พาชม “วัดกษัตราธิราชวรวิหาร” วัดนอกเกาะเมืองที่สวยงามไม่เปลี่ยน

by saimu
0 comment
วัดกษัตราธิราชวรวิหาร

หลายคนอาจมีภาพจำว่าวัดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามักเป็นวัดที่เหลือแต่ซากปรักหักพัง แต่ความจริงแล้วมีอยู่หลายวัดเลยทีเดียวที่ไม่เคยถูกทำลาย อย่างวัดกษัตราธิราชวรวิหาร วัดที่ตั้งอยู่นอกเกาะเมือง ทำให้ในช่วงเสียกรุงครั้งที่ 2 ที่มีการเผาบ้านเผาเมืองของทัพพม่า วัดแห่งนี้จึงรอดพ้นจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นมาได้ได้ และยังคงความยิ่งใหญ่อลังการได้เหมือนเมื่อหลายร้อยปีที่แล้วแบบแทบจะไม่มีผิดเพี้ยน ใครเป็นสายมูหรืออยากลองไปสัมผัสกับความสวยงามของวัดแห่งนี้ด้วยตาตัวเอง นี่คือสิ่งที่คุณควรจะต้องรู้เอาไว้ ก่อนไปเยี่ยมชม

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักวัดกษัตราธิราชวรวิหาร วัดที่มีประวัติศาสตร์นานหลายร้อยปี 

วัดกษัตราธิราชวรวิหาร

วัดกษัตราธิราชวรวิหาร วัดที่มีความสำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและของประเทศไทย เพราะมันถูกสร้างขึ้นมาในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่นอกเกาะเมืองไม่ไกลจากเจดีย์พระศรีสุริโยไท ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศตะวันตก ใกล้กับวัดไชยวัฒนาราม 

ที่มาของชื่อวัดเกิดมาจากวัดแห่งนี้เป็นวัดของกษัตริย์มาตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ไม่มีหลักฐานปรากฏชัดเจนแต่อย่างใดว่าใครเป็นผู้สร้าง ปัจจุบันถูกจัดให้อยู่ในชั้นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดวรวิหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในเชิงพุทธศาสนา วัดกษัตราธิราชวรวิหารถือเป็นแหล่งยึดเหนี่ยวจิตใจให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าว ให้ได้มารวมตัวกันเพื่อปฏิบัติธรรมและทำหน้าที่ตามที่พุทธศาสนิกชนมักทำกัน 

การออกแบบตัววัดเองก็มีความสวยงามและยิ่งใหญ่อลังการ ถึงจะผ่านการบูรณะมาแล้วบ้าง แต่ก็ยังคงเอาไว้ซึ่งศิลปะและสถาปัตยกรรมในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่เริ่มหาดูของแท้ได้ยากแล้วในปัจจุบัน หากใครมีโอกาสได้เดินทางไปจังหวัดอยุธยา ห้ามพลาดเข้าไปเยี่ยมชมวัดกษัตราธิราชวรวิหารโดยเด็ดขาด 

ประวัติความเป็นมาของวัดกษัตราธิราชวรวิหาร

วัดกษัตราธิราชวรวิหาร

วัดกษัตราธิราชวรวิหาร เดิมทีมีชื่อว่า “วัดกษัตรา” บ้างก็เรียกว่า “วัดกษัตริย์ตาราม” โดยมีความหมายที่แปลตรงตัวได้ว่า เป็นวัดของกษัตริย์ ถึงอย่างนั้นกลับไม่มีปรากฏหลักฐานแต่อย่างใดว่าใครสร้างขึ้นมา ดังนั้นจึงคาดการณ์กันว่า น่าจะเป็นวัดที่มีกษัตริย์หรือพระบรมวงศานุวงศ์สักท่านหนึ่งสร้างขึ้นมาในสมัยกรุงศรีอยุธยา

วัดแห่งนี้ถูกกล่าวถึงครั้งแรกในสมัยของสมเด็จพระสุริยามรินทร์ มีวันหนึ่งพม่าได้นำเอาปืนใหญ่มาตั้งไว้ในวัดกษัตราธิราชวรวิหารและวัดราชพฤกษ์เพื่อยิงเข้ามาภายในพระนคร ช่วงเวลานั้นมีราษฎรจำนวนมากที่ต้องล้มตาย และวัดแห่งนี้ก็คงถูกทำลายจนเสียหายในช่วงที่กรุงศรีถูกทิ้งร้าง

กว่าจะกลายมาเป็นสถานที่สำคัญที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน ก็ต้องรอจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์เลยทีเดียว เมื่อสมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ กรมพระราชบวรสถานพิมุกต์ ได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดก่อนจะเปลี่ยนชื่อให้เหมือนกับในปัจจุบัน 

เข้าสู่สมัยของรัชกาลที่ 2 สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนอิสรานุรักษ์ ผู้เป็นต้นราชสกุลอิสรางกูรก็ได้ปฏิสังขรณ์วัดกษัตราธิราชวรวิหารอีกครั้ง จนเข้าสู่ปี พ.ศ. 2349 ก็มีพระสงฆ์จำนวนมากมาจำพรรษาที่วัด และกลายเป็นอารามหลวงอันดับที่ 9 ในจังหวัดพระนครอยุธยา จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2520 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกให้วัดแห่งนี้เป็นอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรมหาวิหารในที่สุด 

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในวัดกษัตราธิราชวรวิหาร

วัดกษัตราธิราชวรวิหาร

วัดกษัตราธิราชวรวิหาร กลายเป็นโบราณสถานแห่งชาติอย่างเป็นทางการ หลังได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนในปี 2541 ในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 115 เป็นเวลายาวนานมากกว่า 25 ปีแล้ว ดังนั้นวัดแห่งนี้จึงไม่ใช่เป็นเพียงสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ของผู้คนที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญเชิงประวัติศาสตร์อีกด้วย สามารถดึงดูดทั้งเหล่านักท่องเที่ยวและสายมู ให้เดินทางมาเยี่ยมชมด้วยตาของตัวเองเป็นจำนวนไม่น้อยในแต่ละวัน ซึ่งภายในวัดจะมีจุดไหนบ้างที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย

  1. พระอุโบสถ เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์เด็ดของวัดกษัตราธิราชวรวิหาร เนื่องจากเป็นบริเวณที่ประดิษฐานของพระพุทธศาสตราธิราช พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สูงมากกว่า 2.9 เมตรและมีฐานกว้างถึง 2.09 เมตร ด้านล่างรองรับด้วยฐานชุกชี ลักษณะนั่งประทับแบบขัดสมาธิปางมารวิชัย ใบหน้ามีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยม ลงรักปิดทองสวยงามอร่ามตา ตามเพดานเขียนลวดลายราชวัตรด้วยทอง มีทั้งลายพุ่มข้าวบิณฑ์และดอกกลมสลับกันบนพื้นสีแดง เพดานถูกสร้างด้วยวัสดุอย่างไม้ลงรักปิดทองและปูพื้นด้วยหินอ่อนที่นำเข้ามาจากอิตาลีในสมัยรัชกาลที่ 5 
  2. พระพุทธรูปปางประทานพรและปางถวายเนตร เป็นพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารทางทิศเหนือ เป็นซุ้มเรือนแก้วที่ด้านหน้ามีรอยพระพุทธบาทจำลองลงรับปิดทองประดิษฐานอยู่ ใครเป็นสายมูสามารถไปสักการบูชาเพื่อเพิ่มเมตตามหานิยมได้ 
วัดกษัตราธิราชวรวิหาร
  1. พระพุทธชนะมาร เป็นพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่หน้าพระพุทธกษัตราธิราช ผู้คนมักเดินทางไปขอพร เนื่องจากมีความเชื่อว่าจะช่วยให้ชีวิตมีความเป็นสิริมงคล มีความสุขความเจริญ หยิบจับทำอะไรก็ร่ำรวย ไม่มีอุปสรรคหรือปัญหามาคอยขัดขวางชีวิต พูดจาอะไรคนฟังก็รักก็หลง เสริมบารมีในการทำงาน และยังช่วยเรื่องคงกระพันชาตรีอีกด้วย
  2. พระปรางค์ฝักข้าวโพด เป็นพระปรางค์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ดังนั้นจึงกลายเป็นประปรางค์หลักภายในวัด มีความสูงกว่า 22 เมตร บริเวณเรือนมีซุ้ม 4 ด้าน ภายในเป็นรูปจำลองเจดีย์ขนาดเล็ก ประดับประดาด้วยภาพนูนสูง หน้าบันเหนือซุ้มประดับด้วยลวดลายอุณาโลม ลักษณะโดยรวมคล้ายกับฝักข้าวโพดซึ่งเป็นศิลปะในสมัยอยุธยา
  3. วิหารทางทิศใต้ ตัววิหารดูเหมือนอาคารธรรมดาทั่วไป แต่ภายในเป็นที่ประดิษฐานของรูปหล่อพระวิสุทธาจารเถร หรือหลวงปู่เทียม สิริปัญโญ เกจิอาจารย์ชื่อดังที่อดีตเคยเป็นเจ้าอาวาส มีความสามารถในการสร้างตะกรุดเพื่อเพิ่มเมตตามหานิยมและอยู่ยงคงกระพัน และยังมีรูปหล่อของสมเด็จพระนพรัตน์ผู้เป็นพระอาจารย์ในสมเด็จพระนเรศวรมหาราชอีกด้วย 

ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com

You may also like

Leave a Comment