ประเทศญี่ปุ่นเต็มไปด้วยเครื่องรางน่ารัก ๆ มากมายที่ทำให้หลายคนใจละลาย โดยเฉพาะตุ๊กตาไล่ฝน ตุ๊กตาง่าย ๆ ที่ทำมาจากลูกปิงปอง ผ้าเช็ดหน้า และเชือก ที่เชื่อกันว่าสามารถไล่ฝนได้ ช่วยให้ฤดูฝนของทุกคนสดใสมากขึ้นกว่าเดิม ตุ๊กตาตัวนี้มีเรื่องเล่าความเป็นมายังไง และช่วยไม่ให้ฝนตกได้อย่างไร ไปดูกันเลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับตุ๊กตาไล่ฝน ตุ๊กตาหัวล้านที่ช่วยไม่ให้ฝนตก
ตุ๊กตาไล่ฝน เป็นของขลังของชาวญี่ปุ่น มีชื่อเรียกว่า เทะรุ เทะรุ โบสุ ที่หมายถึงหัวล้านและแดดออก คำว่า หัวล้าน ว่ากันว่าหมายถึงพระสงฆ์ที่ต้องปลงผมก่อนอุปสมบท รูปลักษณ์ของตุ๊กตาไล่ฝนจะเป็นตุ๊กตาหัวกลม ๆ ที่ทำมาจากลูกบอลขนาดเล็กหรือลูกปิงปอง ห่อไว้ด้วยผ้าสีสันต่าง ๆ แต่ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ผ้าสีขาว นำเอาเชือกมารัดให้อยู่ติดกัน จากนั้นนำเอาปากกาเคมีมาวาดหน้าตาลงไป
เสร็จแล้วก็นำไปแขวนตามสถานที่ต่าง ๆ ภายในบ้านหรืออาคาร อย่างเช่น ริมหน้าต่าง ชานบ้าน หน้าบ้าน มีความเชื่อว่าสามารถช่วยไม่ได้ฝนตกได้ ดังนั้นในช่วงฤดูฝน เราจึงมักจะเห็นตุ๊กตาตัวนี้แขวนเรียงรายอยู่ทั่วไป เพราะเวลาฝนตกจะทำอะไรก็ลำบาก ทั้งการซักผ้า ตากผ้า ออกไปเที่ยว ไปทำธุระ หากฝนไม่ตกจากการขอพรของเรา ให้เราเทสาเกหรือแขวนกระดิ่งให้พวกเขาด้วยเพื่อเป็นการขอบคุณ
สาเหตุที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นต้องมีของมงคลที่ช่วยให้ฝนไม่ตกอย่างตุ๊กตาไล่ฝนเป็นเพราะว่าฝน ในประเทศญี่ปุ่นฝนไม่ได้ตกแบบในบ้านเรา ฝนในญี่ปุ่นเวลาตก จะตกปรอย ๆ ตลอดทั้งวันจนไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่ได้ตกโครมเดียวแล้วหายไป
บางทีฝนตกยาวติดต่อกันหลายวัน ทำให้ผู้คนไม่สดใส ใช้ชีวิตก็ไม่สะดวก แต่ในขณะเดียวกันเอง สำหรับเกษตรกรที่ต้องการให้ฝนตกตามฤดูกาล ก็จะใช้ตุ๊กตาไล่ฝนแขวนกลับหัว เพื่อให้ได้ผลตรงกันข้าม นั่นเอง ด้วยความน่ารักของพวกเขา ทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ผู้คนจึงพกตัวเล็ก ๆ ติดตัวไปไหนมาไหนด้วย ให้ชีวิตราบรื่น ปลอดโปร่ง และสดใสมากขึ้นกว่าเดิม เหมือนกับวันที่ฝนไม่ตก นั่นเอง
ตำนานตุ๊กตาไล่ฝนจากประเทศญี่ปุ่น
ตำนานตุ๊กตาไล่ฝนจากประเทศญี่ปุ่นนั้น ไม่ได้น่ารักสดใสเหมือนกับรูปร่างของพวกเขาแต่อย่างใด เพราะหากสังเกตให้ดี ตุ๊กตาตัวนี้จะเหมือนกับคนกำลังแขวนคออยู่เช่นเดียวกัน ในเรื่องเล่ากล่าวว่า ในยุคโบราณมีพระสงฆ์รูปหนึ่งที่มีความสามารถในการปัดเป่า สามารถดลบันดาลให้ฝนไม่ตกได้
ด้วยเหตุนี้ไดเมียวจึงได้นิมนต์ให้ท่านมาทำพิธีหยุดฝน แต่กลับกลายเป็นว่าท่านไม่สามารถหยุดฝนได้แต่อย่างใด ฝนยังคงตกเรื่อยมา ด้วยเหตุนี้ไดเมียวจึงมีคำสั่งให้นำเอาพระสงฆ์รูปนี้ไปประหารด้วยการตัดคอ จากนั้นนำเอาผ้าสีขาวห่อศีรษะของพระสงฆ์ผู้โชคร้ายแล้วนำเอาไปแขวนไว้
บางตำนานก็ว่าไม่มีการตัดคอ แต่จับพระสงฆ์ห่อด้วยผ้าสีขาวแล้วนำเอาไปแขวนคอแทน แต่แล้วในวันต่อมาก็ได้เกิดปาฏิหาริย์ เพราะท้องฟ้าแจ่มใสในทันที ชาวบ้านจึงเชื่อว่าหากทำตุ๊กตาเลียนแบบพระสงฆ์ผู้โชคร้าย ก็จะช่วยให้ท้องฟ้าปลอดโปร่งสดใสขึ้นมาได้
ตำนานตุ๊กตาไล่ฝนจากประเทศจีน
นอกจากในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ในประเทศจีนก็มีตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับตุ๊กตาไล่ฝนเช่นกัน ในอดีตมีหญิงสาวคนหนึ่งที่สามารถปัดเป่าเมฆฝนได้ เธอเป็นคนงานตัดกระดาษปกติทั่วไป แต่ในวันหนึ่งมีพญามังกรทะเลจากตะวันออกได้ดลบันดาลให้เกิดฝนอย่างหนักจนทำให้น้ำท่วมทุกพื้นที่
หญิงสาวคนนี้ได้ยินเสียงปริศนากล่าวว่า หากเสียสละชีวิตของตนเอง ก็จะช่วยให้ฝนหยุดตก แต่ถ้าไม่ทำ ก็จะก่อให้เกิดภัยพิบัติใหญ่ตามมา เธอจึงได้สละชีพวิงวอนต่อพญามังกรดลบันดาลให้ฝนหยุด และสุดท้ายเธอก็ต้องสังเวยชีวิตลงอย่างน่าสงสาร แต่ฝนก็ได้หยุดตกตามเสียงปริศนาที่กล่าวไว้
ก่อนที่เธอจะได้ขึ้นสวรรค์ เธอได้กล่าวกับชาวบ้านว่าหากวันไหนที่มีฝนตก ให้ตัดกระดาษเป็นรูปของเธอแล้วแขวนไว้บนหลังคาบ้าน ก็จะช่วยให้ท้องฟ้ากลับมาปลอดโปร่งอีกครั้ง
หลังจากนั้น ตุ๊กตาไล่ฝนตามความเชื่อของจีน ก็ได้เผยแผ่เข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นในภายหลัง ในช่วงยุคสมัยเฮอัน และมันก็ได้หลอมรวมเข้ากับเรื่องราวพื้นบ้านในประเทศญี่ปุ่นนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ประเทศไทยไม่มีตุ๊กตาไล่ฝน แต่ปักตะไคร้ช่วยได้
ในประเทศไทยของเราเวลาฝนตกจะตกหนักเป็นพายุ บางครั้งการตกครั้งเดียวอาจทำให้น้ำท่วมได้เลย แค่จะออกจากบ้านก็อันตรายแล้ว ตุ๊กตาไล่ฝนก็เอาไม่อยู่ ด้วยเหตุนี้เราจึงมีพิธีกรรมที่ช่วยไม่ให้ฝนตกนั่นก็คือ การปักตะไคร้
คนที่จะลงมือทำพิธีกรรมนี้ได้ต้องเป็นสาวพรหมจรรย์ ปักแบบเอารากชี้ขึ้นฟ้าและเอาต้นปักลงไปในดิน เพราะเชื่อกันว่าการกระทำดังกล่าวเหมือนกับการท้าทายเทพเทวดาให้รู้สึกโกรธ เมื่อโกรธแล้วก็จะไม่ดลบันดาลให้เกิดฝนตกตามที่ควรจะเป็น
มักทำกันเวลาที่ต้องจัดกิจกรรมกลางแจ้ง จะช่วยให้ฝนไม่ตกและเราสามารถทำกิจกรรมได้ต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังคงมีข้อถกเถียงอยู่ว่า การปักตะไคร้จะช่วยให้ฝนไม่ตกจริงหรือไม่ เพราะบางครั้งมันก็ไม่ได้ผล แถมยังทำให้ผู้หญิงที่มาทำพิธีถูกกล่าวหาว่าเธอไม่ใช่หญิงบริสุทธิ์อีกด้วย
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com