หินสีเทาธรรมดาทั่วไปยังมีค่า แล้วนับประสาอะไรกับหินที่มีสีสันสวยงามอย่าง มรกต อัญมณีสีเขียวสดใสที่ถูกจัดว่าเป็นพลอยชนิดหนึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นอัญมณีที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมากที่สุดบรรดาพลอยด้วยกัน มันไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องประดับราคาแพงเพื่อเพิ่มความสวยงามทั่วไป เพราะมันอยู่คู่กับอารยธรรมของมนุษย์มาอย่างยาวนาน ซึ่งมันไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยงามเพียงอย่างเดียว เพราะมันมาพร้อมกับความเชื่ออีกหลาย ๆ ด้าน และวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับอัญมณีสีเขียวสดใสชนิดนี้กัน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับมรกต อัญมณีหลักของโลกที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ
มรกต เป็นหนึ่งในหินนำโชคสีเขียวสดใสจากแร่ตระกูลเบริลที่ ผสมด้วยธาตุวานาเดียมหรือโครเมียมในผลึก จนกลายเป็นสีเขียวอย่างที่เราได้เห็นกัน สามารถพบได้ทั่วไปทั้งในหินแปร หินอัคนี รวมถึงหินตะกอน
อัญมณีชนิดนี้มีสูตรทางเคมีชนิดบริสุทธิ์ เดิมทีแทบจะไม่มีสีสันเลยด้วยซ้ำไป รู้จักกันในชื่อโกชิไนต์ หลังจากมีแร่ธาตุอื่นเข้าไปแทรกซึมอยู่ภายใน เนื้อแร่ก็จะกลายเป็นสีเขียวในภายหลัง มรกต จะมีสีเขียวอมเหลืองหรืออมฟ้าก็ขึ้นอยู่กับว่า มีปริมาณธาตุเหล็กมากน้อยแค่ไหน
ไม่ว่าจะเป็นสีเขียวอมเหลืองหรืออมฟ้า อัญมณีชนิดนี้ก็จะออกมาเป็นสีเขียวเพียงสีเดียวเท่านั้น หากมีสีสันแบบฟ้าอมเขียวก็จะถูกเรียกในชื่อ อความารีน หรือหากเป็นสีเหลืองอมเขียวก็จะกลายเป็นอัญมณีที่มีชื่อว่า เฮลิโอดอร์ ดังนั้นบางตลาดที่ขายมรกตสีเหลืองราคาสูงมันจึงไม่ใช่มรกต แต่เป็น เฮลิโอดอร์
มรกต อยู่คู่กับอารยธรรมมนุษย์มาอย่างยาวนานร่วม 5,000 ปี เป็นอัญมณีที่มีค่าและมีความต้องการในตลาดสูงที่สุด โดยเฉพาะในอารยธรรมเอเชีย อเมริกาใต้และแอฟริกา มีการค้นพบบันทึกโบราณกล่าวว่า อัญมณีดังกล่าวมีราคาสูง ซึ่งเชื่อว่าสามารถเสริมดวงให้กับผู้ที่สวมใส่หรือครอบครองได้
ปัจจุบันมันกลายเป็น 3 อัญมณีหลักของโลกคู่กับทับทิมและไพลิน มาพร้อมมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าอัญมณีหรือหินสีชนิดอื่นรวมกันเสียอีก ในปี 2015 มูลค่าของอัญมณีชนิดนี้ที่ถูกนำเข้าสู่สหรัฐอเมริกา มีมูลค่ามากกว่าหินสีทุกชนิดรวมกัน
คุณภาพของมรกตจะขึ้นอยู่กับว่ามีสีเป็นแบบไหนและมีรอยตำหนิแตกหักมากน้อยเพียงใด หากทั้งก้อนนั้นมีสีเขียวเสมอกัน ไม่มีริ้วรอยแตกหักหรือจุดสีตำหนิ มันก็จะมีราคาสูงเป็นพิเศษ เนื่องจากหากมีรอยแตกหักแล้ว มันจะทำให้แตกง่ายกว่าเดิม การนำเอามาปรับปรุงคุณภาพตัดแต่งก็จะยิ่งทำยากขึ้นตามไปด้วย
ในแวดวงสังคมชั้นสูง จะสวมใส่เฉพาะในโอกาสพิเศษเท่านั้น เพราะมันค่อนข้างบอบบาง หากกระทบกระเทือนหรือเสียดสีมาก ๆ ก็อาจเกิดการเสียหายได้อย่างง่ายดาย
การถือกำเนิดของมรกต แร่หายากที่กลายเป็นอัญมณีล้ำค่า
ในปัจจุบัน มรกตเป็นทั้งเครื่องประดับและเครื่องรางที่ได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่าพลอยชนิดไหนบนโลก เพราะเบริลนั้นเป็นแร่หายาก ธาตุเบริลเลียมเป็นองค์ประกอบที่เกิดขึ้นบนเปลือกโลกของเราน้อยมาก และแทบจะไม่เคยเห็นแร่ในกลุ่มดังกล่าวรวมกันปริมาณมาก ๆ
นอกจากนี้เงื่อนไขในการเกิดขึ้นยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายอย่าง อย่างเช่นสถานที่ ปริมาณธาตุ อุณหภูมิ จึงทำให้การเกิดมรกตขึ้นบนโลกใบนี้ยากยิ่งขึ้น ปัจจุบันประเทศที่ส่งออกมากที่สุดคือ ประเทศโคลัมเบีย มักพบอยู่ในหินดินดานที่ผสมกับผงอินทรีย์ดำ หรือหินปูนที่มีผงอินทรีย์ของถ่านหิน
ส่วนใหญ่แล้วมรกตมักเกิดขึ้นในบริเวณที่ใกล้กับการเกิดหินหนืดชนิดแม็กม่าแกรนิตที่มีอุณหภูมิสูง องค์ประกอบส่วนใหญ่เกิดมาจากหินแกรนิตหลอมละลาย ทำให้อุดมไปด้วยธาตุเบริลเลียมในบริเวณใกล้เคียง
หากบริเวณนั้นมีธาตุเหล็กหรือธาตุวาเนเดียม ก็มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นอัญมณีสีเขียวในภายหลัง กว่าจะได้มาเป็นอัญมณีสีเขียวสวยงามให้เราได้ครอบครอง ยังต้องผ่านกระบวนการมากมาย ทั้งกระบวนการธรรมชาติและกระบวนการตกแต่งของมนุษย์ มันจึงไม่น่าแปลกใจที่ราคาจะสูงลิ่ว
ตำนานเรื่องเล่าและสิ่งที่ผู้คนเชื่อเกี่ยวกับมรกต
มรกต เป็นอัญมณีมีค่ามาตั้งแต่สมัยโบราณ ดังนั้นหากมันจะมีความเกี่ยวข้องกับความเชื่อของมนุษย์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร นอกจากนี้ในปัจจุบันมันได้รับการขนานนามว่า หินแห่งความสมหวังด้านความรัก สามารถกระตุ้นความรู้สึกของหัวใจได้
พลังงานของมันช่วยให้ผ่อนคลายและช่วยรักษาชีวิต ทำให้เรารู้สึกสดชื่นแจ่มใส ช่วยให้มีความอดทนและสร้างแรงบันดาลใจ ทำให้เรามีความสุข ความพึงพอใจ และความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
แพทย์แผนโบราณเชื่อว่ามันสามารถรักษาทั้งถุงน้ำดี ตับ ตับอ่อน ปอด และไต รวมถึงระบบกล้ามเนื้อ กระดูกสันหลัง แถมยังช่วยให้หายจากการติดเชื้อได้อีกด้วย
หากย้อนกลับไปในยุคอียิปต์โบราณ มรกต ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตนิรันดร์ มันจึงมักถูกนำเอามาใช้เป็นเครื่องประดับอยู่เสมอ โดยเฉพาะแกะสลักตำราและบทสวดมนต์จากพระคัมภีร์แห่งความตาย เพื่อวางไว้บนร่างของศพในการทำพิธี เนื่องจากมันเป็นสัญลักษณ์แห่งความเยาว์วัยนิรันดร์ ผู้คนจึงเชื่อว่ามันจะช่วยให้ผู้ตายมีความสุขกับชีวิตหลังความตาย
นอกจากนี้ มรกต ยังไปปรากฏในบันทึกของอริสโตเติลที่เขียนเอาว่า การได้ครอบครองอัญมณีประเภทนี้ จะช่วยให้เรามีตัวตนและเป็นคนสำคัญท่ามกลางผู้คนมากมาย ช่วยให้การติดต่อสื่อสารในการทำธุรกิจประสบความสำเร็จ แถมยังช่วยส่งเสริมเรื่องการทดลองและการตัดสินคดีความอีกด้วย
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com