ตะโพน เครื่องรางไทยที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้จัก 

เครื่องรางในประเทศไทยนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจหากคุณอาจจะยังไม่เคยรู้จักเครื่องรางบางชนิดมาก่อน อย่างเช่นที่เราจะมาแนะนำในวันนี้นั่นก็คือ ตะโพน นั่นเอง มันเป็นเครื่องรางที่หลายคนไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาก่อนเลยด้วยซ้ำไป บางคนอาจรู้จักพวกมันในฐานะของเครื่องดนตรีไทย แต่ความจริงแล้วผู้คนนิยมนำเอามาทำเป็นเครื่องรางเพื่อช่วยเสริมในเรื่องเสน่ห์ไม่น้อยเลยทีเดียว ประวัติความเป็นมาและพุทธคุณของเครื่องรางชนิดนี้จะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

เปิดลักษณะของตะโพน เครื่องรางขึ้นชื่อของหลวงพ่อภักตร์

ตะโพน ในอดีตเป็นเครื่องดนตรีไทยประเภทกลองที่มีลักษณะคล้ายกับลูกข่าง บริเวณหัวท้ายจะมีความแคบมากกว่าตรงกลาง ตัวหน้ากองทำมาจากหนัง ตัวเครื่องเป็นไม้ที่ถูกแกะสลักให้ดูมีความสวยงาม มีสายพันธุ์ระโยงระยาง ตรงกลางจะมีไม้เป็นท่อนที่ถูกสายเหล่านั้นมัดตรึงกับตัวกลองเอาไว้เพื่อให้เสียงมีความทุ้มกังวาน นิยมใช้ในการเล่นดนตรีประกอบการแสดง อย่างเช่นการรำไทยหรือการเล่นลิเก ในภายหลังถูกดัดแปลงให้กลายมาเป็นของขลัง ลักษณะยังคงเป็นกลองตะโพนตามเดิม เพียงแต่ว่าจะมีการลดขนาดให้เล็กลงเท่ากับจี้สร้อยคอ รายละเอียดอาจจะไม่มากเท่ากับของจริง แต่ดูแล้วก็ยังรู้ว่าเป็นรูปทรงของอะไร 

เปิดตำนานความเป็นมาของตะโพน จากเครื่องดนตรีไทยสู่การเป็นเครื่องราง 

ตะโพน จัดเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มคนที่ชื่นชอบการบูชาเครื่องรางทั้งหลาย เชื่อว่าสามารถเสริมในด้านเสน่ห์และเมตตาได้เป็นอย่างดี มีต้นกำเนิดมาจากหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์อ่างทอง เมื่อครั้งสมัยที่หลวงพ่อยังไม่มรณภาพ 

มีคณะลิเกคณะหนึ่งได้เดินทางไปแสดงมหรสพในวัดแต่ไม่มีคนดู เนื่องจากคณะดังกล่าวยังไม่มีชื่อเสียงสักเท่าไหร่ ต้องเร่ร่อนไปจัดแสดงตามพื้นที่ต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คนที่มาชมการแสดงค่อนข้างน้อย ประกอบกับในยุคนั้น ชื่อของหลวงพ่อภักตร์เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี 

เมื่อเดินทางมาถึงหัวหน้าคณะลิเกจึงเข้ามากราบนมัสการเพื่อขออนุญาตทำการแสดงในวัด และหลวงพ่อได้อนุญาตให้ทำการแสดง คณะลิเกจึงทำการตั้งโรงลิเกขึ้นมาและทำการแสดงในวันรุ่งขึ้น แต่ปรากฏว่าแสดงมาแล้ว 3 วันผู้ชมที่มาดูการแสดงกลับไม่เพิ่มขึ้นเลยแม้แต่น้อย 

หัวหน้าคณะรู้สึกถอดใจและต้องการจะย้ายโรงลิเกไปแสดงที่อื่น จึงได้เข้านมัสการกราบเรียนหลวงพ่ออีกครั้งว่าจะย้ายออกไปแล้ว หลวงพ่อรู้สึกสงสารและเมตตา ด้วยเหตุนี้จึงให้หัวหน้าคณะนำเอากลองตะโพนมาให้ตนในวันพรุ่งนี้ จากนั้นค่อยนำเอากลับคืนไปใช้ตามเดิม 

ด้วยเหตุนี้หัวหน้าคณะจึงนำเอากลองที่มีอยู่ลูกเดียวในคณะไปให้หลวงพ่อ วันรุ่งขึ้นก็มารับกลองกลับคืน หลวงพ่อได้ย้ำว่าให้คณะลิเกออกแขกก่อน เป็นการแสดงเริ่มต้นเพื่อเปิดโรงการแสดงอย่างยิ่งใหญ่ 

เย็นวันต่อมาหลังจากที่ดนตรีบรรเลงไปเรื่อย ๆ อยู่ดี ๆ ก็มีผู้เข้ามารับชมเป็นจำนวนมาก หัวหน้าคณะที่รู้ข่าวได้ยินตอนแรกยังไม่เชื่อหูตัวเอง เนื่องจากปกติในช่วงออกแขกจะเริ่มแสดงตอนหัวค่ำ แต่หากเริ่มแสดงตอนเย็นแล้วมีคนมานั่งดูแปลว่าเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ

เมื่อการแสดงเริ่มต้นขึ้นเสียงกลองตะโพนก็ดังไกลออกไปจนหลายหมู่บ้านได้ยิน เสียงมีพลังและนุ่มนวลจนทำให้ผู้ที่ได้ยินเคลิบเคลิ้ม และต้องเดินทางจากบ้านมาเพื่อรับชมการแสดง เข้าสู่วันที่ 2 คณะก็ยังคงแสดงตามเดิมและผู้เข้าชมก็ยังคงมากมายไม่มีอะไรแตกต่างจากวันแรก 

แต่ที่น่าแปลกก็คือ แม้ว่าฝนจะตกลงมาแต่ผู้ชมก็ยังคงนั่งดูการแสดงไม่ยอมกลับบ้านแต่อย่างใด หลังจากนั้นหัวหน้าคณะพร้อมกับลูกน้องจึงเข้ามากราบลา พร้อมทั้งขอบคุณหลวงพ่อที่ช่วยชุบชีวิตคณะลิเกคณะนี้เอาไว้ ไม่นานชื่อเสียงของคณะดังกล่าวก็โด่งดังจนกลายเป็นที่รู้จักมาจนถึงทุกวันนี้ 

เมื่อคณะลิเกคณะอื่นได้ทราบเรื่องก็พากันนำเอากลองของตนเองมาให้หลวงพ่อลงยันต์อักขระให้ ข่าวลือดังกล่าวทำให้ชาวบ้านต่างคะยั้นคะยอให้หลวงพ่อสร้างกลองขนาดเล็กที่เรียกว่า ลูกกลอง เอาไว้ให้ลูกหลานได้เล่น จนพัฒนากลายมาเป็นเครื่องรางที่นิยมบูชาเพื่อช่วยเสริมดวงกันมาจนถึงในทุกวันนี้ นั่นเอง 

พุทธคุณของตะโพน เครื่องรางที่ทำให้คุณเป็นที่นิยมชมชอบ 

ตะโพน เป็นเครื่องรางที่มีความเชื่อว่าจะช่วยเสริมเรื่องเมตตามหานิยม ตามคำกล่าวที่ว่า ยิ่งตียิ่งดัง เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณต้องเอ่ยปากเจรจากับใคร ผู้ฟังก็จะรู้สึกหลงใหลและรักใคร่เอ็นดู สามารถเรียกคนได้เป็นอย่างดี ไปไหนมาไหนก็มีแต่ผู้คนนิยมชมชอบ มีคนคอยหยิบยื่นความช่วยเหลือ ผู้ใหญ่คอยอุปถัมภ์ค้ำชู 

ด้วยเหตุนี้ตะโพนจึงเป็นเครื่องรางที่เหมาะสำหรับคนที่ทำธุรกิจหรือทำมาค้าขาย อย่างเช่น เซลล์ที่ต้องพูดคุยสื่อสารกับลูกค้าเพื่อขายของ พ่อค้าแม่ค้าที่ต้องเจอกับลูกค้าด้วยตนเอง จะช่วยให้คุณทำมาค้าขายคล่องมือมากขึ้นกว่าเดิม ช่วยให้มีเงินทองไหลมาเทมา ลูกค้าใหม่ติดใจกลับมาอุดหนุนซ้ำ ลูกค้าเก่าก็ชื่นชอบและมาอุดหนุนอยู่เสมอ 

แต่อย่างไรก็ตาม ตะโพน จัดว่าเป็นเครื่องรางหายาก ใครที่อยากจะมีเอาไว้ในครอบครองไม่ใช่ว่าอยากมีแล้วจะหามาได้เลยแต่อย่างใด จะต้องเป็นผู้ที่มีวาสนาคู่ควรแก่เครื่องรางชิ้นนี้จึงจะสามารถบูชาไปได้ และต้องระมัดระวังเรื่องของปลอมที่แพร่ระบาดอยู่ด้วย

โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะเป็นของหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ จังหวัดอ่างทอง มีให้เลือกหลากหลายรุ่นที่ทำจากหลายมวลสาร อย่างเช่น ทำจากงา กระดูก หรือเขากวาง สามารถเลือกได้แล้วแต่ความชื่นชอบและกำลังทรัพย์ของแต่ละคน

ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com