ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาหลายคนอาจจะได้ยินชื่อภาพยนตร์เรื่องหนึ่งซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันอย่างหนัก เนื่องจากมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนานั่นก็คือ หุ่นพยนต์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สร้างความสนใจให้กับผู้คนเป็นอย่างมากว่าหุ่นที่ว่านั้นคืออะไร เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับหุ่นดังกล่าวมาบ้างไม่มากก็น้อย วันนี้ สายมู.com จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับหุ่นพยนต์ให้มากขึ้น เครื่องรางของขลังชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นอย่างไร และจะมีวิธีการใช้งานอย่างไร ไปติดตามกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับหุ่นพยนต์ เครื่องรางที่ช่วยทั้งป้องกันและช่วยเรื่องเมตตามหานิยม
หุ่นพยนต์ อาจฟังดูเป็นของขลังที่อันตรายและเอาไว้ใช้ทำร้ายผู้อื่น เนื่องจากลักษณะภายนอกของมันดูเหมือนหุ่นหรือตุ๊กตาวูดูเป็นอย่างมาก แต่ในความจริงแล้วมันไม่ใช่มนต์ดำที่ทำก่อให้เกิดอันตรายหรือผลในแง่ร้ายแต่อย่างใด จะบอกว่าเป็นของที่สร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันเป็นสายพิทักษ์มากกว่า
หุ่นพยนต์ นั้นมีปรากฏขึ้นมาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยโบราณ ส่วนใหญ่แล้วมักปรากฏในลักษณะรูปจำลองของมนุษย์ เหล่าผู้มีวิชาอาคมทั้งหลายจะนำเอาวัสดุต่าง ๆ ตามแต่ตำราที่เรียนมา นำมาใช้สร้างหุ่นไม่ว่าจะเป็นหญ้าแพรก ใบลาน ไม้ไผ่ หรือแม้แต่ขี้ผึ้ง ปั้นเป็นหุ่นแล้วค่อยทำการปลุกเสกเพื่อให้เกิดอาคมตามความต้องการ
โดยส่วนใหญ่แล้วจะให้ผลในด้านการป้องกันภัย ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถเสริมในด้านเมตตามหานิยมได้อีกด้วย ช่วยให้ทำมาค้าขายขึ้น คิดหวังสิ่งใดก็สมความปรารถนา เปรียบเสมือนกับการมีมิตรคู่กายที่ดีที่คอยคุ้มกันเราจากภัยอันตรายทั้งหลาย สิ่งสำคัญในการบูชาหุ่นพยนต์คือ ต้องหมั่นทำบุญกรวดน้ำให้ นอกจากนี้ยังไม่ควรถวายเหล้าเบียร์เป็นอันขาด
การบูชาหุ่นพยนต์ นั้นจึงไม่นับว่าเป็นไสยศาสตร์แต่อย่างใด ออกจะเป็นเครื่องรางของขลังที่บูชาเพื่อให้เกิดพุทธคุณในด้านที่ดีแก่ผู้บูชาด้วยซ้ำไป แต่เนื่องจากลักษณะภายนอกที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่แถมยังน่ากลัว ผู้คนจึงไม่ได้นิยมพกพาหุ่นพยนต์ไปไหนมาไหน แต่จะบูชาโดยวางเอาไว้บนพาน ถวายบุหรี่และน้ำ เวลาจะกินข้าวก็ให้เรียกมากินด้วยกัน ลักษณะการบูชาจึงมีความคล้ายคลึงกับรักยมหรือกุมารทองไม่น้อยเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือ การปั้นให้ออกมามีรูปลักษณ์เหมือนสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ นั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการจะใช้หุ่นทำอะไร เพราะหุ่นสามารถปั้นออกมาตามรูปลักษณ์ที่เราต้องการได้อย่างไร้ขีดจำกัดอย่างเช่น หากต้องการให้ช่วยป้องกันภัยก็อาจจะปั้นเป็นรูปสิงโตหรือชายที่มีร่างกายกำยำ หากต้องการให้ช่วยเรื่องเมตตามหานิยมก็อาจจะปั้นเป็นรูปเด็ก เป็นต้น
ในปัจจุบันหุ่นพยนต์ที่ได้รับความนิยมมักจะสร้างขึ้นมาจากโลหะที่มีอาถรรพ์ เพราะมันจะยิ่งเพิ่มความขลังขึ้นเป็นเท่าทวีคูณเลยทีเดียว ส่วนใหญ่มักจะทำออกมาให้มีรูปลักษณ์เหมือนมนุษย์ที่มีแขนขาตามปกติ จากนั้นก็ปลุกเสกด้วยคาถาอาคมให้มีชีวิตขึ้นมา
โดยโลหะที่นิยมเลือกใช้นั้นก็จะเป็นพวกเหล็กขนันผี เหล็กตรึงโลงศพจาก 7 ป่าช้า ตะปูสังฆวานร ตะปูโลงศพ 9 วัด หรือเงินปากผี 100 วัด เป็นต้น การจะผูกหุ่นได้นั้นต้องใช้คาถาเรียกพายเข้ามาอยู่ในตัวหุ่นทุกตัว
เป็นการปลุกเสกโดยหนุนให้ธาตุทั้ง 4 เข้ามาจุติในตัวหุ่น เรียกจิต เรียกนาม เรียกสูตรให้เกิดฤทธิ์เดชโดยใส่ขันธ์ 5 เข้าไป เรียกอาการทั้ง 32 เศษบรรจุลมปราณ ตรึงรูปตึงนาม จนสามารถเคลื่อนไหวและเรียกดวงจิตให้มีตัวตนขึ้นมาได้
ในกลุ่มคนที่ชื่นชอบเครื่องรางนั้นยกย่องให้หุ่นพยนต์ เป็นเครื่องรางที่มีพุทธคุณค่อนข้างครอบจักรวาลเลยทีเดียว เมื่อมีคนปองร้ายก็จะช่วยปกป้องเราให้ปลอดภัยจากอันตราย ช่วยดูแลทรัพย์สินในพื้นที่ ช่วยขับไล่ความอัปมงคลและอำนาจชั่วร้ายทั้งหลาย
สามารถกันของได้จากทั้งของที่มีคนเล่นใส่หรือแม้แต่ลมเพลมพัด กลุ่มคนที่เล่นของจึงนิยมพกพาติดตัวเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ของเข้าตัวหรือแม้แต่โดนลมเพลมพัดมีของเข้ามาโดยบังเอิญ เนื่องจากมีโอกาสโดนสูงกว่าคนอื่น นั่นเอง
รู้หรือไม่ หุ่นพยนต์เคยปรากฏอยู่ในวรรณคดีไทยด้วย
หุ่นพยนต์ เคยปรากฏอยู่ในวรรณคดีไทยหลายเรื่อง ซึ่งปรากฏเป็นรูปจำลองที่ผู้ทรงอาคมนำเอาวัตถุผูกขึ้นมา สามารถขึ้นรูปเป็นได้ทั้งคนและสัตว์แล้วปลุกเสกให้มีชีวิต ซึ่งการปลุกเสกนั้นจะเป็นตัวกำหนดว่า จะมีคุณในด้านใดบ้างตามความต้องการ
ในเรื่องขุนช้างขุนแผนนั้นจะใช้หญ้ามัดให้กลายเป็นหุ่นเหมือนกับมนุษย์จากนั้นลงคาถาให้มีชีวิต มีพละกำลัง มีอาวุธติดตัว ฟันแทงไม่เข้า เพื่อใช้ในการทำสงครามไม่ว่าจะเป็นการสู้รบหรือแม้แต่การส่งข้อมูลข่าวสารก็ตาม
นอกจากนี้ในเรื่องขุนช้างขุนแผนนั้น ตอนที่ขุนแผนวางแผนลักพาตัวนางวันทองมาจากขุนช้างแล้วพากันหลบหนีเข้าไปในป่า ขุนช้างได้นำกำลังคนกว่า 500 คนออกติดตามไล่ล่า เมื่อขุนแผนรู้เข้าจึงได้นำเอาหุ่นขึ้นมาต่อสู้ เรียกได้ว่าเป็นวรรณคดีไทยที่ใช้หุ่นพยนต์มาโดยตลอด ตั้งแต่รุ่นพ่อไปจนถึงรุ่นลูกกันเลยทีเดียว