพ
ครั้งหนึ่งเมื่อปี 2548 จตุคามรามเทพเป็นเครื่องรางของขลังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีผู้คนมากมายหลั่งไหลมายังจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเช่าบูชาพระเครื่องทรงกลมขนาดใหญ่ที่วางขายอยู่เรียงรายไม่ไกลจากวัดพระมหาธาตุ ไม่ว่าใครก็อยากได้มาครอบครอง เนื่องจากเชื่อว่าจะช่วยให้ร่ำรวยมากขึ้นกว่าเดิม แต่อย่างไรก็ตามกระแสดังกล่าวกลับอยู่เพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ ไม่เกิน 2 ปีเท่านั้น
พอเข้าสู่ช่วงปี 2550 ลูกค้าก็เริ่มลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ และหลังจากนั้นเราก็แทบจะไม่เห็นใครที่ห้อยพระองค์ดังกล่าวอีกเลย แม้ว่าในปัจจุบันมันจะยังเป็นที่สนใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมอย่างถึงขีดสุดเหมือนกับในอดีตอีกแล้ว สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการพระเครื่องก็อาจจะไม่ทราบว่า เพราะเหตุใดพระรุ่นดังกล่าวจึงเสื่อมความนิยมลงไปได้รวดเร็วจนน่าใจหาย
สาเหตุนั่นก็เป็นเพราะกระบวนการผลิตนั่นเอง เมื่อพระเครื่องรุ่นนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ก็มีการจัดสร้างออกมามากจนเกินไป แถมยังไม่มีความพิถีพิถัน ผู้คนหลั่งไหลมาซื้อพระเครื่องที่จังหวัดนครศรีธรรมราชในราคาถูก เพื่อนำเอาไปขายต่อในราคาแพง
ในช่วงนั้นไม่ว่าใครต่างก็ต้องการครอบครองกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นครอบครองเพื่อพุทธคุณหรือครอบครองเอาไว้ไปปล่อยต่อเพื่อสร้างกำไร โรงงานที่ผลิตก็รับงานไว้เป็นจำนวนมาก จนต้องผลิตเหรียญกันแบบทั้งวันทั้งคืน ทำให้งานที่ออกมาไม่มีคุณภาพ มีการกำหนดวันทำพิธีปลุกเสกเอาไว้ล่วงหน้า แต่พอถึงเวลาเหรียญก็เสร็จไม่ทัน มีเพียงแค่กล่องที่นำไปประกอบพิธีเท่านั้น
คนที่เช่าบูชาก็เริ่มระแคะระคายว่า พระบางรุ่นนั้นไม่ได้รับการปลุกเสกจริง ทำให้กระแสความนิยมเริ่มลดลงนั่นเอง หรือจะพูดให้ถูกก็คือ ในตอนแรก Demand มีมากกว่า Supply แต่ในภายหลัง Supply ดันมีมากกว่า Demand เมื่อราคาตกลงทำให้ความนิยมก็ตกลงไปด้วย เหมือนกับปรากฏการณ์ Tulip Mania เพียงแต่เปลี่ยนจากดอกไม้เป็นพระเครื่องเท่านั้นเอง