![วัดคินคะคุจิ](https://xn--y3cbx6azb.com/wp-content/uploads/2024/02/image-52-1024x683.jpeg)
เมื่อพูดถึงเมืองเกียวโต เราก็ต้องนึกถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นในสมัยโบราณ วัดวาอารามที่สวยงามตระการตา โดยเฉพาะวัดคินคะคุจิหรือวัดทอง ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เป็นวัดพุทธนิกายเซนที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยเอกลักษณ์ของอาคารหลักศาลาคินคะคุจิที่ประดับด้วยทองคำเปลวอร่าม สะท้อนเงาบนผิวน้ำในสระอย่างงดงาม เปรียบเสมือนดั่งภาพวาดที่ถ่ายทอดความงดงามของงานสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ย้อนอดีตสู่ยุคโชกุน ตำนานของวัดคินคะคุจิ พลับพลาทองใจกลางเกียวโต
![วัดคินคะคุจิ](https://xn--y3cbx6azb.com/wp-content/uploads/2024/02/image-53-1024x683.jpeg)
วัดคินคะคุจิ เป็นวัดสำคัญทางพระพุทธศาสนาในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น หลายคนที่ได้เห็นภาพวัดแห่งนี้อาจรู้สึกคุ้นตาแปลกๆ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไร ถ้าหากคุณเกิดทันการ์ตูนเณรน้อยเจ้าปัญญา อิคคิวซัง คุณจะต้องคุ้นตากับภาพวัดแห่งนี้อย่างแน่นอน เพราะมันคือวัดต้นแบบในการ์ตูนนั่นเอง
วัดทอง เป็นอีกชื่อเรียกหนึ่งของวัด วัดคินคะคุจิ และนอกจากนี้ยังชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดโรคุออนจิ พุทธสถานแห่งนี้เป็นวัดพุทธนิกายเซนของสำนักรินไซ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเกียวโต ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ทั้งในกลุ่มชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติไปเรียบร้อยแล้ว
![วัดคินคะคุจิ](https://xn--y3cbx6azb.com/wp-content/uploads/2024/02/image-54-1024x683.jpeg)
จุดเริ่มต้นของวัดคินคะคุจิ เริ่มต้นขึ้นในสมัยของโชกุนอาชิคางนะ โยชิมิตซึ ที่ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่พักตากอากาศตั้งแต่ปี 1397 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 130,000 ตารางเมตร บริเวณชั้น 2 และชั้น 3 ถูกปิดด้วยทองคำเปลวจนกลายเป็นสีทองอร่ามไปทั่วทั้งหลัง
หลังจากที่โชกุนอาชิคางนะ โยชิมิตซึ ถึงแก่กรรม บ้านพักตากอากาศก็ได้กลายมาเป็นวัดพุทธนิกายเซ็นตามประสงค์ของภรรยาโชกุน เพราะสีทองที่ถูกเคลือบไว้บนตัวอาคาร ถูกทำขึ้นเพื่อบูชาพระพุทธเจ้าโดยเฉพาะ และในหอพระชั้น 2 ยังใช้บูชาคันนง ผู้เป็นเทพเจ้าแห่งความเมตตาอีกด้วย
ที่สำคัญในแต่ละชั้นของปราสาททองที่เราเห็นกันอยู่นี้ ถูกสร้างขึ้นมาด้วยงานสถาปัตยกรรมที่สวยงามและโดดเด่น ชั้นที่ 1 เป็นงานสถาปัตยกรรมชินเด็น-ซุคุริ ได้รับความนิยมในกลุ่มขุนนางชั้นสูงยุคเฮอัน มีความหรูหราและดูยิ่งใหญ่อลังการ
ชั้นที่ 2 เป็นงานสถาปัตยกรรมแบบบุเกะ-ซุคุริ เป็นการออกแบบตามรูปแบบของบ้านพักนักรบซามูไรระดับสูงในยุคคามาคุระ และชั้นสุดท้ายเป็นงานสถาปัตยกรรมแบบเซ็นจากประเทศจีน หลังคาจึงถูกออกแบบมาในรูปทรงพีระมิด หลังคามุงด้วยไม้
สัมผัสเสน่ห์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่วัดคินคะคุจิ
![วัดคินคะคุจิ](https://xn--y3cbx6azb.com/wp-content/uploads/2024/02/image-55-1024x683.jpeg)
มาถึงสถานที่สำคัญของเมืองเกียวโตอย่างวัดคินคะคุจิทั้งที ต้องเข้าเยี่ยมชมให้ทั่วบริเวณ เพราะอันที่จริงแล้ววัดแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ปราสาททองเท่านั้น แต่ยังมีพื้นที่อื่น ๆ ให้ได้เข้าไปสัมผัสเช่นกัน สวนที่อยู่โดยรอบที่มีความสวยงาม อีกทั้งยังมีสระน้ำกระจกหรือสระเคียวโกะชิ สระที่สะท้อนภาพของปราสาททองได้อย่างสวยงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย
วัดคินคะคุจินั้นอาจเป็นวัดที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเชื่อต่าง ๆ สักเท่าไหร่ แต่จะโดดเด่นในแง่ของความสวยงามทางสถาปัตยกรรมเสียมากกว่า ยิ่งใครไปในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี บอกเลยว่าสวยงามสุด ๆ บริเวณใกล้เคียงจะมีสะพานโทเก็ตสึเคียวและเส้นทางป่าไผ่ให้เราได้เดินไปเยี่ยมชม
หลังจากที่เราผ่านประตูเข้ามาแล้วก็จะเจอเข้ากับหอระฆังอยู่ฝั่งซ้ายมือ แต่ถ้าใครอยากรับชมความสวยงามของปราสาททองจะต้องเดินตรงเข้าไปอีกเล็กน้อย ผ่านโซนสำหรับซื้อตั๋วเข้าชม
จุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมจะอยู่บริเวณริมสระน้ำที่มองเห็นทั้งปราสาท เงาสะท้อน และภูมิทัศน์ป่าเขียวชอุ่มได้เป็นอย่างดี พื้นที่ใกล้เคียงกันจะมีร้านขายของทั้งอาหารและของฝากที่ระลึกเรียงรายกันอยู่
สำหรับใครเป็นสายมู หากเดินตามทางไปเรื่อย ๆ จะพบเข้ากับ ศาลาฟุโด-โด ด้านหน้าจะมีกล่องสำหรับโยนเหรียญและขอพร เมื่อเราโยนเหรียญเข้าแล้วก็ให้สั่นกระดิ่งเพื่อขอพรได้เลย แถมยังมีจุดบริการให้จุดธูปเทียนกราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย
เปิดคู่มือการเดินทางท่องเที่ยววัดคินคะคุจิ ข้อมูลครบ จบในที่เดียว
![วัดคินคะคุจิ](https://xn--y3cbx6azb.com/wp-content/uploads/2024/02/image-56-1024x683.jpeg)
วัดคินคะคุจิได้รับการยกย่องให้เป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญไม่แพ้กับสถานที่แห่งอื่นในเมืองเกียวโตเลยแม้แต่น้อย เมื่อปี 1994 ทางยูเนสโกได้ทำการขึ้นทะเบียนวัดแห่งนี้ให้เป็นมรดกโลก แม้ว่าโครงสร้างดั้งเดิมจะถูกไฟไหม้ตั้งแต่ปี 1950 และมีการบูรณะใหม่ในปี 1955 ก็ตาม
นอกจากวัดคินคะคุจิจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแล้ว บริเวณใกล้เคียงกันก็ยังมีมรดกโลกอื่น ๆ อีกมากมายให้คุณได้ลองไปสัมผัส ไม่ว่าจะเป็น วัดเรียวอันจิ วัดกินคาคุจิ และวัดเท็นริวจิ แต่อย่าเพิ่งไปเที่ยวที่อื่น เพราะวัดแห่งนี้เปิดทำการเฉพาะ 9:00 น. ถึง 17:00 น. เท่านั้น
ใครอยากไปเที่ยวต้องเตรียมค่าเข้าด้วย ผู้ใหญ่เริ่มตั้งแต่เด็กมัธยมปลายขึ้นไปมีค่าเข้าชม 400 เยน สำหรับเด็กมีค่าเข้าชม 300 เยน
วิธีการเดินทางสามารถเดินทางได้ด้วยรถบัสผ่านป้าย Kyoto City Bus สาย 12, 59, 101, 102, 111, 204, 205 เดินทางมาลงที่ป้าย Kinkakuji-michi จากนั้นเดินต่ออีก 5 นาทีก็จะเห็นตัววัด หรือถ้านั่งมาจากสถานีเกียวโต ให้นั่งรถบัสสาย 205 ลงที่ป้าย Kinkakuji-michi เหมือนกัน ในปัจจุบันป้าย Kinkakuji-mae ได้ถูกยกเลิกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับใครที่เดินทางครั้งแรกอาจเกิดความสับสนได้
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com