กิเลน สัตว์ในตำนานของประเทศจีนที่ปรากฏอยู่ในสื่อดังทั่วโลก 

ประเทศจีนเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีอารยธรรมเกี่ยวกับสัตว์ในตำนานมากมาย และหนึ่งในสัตว์ที่ได้รับความนิยมจนไปปรากฏตัวอยู่ในสื่อดังทั่วทั้งโลกก็คือ กิเลน พวกเขาปรากฏตัวอยู่ในภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Shang-Chi and The Legend of The Ten Rings หรือ Fantastic beasts ให้พวกเราได้รับชมความยิ่งใหญ่อยู่หลายต่อหลายครั้ง ออกมาทีไรก็แย่งซีนทุกครั้งไป สำหรับใครที่สนใจ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นกัน 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

เปิดประวัติของกิเลน สัตว์ในตำนานของชนชาติจีน

กิเลนจัดเป็น 1 ใน 4 สัตว์เทพตามตำนานของประเทศจีน ส่วนอีก 3 ชนิดที่เหลือคือสายพันธุ์ที่ทุกคนต่างคุ้นหูคุ้นตากันเป็นอย่างดี นั่นก็คือ มังกร เต่า และหงส์ พวกเขามีลำตัวเหมือนกวาง มีหัวเหมือนกับมังกร มีเท้าเป็นกีบเหมือนกับลา มีทั้งหมด 5 เล็บ 

บริเวณขาของกิเลนจะถูกปกคลุมไปด้วยขน มีหางเป็นพวงเหมือนกับวัว บริเวณหน้าผากจะมีเขาอ่อน ทั่วทั้งลำตัวถูกปกคลุมด้วยเกล็ดเหมือนกับปลา 

แต่อย่างไรก็ตามลักษณะภายนอกของกิเลนนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าปรากฏอยู่ในตำราไหน เนื่องจากพวกเขาเป็นสัตว์ที่ไม่ได้มีอยู่จริง ดังนั้นแต่ละตำราจึงมีการอธิบายถึงลักษณะของพวกเขาที่แตกต่างกันออกไป 

เดิมทีตัวผู้จะมีชื่อเรียกว่า กิ ส่วนตัวเมียมีชื่อเรียกว่า เลน แต่ในภายหลังถูกนำเอาชื่อมาต่อกันแล้วเรียกรวม ๆ ไปเลยเพื่อความสะดวก แต่เราจะสามารถแยกตัวผู้ออกจากตัวเมียได้จาก เขา เพราะตัวผู้มีเขา แต่ตัวเมียไม่มีเขานั่นเอง 

สำหรับชาวจีนแล้ว กิเลนจัดเป็นสัตว์มงคลที่ให้คุณหลายด้าน เป็นสัญลักษณ์ของการมีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง นำพาสิ่งดีๆ และอนาคตมาสู่ลูกหลานของเรา ดังนั้นภาพที่ปรากฏจึงมักจะมีเด็กขี่พวกเขาอยู่เสมอ 

เราไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าความเชื่อเกี่ยวกับกิเลนกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ว่ากันว่าเรื่องราวของพวกเขาถูกเล่าขานต่อกันมายาวนานนับพันปีแล้ว และยังปรากฏอยู่ในประวัติขงจื้อด้วย เล่ากันว่าขณะที่ขงจื้อได้เดินทางไปยังรัฐแห่งหนึ่ง เจ้าแห่งรัฐนั้นได้สั่งประหารนักปราชญ์ไป 2 ชีวิต 

ขงจื้อจึงได้รำพึงรำพันขึ้นมาบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเหลืองว่า สายน้ำเอย แม้จะงดงามเพียงใด แต่ข้าก็ไม่คิดที่จะข้ามฝ่าไป ด้วยนี่คือชะตาของชีวิต เมื่อลูกศิษย์ถามถึงความหมาย ขงจื้อก็ได้กล่าวว่า เดิมทีนักปราชญ์ทั้ง 2 ท่านเป็นที่ปรึกษาสมัยที่การเมืองยังไม่ประสบผลสำเร็จ 

แต่เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นก็ถูกฆ่าทิ้งเสียอย่างนั้น และได้กล่าวต่อไปอีกว่า แม้มีผู้ที่ทำร้ายสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยในป่า กิเลนจะไม่ปรากฏตัวออกมาแต่อย่างใด แต่หากมีคนทำร้ายมัจฉาจนหมดสิ้น มังกรก็จะไม่ดลบันดาลให้เกิดฝนตก 

หากมีคนทำร้ายไข่นก พญาหงส์ก็จะไม่โบยบินออกมาให้เราได้เห็น เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น เพราะสัตว์เหล่านี้อยู่ในปาณชีพชาติเดียวกัน เมื่อมีความพินาศบังเกิดย่อมทำให้รันทดใจ สัตว์เดรัจฉานยังเป็น แล้วเพราะเหตุใดเราจึงจะไม่สะเทือนใจเมื่อนักปราชญ์ถูกฆ่า 

ประเภทของกิเลน 

มีอีกหนึ่งตำนานเกี่ยวกับกิเลนเล่าว่า ในยุคราชวงศ์หมิง กษัตริย์ได้พบกับยีราฟที่มาพร้อมเรือบรรทุกสินค้าจากเบงกอล เป็นสัตว์ที่ประชาชนชาวจีนไม่เคยพบเจอมาก่อน จึงได้ตั้งชื่อให้กับพวกเขาใหม่ และได้สั่งให้จิตรกรวาดภาพสัตว์สายพันธุ์นี้เพื่อประดับประดาในราชวัง ทำให้เราสามารถจำแนกสายพันธุ์กิเลนจากภาพวาดในยุคโบราณออกมาได้ทั้งหมด 4 ประเภท ประกอบไปด้วย

1. สายพันธุ์จีน ลักษณะจะมีหัวเป็นมังกร มีเขาอยู่อันเดียว ลักษณะเหมือนของกวาง แต่ชี้ออกมากลางหน้าผาก ร่างกายเป็นสัตว์ ฝีเท้าเหมือนกับกวาง ผิวถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดปลา เป็นสัตว์ที่ประกอบด้วยเบญจธาตุครบถ้วนทั้ง ดิน น้ำ ไฟ โลหะ และไม้ มีอายุยืนยาวนับพันปี สามารถเดินบนผิวน้ำได้ 
2. สายพันธุ์ไทย หรือม้านิลมังกรในวรรณกรรมไทยอย่างพระอภัยมณีนั่นเอง ว่ากันว่าสุนทรภู่ได้แรงบันดาลใจมาจากกิเลนของประเทศจีน จึงได้มีการสรรสร้างสัตว์ที่มาพร้อมกับอิทธิฤทธิ์ในวรรณกรรมของตนเอง ลักษณะจะคล้ายกับม้าที่มีหัวเป็นมังกร มีเกล็ดสีดำตลอดทั้งลำตัว สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ 
3. สายพันธุ์ปีก เป็นลักษณะที่ดูแปลกตาเนื่องจากมีปีกแต่ไม่มีเขา ดังนั้นจึงสามารถบินไปทั่วท้องฟ้าได้ เท้าเหมือนราชสีห์ที่มีกรงเล็บแหลมคม 
4. สายพันธุ์ไฟ รูปร่างของพวกเขาไม่แตกต่างจากสายพันธุ์อื่น แต่ลำตัวจะลุกเป็นไฟท่วมทั้งตัว มีนิสัยดุร้าย กินมนุษย์ มีอิทธิฤทธิ์ที่ไม่มีใครสามารถปราบได้ 

กิเลน สัตว์ในตำนานสู่ของมงคลสำหรับแต่งบ้าน 

ในปัจจุบัน กิเลน ได้กลายมาเป็นของเสริมดวงตามหลักฮวงจุ้ยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเชื่อว่าพวกเขาเป็นสัญลักษณ์ของเงินทองและโชคลาภมหาศาล รูปจำลองของพวกเขามักจะนั่งหรือยืนบนกองเงินกองทอง 

เมื่อนำเอามาประดับตกแต่งบ้านก็จะทำให้มีโชคลาภและเงินทองไหลมาเทมาไม่หยุดหย่อน การทำงานก็จะประสบความสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี มีลมหายใจเป็นพลังชี่ที่ช่วยเสริมพลังให้กับบ้านของเราได้ ช่วยเพิ่มความกระตือรือร้น ทำให้คนในบ้านสุขภาพดี มีชื่อเสียง และยังมีความพากเพียรอีกด้วย 

ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com