วัวธนู วัตถุมงคลที่ทำให้หลายคนสับสนกับควายธนู 

by saimu
0 comment
วัวธนู

เครื่องรางของขลังแต่ละชิ้นถูกสร้างขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้การใช้งานก็จะต่างกันออกไปด้วย เช่นเดียวกันวัวธนู เครื่องรางของขลังที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นตัวช่วยในการทำการเกษตร ซึ่งมักจะถูกจำสับสนกับควายธนู แต่ในความจริงแล้วมันก็คือเครื่องรางของขลังชนิดเดียวกัน แต่ถูกสร้างขึ้นมาในลักษณะที่แตกต่างกันเท่านั้น เครื่องรางของขลังชิ้นนี้จะมีความเป็นมาอย่างไร และมีพุทธคุณขนาดไหน วันนี้เรามีคำตอบมาให้ ไปติดตามกันได้เลย

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับวัวธนู วัตถุมงคลของชาวเกษตรกร 

วัวธนู

วัวธนู วัตถุมงคลที่สะท้อนถึงสังคมเกษตรกรรมของไทย ความผูกพันกันระหว่างคนและสัตว์ที่เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเกษตร พวกเขาจึงถูกนำเอามาผสมผสานกับวิชาความเชื่อ จนกลายเป็นหุ่นพยนต์รูปแบบหนึ่ง หลายคนคงสงสัยว่าหุ่นพยนต์ต้องเป็นมนุษย์ไม่ใช่หรือ 

ความจริงแล้วหุ่นเหล่านี้สามารถปั้นออกมาเป็นรูปสิ่งมีชีวิตได้หลากหลายรูปแบบ จะเป็นมนุษย์หรือสัตว์อย่างวัวหรือควายก็ได้เช่นกัน แต่ส่วนใหญ่มักนิยมปั้นเป็นควายมากกว่า วัวธนูจึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่ 

สำหรับวิธีการทำวัวธนูก็ค่อนข้างหลากหลาย สามารถทำจากดินปั้นผสมเข้ากับมวลสาร ปั้นขี้ผึ้ง สานไม้ไผ่ หล่อจากโลหะอาถรรพ์อย่างเหล็กขนันผีพราย เหล็กยอดเจดีย์ หรือตะปูโลงศพ 7 ป่าช้า ก็ได้เช่นกัน บางที่ก็ทำโครงขึ้นมาเป็นไม้ไผ่แล้วเอาครั่งจากต้นพุทรามาพอกไว้ ก็มีให้เห็นได้บ้าง

หลังจากที่ปั้นวัวธนูเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะต้องนำมาทำพิธีปลุกเสก จากรูปปั้นธรรมดาก็จะกลายเป็นหุ่นพยนต์ที่มีความสามารถเหนือธรรมชาติ ผู้ที่บูชาจะต้องเลี้ยงดูปูเสื่อเป็นอย่างดีเหมือนกับเลี้ยงวัวตัวหนึ่งเลยทีเดียว ต้องให้ทั้งน้ำสะอาด หญ้าสดหรือหญ้าแห้งเป็นอาหาร

ในอดีตนิยมใช้วัวธนูสำหรับการเฝ้าไร่นาหรือเฝ้าบ้าน ซึ่งก็มาการนำเอาไปใช้งานในวัตถุประสงค์อื่น ๆ ด้วยเช่นกัน อย่างการปกป้องผู้ร้ายหรือภูตผีปีศาจทั้งหลาย บางคนเป็นคุณไสยสายดำก็อาจจะใช้วัวธนูของตนเองไปทำร้ายหรือฆ่าฟันศัตรูกันเลยทีเดียว 

สิ่งที่ต้องระมัดระวังในการบูชาวัวธนูก็คือ ต้องเลี้ยงดูและให้อาหารอยู่เป็นประจำ สามารถปล่อยออกไปเที่ยวได้บ้างเป็นบางครั้ง แต่ห้ามหลงลืมโดยเด็ดขาด เพราะถ้าไม่ถูกเลี้ยงดูเป็นอย่างดี พวกมันก็อาจจะวนกลับมาทำร้ายผู้เป็นเจ้าของอย่างเราได้ หรือที่ฝั่งคนเล่นของเรียกกันว่า ของเข้าตัว นั่นเอง

วัวธนู จากหุ่นพยนต์ศาสตร์มืดสู่วัตถุมงคลธรรมดาทั่วไป 

วัวธนู

จากข้อมูลข้างต้นที่เราได้กล่าวไปแล้ว หลายคนคงมองว่าวัวธนูเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่างดูน่ากลัวเสียเหลือเกิน แต่ความเป็นจริงแล้วมีผู้คนจำนวนไม่น้อยเช่นกัน ที่ใช้วัวธนูเป็นเครื่องรางธรรมดาทั่วไป สามารถพกพาติดตัวไปไหนมาไหน เพื่อคอยปกป้องคุ้มครองจากอันตราย

โดยเฉพาะคนทำมาค้าขาย จะนิยมบูชาวัวธนูที่ถูกสานขึ้นมาจากไม้ไผ่เป็นพิเศษ เพราะน้ำหนักเบาและพกไปไหนมาไหนได้สะดวก สามารถเอาไปใช้ทำน้ำมนต์เพื่อประพรมข้าวของภายในร้านได้ ช่วยให้ค้าขายดีมากขึ้นกว่าเดิม 

จากในอดีตที่เคยเป็นเครื่องป้องกันตัวของคนมีวิชาอาคม ปัจจุบันจึงเป็นเพียงวัตถุมงคลธรรมดาทั่วไปเท่านั้น 

เปิดขั้นตอนการสร้างวัวธนูสุดสยดสยองในอดีต 

วัวธนู

วัวธนู ปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นเครื่องรางของขลังสายขาวกันหมดแล้ว แต่ก็ยังคงมีสายดำอยู่บ้างในกลุ่มคนเล่นของ ซึ่งวิธีการสร้างขึ้นมานั้นก็ค่อนข้างสยดสยองเลยทีเดียว อันดับแรกต้องหาไม้มาทำเป็นโครงรูปทรงที่เราต้องการจะปั้นขึ้นมา 

ไม้ที่ใช้ได้จะต้องเป็นไม้ที่สัปเหร่อใช้ในการเขี่ยศพ จะเป็นไม้ชนิดไหนก็ได้ แต่ต้องเป็นไม้ที่ใช้ในการเขี่ยพลิกศพในขณะเผาอยู่ในเมรุ ต้องเป็นศพที่เสียชีวิตในวันอังคาร เผาบนเมรุในวันศุกร์เท่านั้น เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่เฮี้ยนและขลังมากที่สุด 

หลังจากขึ้นโครงร่างเรียบร้อยแล้วต้องนำเอาครั่งที่เกาะอยู่ตามต้นพุทรามาพอก แต่จะเป็นต้นพุทราธรรมดาก็ไม่ได้ ต้องเป็นต้นที่มีปลายกิ่งชี้ไปทางทิศตะวันออกเท่านั้น นำเอามาพอกไว้บนโครงไม้ ปิดด้วยทองคำเปลวที่ใช้ปิดหน้าศพทับลงไปอีกชั้น นำเอาตะกรุดมาเสียบไว้บริเวณหน้าอกกับลำคอ จากนั้นก็นำเอาครั่งมาพอกให้ทั่วอีกครั้ง เราก็จะได้ออกมาเป็นรูปปั้นวัวออกมา

เมื่อประกอบร่างได้เรียบร้อยแล้วก็จะต้องเข้าสู่พิธีกรรมปลุกเสก เป็นขั้นตอนที่จะทำให้วัวธนูมีความจงรักภักดี คอยช่วยเหลือและรับใช้ผู้เป็นนายตามความต้องการ คนที่จะทำพิธีได้ต้องมีอาคมและเป็นจอมเวทย์ที่แกร่งกล้า เมื่อได้มาแล้วก็ต้องระวังไม่ให้ของเสื่อมอีกด้วย คนที่มีไว้ในครอบครองต้องปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมและถูกต้อง และต้องมั่นใจว่าจะสามารถสยบเจ้าวัวคลั่งนี้ได้สำเร็จ 

รวมวัตถุยอดนิยมที่ถูกนำเอามาใช้ในการสร้างวัวธนู 

วัวธนู

วัวธนูเป็นของขลังที่สามารถสร้างขึ้นได้จากหลายวัสดุตามที่เราได้กล่าวไปข้างต้น แต่หลัก ๆ แล้ว วัสดุที่ได้รับความนิยมจะประกอบไปด้วย 

  1. โลหะ เรียกได้ว่าเป็นวัตถุมงคลชั้น 1 เลยก็ว่าได้ และโลหะที่นำเอามาใช้สร้างต้องเป็นโลหะอาถรรพ์เท่านั้น อย่างเหล็กขนานผีพราย ผีตายทั้งกลม ตะปูตรึงศพเจ็ดป่าช้า งั่ง ดีบุก ทองแดงเถื่อน ทองขวัญฟ้า ทองยอดนพศูนย์ เงินปากผี จากนั้นเอาทุกอย่างมาหลอมเข้าด้วยกันขึ้นรูปให้กลายเป็นวัว ลงอักขระตอนที่เหล็กยังร้อน ๆ ตามตำราของแต่ละคน จากนั้นก็นำเอาไปเข้าพิธีปลุกเสก
  2. ขี้ผึ้ง เป็นวัตถุมงคลชั้น 2 ที่จะใช้ขี้ผึ้งอาถรรพ์ ต้องได้มาจากขี้ผึ้งที่ใช้ปิดหน้าผีตายโหงหรือผีตายทั้งกลมเท่านั้น จากนั้นนำเอาผมของผีตายลอยน้ำหรือผีพรายมาผสมเข้าด้วยกัน รวมกับวัสดุอื่นอย่างตาแร้ง ตานกกรด กำลังวัวเถลิง และตาชะมด เผาด้วยความร้อนจนไหม้เกรียมกลายเป็นผง นำเอามาผสมเข้ากับดินเจ็ดป่าช้า คลุกเข้ากับขี้ผึ้งก่อนจะปั้นขึ้นรูป จากนั้นเสกอาการ 32 หรือจะเพิ่มคนเลี้ยงเข้าไปอีก 1 ก็แล้วแต่ตำรา 
  3. ไม้ไผ่ เป็นวัตถุมงคลชั้น 3 ที่ในอดีตจะทำขึ้นมาสำหรับใช้งานฉุกเฉินเท่านั้น แต่ในปัจจุบันนิยมใช้เป็นวัตถุมงคลในกลุ่มคนทำมาค้าขาย ให้ใช้ไม้ไผ่ที่ขึ้นคร่อมระหว่างทาง ขณะที่ตัดต้องกลั้นหายใจและท่องนะโมตัสสะไปด้วย ตัดให้จบในทีเดียว นำเอามาสานให้กลายเป็นรูปวัว

ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com

You may also like

Leave a Comment