ทำเสน่ห์ พิธีกรรมที่จะช่วยให้คุณมีเสน่ห์น่าหลงใหล 

by saimu
0 comment
ทำเสน่ห์

หากเลือกได้เชื่อว่าทุกคนก็คงต้องการจะเป็นที่รักอย่างแน่นอน แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงเลือกการทำเสน่ห์ ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่จะช่วยให้เรามีเสน่ห์น่าหลงใหลมากขึ้นกว่าเดิม เพราะการที่เรานั้นไม่มีเสน่ห์หรือความน่าหลงใหล มันก็ทำให้การใช้ชีวิตลำบากขึ้นเช่นเดียวกัน เมื่อไม่มีใครมาเมตตาเอ็นดูก็จะทำให้เราไม่ได้รับความช่วยเหลือ ไม่ได้รับการอุปถัมภ์ค้ำจุน วันนี้ สายมู.com จะพาทุกคนมาดูกันว่าพิธีการที่จะช่วยให้คุณมีเสน่ห์ขึ้นมาได้นั้นจะมีรูปแบบใดบ้าง และแต่ละรูปแบบจะมีข้อดีข้อเสียอย่างไร 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

เปิดรูปแบบการทำเสน่ห์ของแต่ละสายเป็นอย่างไรไปดูกัน 

ทำเสน่ห์
  1. สายขาว เป็นรูปแบบการทำเสน่ห์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากปลอดภัยต่อทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้ทำหรือผู้ที่ถูกทำ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการสร้างเมตตามหานิยมด้วยการใช้พุทธคุณ ใช้คาถาเรียกจิตหรือการแผ่เมตตาช่วย ดังนั้นมันจึงเป็นวิธีที่ได้ผลดีและมีผลที่ยืนยาวกว่าทุกวิธี แต่ข้อเสียก็คือวิธีการอาจจะไม่ได้รวดเร็วทันใจหรือได้ผลอย่างเห็นได้ชัด 100% เป็นวิธีการที่ต้องอดใจรอและอาศัยความอดทนไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากนี้เรายังจะต้องปรับเปลี่ยนนิสัยของตนเองให้อยู่ในศีลในธรรม อย่างเช่น หากเราเคยเป็นคนเจ้าชู้ก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นคนที่รักเดียวใจเดียว ไม่กระทำบาป หมั่นทำบุญอยู่เสมอ ก็จะช่วยให้ได้ผลดีขึ้นกว่าเดิมและได้ผลยาวนานมากขึ้นอีกด้วย ไม่ต้องเสียเวลาทำบ่อย ที่สำคัญก็คือ สายนี้เป็นสายที่มีพิธีกรรมที่ได้รับความนิยมหลากหลายรูปแบบไปทั่วทั้งโลกแทบจะทุกศาสนา เป็นการเสริมดวงแบบใสสะอาด ไม่ต้องมานั่งกังวลอะไรในภายหลัง 
ทำเสน่ห์
  1. สายเทา เป็นสายขาวที่มีการใช้เครื่องรางของขลังเข้ามาเพื่อเป็นตัวช่วย ดังนั้นมันจึงยังไม่ถึงขั้นเล่นของที่ดูเหมือนจะอันตรายและน่ากลัวขนาดนั้น อย่างที่เราเห็นอยู่เป็นประจำนั่นก็คือ สีผึ้ง ที่ใช้ทาตัวเองก็ได้หรือป้ายตัวผู้อื่นก็ดี การใช้น้ำมันเสน่ห์ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยว่านมงคลชนิดต่าง ๆ บ้างก็เรียกว่า น้ำมันพราย แต่มันไม่ใช่น้ำมันที่ผ่านพิธีกรรมลนน้ำมันจากศพหญิงตายทั้งกลมแต่อย่างใด ส่วนใหญ่จะเป็นการสกัดน้ำมันออกมาจากว่านที่ปลอดภัยกว่า ซึ่งจะได้ผลดีหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ที่ปลุกเสกมีความรู้ความชำนาญมากแค่ไหน พิธีกรรมเป็นอย่างไร และยังรวมไปถึงการประพฤติปฏิบัติตนของผู้ที่ต้องการจะทำเสน่ห์ด้วยเช่นเดียวกัน 
ทำเสน่ห์
  1. สายดำ เรียกได้ว่าเป็นการใช้คุณไสยแบบเต็มตัวเพื่อให้คนรักคนหลง เป็นวิธีการที่มีความรุนแรงแถมยังไม่ค่อยจะปลอดภัยสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่คุณจะได้รับก็คือ ผลที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนแบบหน้ามือเป็นหลังมือ แต่อย่างไรก็ตามวิธีการดังกล่าวนั้นจะเป็นการใช้คาถาอาคม ที่มุ่งทำร้ายหรือบังคับจิตใจของคนที่ถูกทำ โดยที่ไม่คำนึงว่าผู้ที่ถูกทำนั้นจะประสบพบเจอกับอะไรบ้าง วิธีการก็มีมากมายอย่างเช่น การใช้น้ำมันพรายป้ายตัว ซึ่งเป็นน้ำมันพรายที่ได้มาจากการลนศพของหญิงตายทั้งกลม การทำพิธีผูกวิญญาณ หรือแม้แต่การทำเสน่ห์ยาแฝด ผู้ที่ถูกทำนั้นจะได้รับอันตรายไปแบบเต็มๆ ในขณะที่คนทำเองก็มีความเสี่ยงไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะมีโอกาสเช่นเดียวกันที่ของจะย้อนกลับมาเข้าตัว จนทำให้กลายเป็นผู้ที่มีสติฟั่นเฟือน ที่สำคัญคือเป็นวิธีการที่ผลไม่ยั่งยืนแต่อย่างใด เมื่อมนต์คาถาเริ่มเสื่อมคลายก็ต้องทำใหม่และทำให้ผู้ที่โดนของยิ่งได้รับผลกระทบมากกว่าเดิม 

ควรทำเสน่ห์แบบไหนและสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนที่จะลงมือทำ 

ทำเสน่ห์

ถึงตรงนี้หลายคนก็เริ่มพิจารณาแล้วว่า เราควรทำเสน่ห์แบบไหนดีจึงจะปลอดภัยและได้ผลมากที่สุด เพราะแต่ละสายนั้นก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป แต่หากจะให้เราแนะนำแน่นอนว่าย่อมเป็นการทำสายขาวถึงจะดีที่สุด 

เพราะถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ผลแบบรวดเร็วทันใจเหมือนกับการใช้ไสยศาสตร์ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบในแง่ร้ายกับใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นผู้คนรอบข้างหรือแม้แต่ตัวคนทำเอง เป็นวิธีการที่ปลอดภัยแต่อาจจะได้ผลช้าหรือได้ผลไม่ดีเท่ากับสายดำหรือสายเทาที่ใช้มนตร์ดำไปเลย 

และข้อดีอีกหนึ่งอย่างของสายขาวก็คือ หากเรารู้ว่าวิธีการทำ เราก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องพึ่งครูบาอาจารย์ในการลงของเลยแม้แต่น้อย สามารถทำได้ที่บ้านซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ใกล้เคียงกัน 

สำหรับใครที่อาจจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับด้านนี้มาก่อน จะลองปรึกษาครูบาอาจารย์ผู้ที่มีความรู้ความชำนาญในการทำเสน่ห์ก่อนก็ได้เช่นเดียวกัน เพื่อที่เราจะสามารถทำได้อย่างถูกต้องและไม่ต้องมานั่งลองผิดลองถูกด้วยตนเองซึ่งอาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี ซึ่งรูปแบบการทำในแต่ละสายนั้นก็มีให้เลือกหลายแบบเช่นเดียวกัน

ดังนั้นหากรูปแบบหนึ่งไม่ได้ผลก็สามารถเปลี่ยนไปลองอีกรูปแบบหนึ่งก็ได้ แต่สิ่งสำคัญก็คือเราต้องศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนเพื่อที่จะได้ไม่เกิดผลกระทบในแง่ลบตามมาในภายหลัง เพราะหากเราเลือกผิดหรือทำพิธีผิด ก็อาจจะไม่มีโอกาสได้แก้ไขเลยนั่นเอง 

You may also like

Leave a Comment