แมวมงคล เลี้ยงติดบ้านเอาไว้ช่วยเพิ่มความโชคดีให้กับคุณมากขึ้นกว่าเดิม 

บนโลกใบนี้มีสัตว์เลี้ยงมากมายให้เราได้เลือกเลี้ยงตามความชื่นชอบ แต่สำหรับบางคนก็ไม่ได้เลี้ยงเพียงเพราะว่าชื่นชอบพวกเขาอย่างเดียวแต่อยากใด อย่างเช่น แมวมงคล ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากเชื่อว่าหากเลี้ยงแล้วจะช่วยให้โชคดีมากขึ้นกว่าเดิม แต่มีเพียงไม่กี่สายพันธุ์เท่านั้นที่จะสามารถช่วยให้เราโชคดีมากขึ้นได้ วันนี้ สายมู.com จะพาทุกคนไปดูกันว่ามีสายพันธุ์ไหนบ้างที่เลี้ยงแล้วจะทำให้คุณโชคดีมากขึ้นกว่าเดิม

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เปิดรายชื่อสายพันธุ์แมวมงคลที่เลี้ยงแล้วโชคดีขึ้นกว่าเดิม 

สายพันธุ์วิเชียรมาศ 

หากพูดถึงแมวมงคลแล้ว เราเชื่อว่าสายพันธุ์แรกที่หลายคนจะนึกถึงก็คงจะหนีไม่พ้นวิเชียรมาศอย่างแน่นอน พวกเขาเป็นแมวไทยที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งโลกด้วยความน่ารักและแปลกตา ถึงขั้นที่มีอีกหนึ่งชื่อเรียกว่า Siamese Cat เลยทีเดียว พวกเขานั้นถูกจดบันทึกอยู่ในสมุดข่อยโบราณ 

โดยในตำรามีหลากหลายชื่ออย่างเช่นแมวแก้ว เป็นต้น แมวสายพันธุ์นี้เดิมทีถูกเลี้ยงเอาไว้ในพระราชสำนักมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยเชื่อว่าเป็นแมวที่จะสามารถนำโชคลาภเข้ามาสู่ผู้ที่เลี้ยงได้ ชาวบ้านธรรมดาทั่วไปไม่มีโอกาสได้เลี้ยงพวกเขาแต่อย่างใด เนื่องจากมีค่าตัวแพง สามารถซื้อขายกันได้มากกว่า 100,000 ตำลึงทอง 

เมื่อครั้งเสียกรุงครั้งที่ 2 พม่าเห็นว่าเป็นทรัพย์สินมีค่า จึงนำไปด้วยและสูญหายไปจากในประเทศไทยอย่างน่าเสีย ต่อมาเจ้าอาวาสวัดอนงคารามสมเด็จพระพุฒาจารย์ พุทธสรมหาเถระ ได้ไปสำรวจเมืองอยุธยาที่รกร้างและพบสมุดข่อยที่ไม่ถูกเผา ได้มีการเอ่ยถึงแมวสายพันธุ์วิเชียรมาศอยู่ จึงได้มีการส่งคนไปค้นจนพบและนำพวกเขากลับคืนสู่ไทยอีกครั้ง 

ความโดดเด่นของแมวสายพันธุ์นี้ก็คือ จะมีตาสีฟ้าสดใส ลำตัวอ้วนแน่น มีขนสั้นสีขาวไปจนถึงสีครีมตลอดทั้งลำตัว มีแต้มสีครั่งหรือสีน้ำตาลไหม้ 9 ตำแหน่งประกอบไปด้วย หูทั้งสองข้าง ขาสี่ข้าง หาง และอวัยวะเพศ 

สายพันธุ์สีสวาด 

แมวสายพันธุ์สีสวาดมีถิ่นกำเนิดอยู่ในอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมาบางคนจึงเรียกพวกเขาว่า “แมวโคราชนั่น” นั่นเอง เนื่องจากเป็นชื่อพระราชทานจากทานสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เรื่องเล่าเกี่ยวกับพวกเขานั้นมีมากมายแต่มีความเชื่อว่า หากพวกเขาหางหักหยิกงอมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มโชคได้มากขึ้นเท่านั้น ที่มาของชื่อพวกเขานั้นเกิดจากการที่ พวกเขามีขนเหมือนกับสีของเมล็ดต้นสวาด 

เชื่อว่าหากเลี้ยงเอาไว้ก็จะช่วยนำพามาซึ่งความสุขสวัสดิมงคลกับผู้เลี้ยง และพวกเขายังมีหลักฐานปรากฏอยู่ในสมุดข่อยโบราณที่กล่าวถึงแมวให้โชคลาภ 17 ตัว ในประเทศไทย ซึ่งมีพวกเขาอยู่รวมในนั้นด้วย ปัจจุบันสมุดเล่มดังกล่าวถูกรักษาเอาไว้ในหอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร

สายพันธุ์ศุภลักษณ์ 

หลายคนเรียกกันว่า “แมวทองแดง” เนื่องจากพวกเขานั้นมีดวงตาเป็นสีเหลืองอำพันเปล่งประกายงดงาม หนวดรวมไปถึงขนสั้นตามลำตัวของพวกเขานั้น เป็นสีเหมือนกับลวดทองแดงไม่มีผิดเพี้ยน พวกเขาจึงมีความสวยงามเป็นอย่างมากจนได้รับชื่อว่า “ศุภลักษณ์” ซึ่งมีความหมายว่าลักษณะที่ดีนั่นเอง ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงได้รับความนิยมในการเลี้ยงเพื่อเสริมดวงไม่น้อยไปกว่าสายพันธุ์อื่นเช่นเดียวกัน

สายพันธุ์โกนจา 

ถึงแม้ว่าแมวสายพันธุ์โกนจานี้จะเป็นสีดำสนิทตลอดทั้งตัวโดยที่ไม่มีสีอื่นปะปนเลยแม้แต่น้อย แถมยังมีดวงตาเป็นสีเหลืองอำพัน ทำให้มันดูโดดเด่นมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก แต่พวกเขานั้นกลับเป็นสัตว์ที่หากเลี้ยงแล้วจะช่วยให้ดวงดีได้มากขึ้นกว่าเดิม ขัดกับความเชื่อที่ว่าแมวดำนำพามาซึ่งความโชคร้ายอย่างสิ้นเชิงกันเลยทีเดียว ไม่ว่าผู้เลี้ยงจะคิดทำสิ่งใดก็มักจะสมปรารถนา ช่วยส่งเสริมด้านการงานและอำนาจวาสนาได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังมีลักษณะคล้ายคลึงกับแมวจากต่างชาติอย่างสายพันธุ์บอมเบย์อีกด้วย

สายพันธุ์ขาวมณี 

เป็นสายพันธุ์ที่สวยและดูหรูหราเป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกเขามีขนสั้นสีขาวตลอดลำตัว มีจมูกและอุ้งเท้าเป็นสีชมพู บางตัวมีดวงตาสีเหลือง ในขณะที่บางตัวเป็นแมวตาเพชรที่มีทั้งดวงตาสีเหลืองและสีฟ้าคนละข้าง มีหลักฐานเป็นจิตรกรรมฝาผนังปรากฏตามในวัดเขตธนบุรีมากมาย แม้ว่าจะไม่ได้รับการบันทึกลงในสมุดข่อยโบราณก็ตาม เชื่อว่าหากเลี้ยงพวกเขาแล้วจะช่วยให้มีโชคลาภและมีผู้คนคอยมาอุปถัมภ์ค้ำจุนอยู่เสมอ

รวมสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเลี้ยงแมวมงคล 

ความจริงแล้วแมวมงคลที่เรามาแนะนำกันในวันนี้ก็เหมือนกับสัตว์เลี้ยงทั่วไป เพียงแต่พวกเขาเป็นสัตว์มงคลที่เมื่อเลี้ยงแล้ว ก็จะให้คุณแก่ผู้เลี้ยงอย่างเช่นช่วยให้มีโชคดี ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีผู้คนคอยอุปถัมภ์ค้ำชู ทำอะไรก็เจริญรุ่งเรือง มีเงินใช้ไม่ขาดมือ ดังนั้นสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเลี้ยงพวกเขาก็คือ พวกเขาเป็นแมวที่มีลักษณะนิสัยซุกซน ชอบวิ่งเล่นปีนป่าย ชอบการออกเดินทางสำรวจไปมาอย่างอิสรเสรี เราต้องทำความเข้าใจกับนิสัยของพวกเขาก่อนนำพวกเขามาเลี้ยง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง และเรายังต้องเตรียมค่าใช้จ่ายมากมายไม่ว่าจะเป็นการอยู่การกินของพวกเขา อย่างเช่น ทรายแมว อาหาร กระบะทราย หรือของเล่น รวมไปถึงค่ารักษาพยาบาลในยามที่พวกเขาเจ็บป่วยอีกด้วย