ไฉ่ซิงเอี๊ย เทพที่คนไทยเชื้อสายจีนต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี 

by saimu
0 comment
ไฉ่ซิงเอี๊ย

ในประเทศไทยของเรานั้นมีผู้คนอาศัยอยู่หลากหลายเชื้อชาติและหนึ่งในนั้นก็คือคนไทยเชื้อสายจีน เราจึงได้มีโอกาสเห็นวัฒนธรรมและความเชื่อของคนไทยเชื้อสายจีนอยู่อย่างแพร่หลาย เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในความเชื่อที่เราได้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงวันตรุษจีน และยังถือได้ว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย วันนี้ สายมู.com จะพาทุกคนไปดูกันว่าไฉ่ซิงเอี๊ยนั้นคือใครและจะมีวิธีการในการบูชาอย่างไร ไปติดตามกันได้เลย 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ไฉ่ซิงเอี๊ย เทพผู้นำพามาซึ่งทรัพย์สินและความร่ำรวย 

ไฉ่ซิงเอี๊ย

ไฉ่ซิงเอี๊ย เป็นเทพเจ้าที่คนไทยเชื้อสายจีนทุกคนต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี เนื่องจากจะต้องไหว้เทพเจ้าองค์ดังกล่าวในวันตรุษจีนเป็นประจำทุกปีนั่นเอง ท่านเป็นเทพแห่งทรัพย์สินเงินทองของจีน ที่อาจจะเกิดในยุคหลังหากเทียบกับเทพองค์อื่น แต่ก็ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว 

เนื่องจากความเชื่อที่ว่า หากกราบไหว้บูชาจะช่วยให้มีโชคลาภเงินทอง มั่งคั่งร่ำรวย มีเงินใช้ไม่รู้จักหมดสิ้น ตามตำนานได้กล่าวเอาไว้ว่า ในอดีตท่านเป็นบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์โดยมีชื่อว่า ปี่กั้น ในปัจจุบันเทพดังกล่าวนั้นมีอยู่หลายองค์เลยทีเดียว 

โดยจะแบ่งออกเป็นไฉ่ซิงเอี๊ยฝ่ายบุ๋น ซึ่งนับว่าเป็นเทพแห่งโชคลาภ ลักษณะภายนอกจะเป็นคนที่หน้าตาดูใจดี มือข้างหนึ่งถือคฑาหยูอี้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคล สามารถมอบสิ่งที่ผู้คนปรารถนาให้กลายเป็นจริงได้ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งถือก้อนทองคำ ซึ่งเป็นตัวแทนของเงินทองและความร่ำรวย 

ด้วยเหตุนี้ผู้คนจึงนิยมบูชามาไว้ในบ้าน ร้านค้า หรือสถานประกอบกิจการต่าง ๆ นั่นเอง ทำให้เกิดความเชื่อว่า หากกราบไหว้บูชาจะช่วยให้กิจการเจริญก้าวหน้า ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ไม่มีปัญหาเรื่องเงินทอง ถึงมีอุปสรรคก็สามารถผ่านพ้นไปได้อย่างราบรื่น 

ส่วนไฉ่ซิงเอี๊ยฝ่ายบู๊ซึ่งหน้าตาจะดูดุดัน มักประทับอยู่บนหลังของเสือ ในมือถือกระบองและก้อนทอง เชื่อว่าจะให้คุณสำหรับคนที่บูชาเกี่ยวกับหนี้สินเงินทอง หากเป็นเจ้าหนี้ก็จะช่วยให้สามารถเก็บหนี้ได้อย่างง่ายดาย ลูกหนี้ไม่เหนียวหนี้จนต้องลำบากใจ นอกจากนี้ยังส่งผลด้านบารมี ช่วยดูแลลูกน้องลูกจ้างทั้งหลายให้ขยันขันแข็งและมีระเบียบวินัยในการทำงาน ทำให้ฝ่ายบู๊ได้รับความนิยมบูชาตามบริษัทห้างร้านหรือโรงงานใหญ่ ๆ 

ไฉ่ซิงเอี๊ย

สำหรับการไหว้ขอพรนั้นมักจะไหว้ในวันตรุษจีนเป็นหลัก โดยจะเป็นเทพองค์แรกที่ผู้คนไหว้กัน เพื่อช่วยเสริมดวงให้ตลอดทั้งปีนั้นเต็มไปด้วยความโชคดีและร่ำรวยเงินทอง ไม่ว่าจะอยู่อาศัยภายในบ้านหรือห้องชุดก็ตามก็สามารถเตรียมโต๊ะสำหรับไหว้ได้ 

เคล็ดลับในการไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ยก็คือ ให้หันหน้าโต๊ะไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ควรตั้งของบูชาเอาไว้บนหลังคาหรือระเบียงที่มีลมพัดแรงเพื่อความปลอดภัย ส่วนของไหว้นั้นจะประกอบไปด้วยเทียนแดง 1 คู่, ชุดแจกันดอกไม้ 1 คู่, น้ำชา 5 ถ้วย, ข้าวสวย 5 ถ้วย, ขนมสาคู 5 ถ้วย, เจไฉ่ 5 อย่าง, หงิงเตี่ย 13 คู่, ชุดกระดาษสำหรับไหว้เจ้าตั่วกิม 13 แผ่น และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ น้ำสะอาด 

บางครอบครัวก็เชื่อว่าหากนำเอากระเป๋าสตางค์ ซองอั่งเปา หรือชุดเครื่องไหว้อื่น ๆ ไปไหว้ด้วย ก็จะช่วยเพิ่มความมั่งคั่งได้มากขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่ไหว้เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้นำเอาของไหว้มาแบ่งให้คนในครอบครัวได้รับประทานร่วมกัน เพื่อเป็นการกระจายความเป็นสิริมงคลต่อไปในอนาคต 

ไฉ่ซิงเอี๊ย

สิ่งสำคัญสำหรับการไหว้นั้นก็คือ เราต้องตรวจสอบก่อนว่าเราอยู่ในปีชงหรือไม่ เพราะมีข้อห้ามอยู่หนึ่งอย่างที่คนเกิดปีชงไม่ควรทำในวันตรุษจีนคือ การไหว้เจ้าเพื่อขอโชคลาภเป็นคนแรก เพราะหากให้คนที่เกิดในปีชงไหว้ก่อนก็อาจจะทำให้คนที่มาไหว้เจ้าหลังจากนั้นโชคร้ายได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคนเกิดปีชงจะไม่สามารถไหว้เจ้าได้แต่อย่างใด เราสามารถไหว้ได้ตามปกติเพียงแต่ต้องไหว้หลังคนอื่นเท่านั้น 

ไฉ่ซิงเอี๊ย จากเทพสู่หน้าจอโทรศัพท์มือถือกับการมูเตลูในยุคใหม่ 

ไฉ่ซิงเอี๊ย

ไฉ่ซิงเอี๊ย ในอดีตนั้นก็เป็นเจ้าทั่วไปที่มีศาลให้ผู้คนที่เคารพได้ไปกราบไหว้บูชา ซึ่งบางบ้านก็อาจจะมีรูปปั้นเทพองค์นี้ติดบ้านเอาไว้ด้วยเช่นกัน แต่ในปัจจุบันที่ยุคสมัยเปลี่ยนไป การดำรงชีวิตของคนก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นเดียวกัน จึงทำให้วิวัฒนาการในการบูชาเครื่องรางของขลังเปลี่ยนไป มีการจัดทำเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยเป็นเครื่องรางแบบพกพา เพื่อให้สะดวกในการบูชามากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีการนำมาทำเป็นรูปภาพวอลล์เปเปอร์ในโทรศัพท์มือถืออีกด้วย เพราะเชื่อกันว่าเวลาพูดคุยติดต่อสื่อสารเกี่ยวกับการทำงานหรือการประสานงาน จะช่วยให้ประสบความสำเร็จและดึงดูดเงินทองความมั่งคั่งเข้ามาได้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งรูปภาพที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนั้น ล้วนแล้วแต่ได้รับการออกแบบขึ้นใหม่ ให้มีความน่ารักน่าใช้เป็นอย่างมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าเหมาะกับวัยรุ่นที่ชื่นชอบการมูเตลูไม่น้อยเลยทีเดียว 

หากคุณต้องการจะเพิ่มความเป็นสิริมงคลมากกว่าเดิม จะลองเลือกใช้รูปของเทพที่มีพื้นหลังเป็นสีมงคลถูกโฉลกกับปีเกิดหรือวันเกิดของเราก็ได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะคนที่เกิดวันจันทร์ ซึ่งสีแดงนั้นเป็นสีที่ไม่ถูกโฉลกสักเท่าไหร่ แต่สีแดงดันเป็นสีประจำตัวของเทพเจ้าองค์นี้ ก็ให้เราหลีกเลี่ยงไปใช้พื้นหลังสีอื่นแทน เพื่อช่วยเพิ่มความเป็นมงคลให้มากขึ้นกว่าเดิม 

You may also like

Leave a Comment