ตะกรุด ของมงคลที่ผู้คนเคยนิยมพกพาติดตัวในอดีต

by saimu
0 comment
ตะกรุด

ตะกรุด” เครื่องรางของขลังที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นของขลังที่มีความเชื่อกันว่า ผู้ที่บูชาและพกติดตัว จะมีความเป็นสิริมงคลและแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่าง ๆ ในยุคหนึ่งผู้คนต่างลืมเลือนเครื่องรางของขลังชนิดนี้ไป จนกระทั่งในยุคปัจจุบันที่ของขลังชินนี้ ได้ฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครับ จากการนำมาเปลี่ยนแปลงรูปแบบให้ดูทันสมัย น่าพกพา และได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของคนรุ่นใหม่ไม่ต่างจากเครื่องประดับที่มีขายกันอยู่ทั่วไป วันนี้ สามู.com จะพาทุกคนมาดูกันว่า ตะกรุดนั้นคืออะไร มีที่มีที่ไปอย่างไร แล้วจะมีความศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหน ไปติดตามกันได้เลยค่ะ

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ทำความรู้จักกับตะกรุด ของมงคลที่กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในยุคมูเตลู 

ตะกรุด

ตะกรุด เป็นเครื่องรางของขลังที่เรามักพบเห็นได้ทั่วไปตั้งแต่อดีตมาจนถึงในปัจจุบัน โดยที่ลักษณะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนักจากในอดีต โดยจะเป็นแท่งทรงกระบอกถูกบรรจุอยู่ในหลอดแก้วทรงกระบอกที่สามารถมองเห็นภายในได้อย่างชัดเจน

โดยภายในนั้นก็จะมีลักษณะและสีที่แตกต่างกันออกไป นั่นก็เป็นเพราะว่า ตะกรุดสามารถสร้างขึ้นได้จากหลากหลายวัสดุ ที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดก็คือโลหะแผ่นบาง ๆ ซึ่งจะนิยมใช้โลหะที่มีค่าอย่างเช่น เงิน นาก ทองคำ หรือแม้แต่โลหะชนิดอื่นที่พอจะมีให้เห็นกันอยู่บ้างอย่างเช่น ตะกั่ว 

นำเอามาลงอักขระยันต์ที่มีความหมายและให้คุณแตกต่างกันออกไป หลังจากนั้นก็นำเอาโลหะดังกล่าวมาม้วนให้เป็นท่อทรงกลมโดยมีช่องว่างตรงกลาง ซึ่งในอดีตนั้นเป็นการทำเพื่อให้สามารถร้อยเชือก และสามารถพกพาติดตัวได้สะดวก 

แต่ในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าจะม้วนเป็นทรงกลมเหมือนเดิม แต่เราก็มักบรรจุเอาไว้ในหลอดแก้ว เพื่อยืดอายุการใช้งาน สำหรับโลหะแต่ละชนิดที่ใช้ในการทำนั้น ก็จะมีความเชื่อที่แตกต่างกันออกไปอย่างเช่น หากใช้ทองหรือเงินก็จะทำให้เกิดผลในด้านเมตตา หากใช้ทองแดงก็จะทำให้เกิดผลในด้านอยู่ยงคงกระพัน หากใช้ตะกั่วก็จะทำให้เกิดผลในด้านความแคล้วคลาดปลอดภัย 

ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถทำมาจากหนังสัตว์ได้อีกด้วยอย่างเช่น หนังงู หนังเสือ หรือหนังลูกวัวอ่อนที่ตายในท้องแม่ สามารถทำมาจากกระดูกสัตว์อย่างเช่น เขาวัวเผือกหรือกระดูกช้างได้ นอกจากนี้ยังสามารถทำมาจากไม้มงคลอย่างเช่น ไม้ขนุน ไม้ไผ่ และไม้คูน ได้อีกต่างหาก 

ตะกรุด

ในอดีตของขลังชิ้นนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ได้มีรูปลักษณ์เหมือนกับในปัจจุบันที่เราได้เห็นกันแต่อย่างใด ในตอนแรกพวกเขาถูกสร้างขึ้นมาให้มีขนาดใหญ่และหนา สำหรับการพกพาออกไปทำศึกสงคราม แต่ในปัจจุบันที่เราไม่ต้องเข้าไปสู่สนามรบ ก็มีการสร้างให้มีขนาดที่เล็กลงมา ทำให้สามารถพกพาติดตัวได้ง่ายขึ้น

สำหรับการบูชาตะกรุดในปัจจุบันจะนิยมทำ 3 รูปแบบ ประกอบไปด้วย การคล้องคอ การคล้องแขนเป็นกำไล และการคาดเอวแบบในอดีต แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ การใส่เป็นกำไล นั่นเอง เนื่องจากเครื่องประดับมูเตลูในปัจจุบันนั้น ได้รับการออกแบบมาให้มีความน่ารักและทันสมัย 

ดังนั้นต่อให้เป็นตะกรุด แต่ก็ยังใส่แล้วดูสวยงามด้วยเช่นกัน ที่สำคัญกำไล 1 ชิ้น ยังสามารถใส่ของศักดิ์สิทธิ์ได้มากกว่า 1 ชิ้นอีกด้วย หากมีดอกเดียวก็จะเรียกว่าโทน หากมี 2 ดอก ก็จะเรียกว่าแฝด หากมีโลหะ 3 ชนิด จะถูกเรียกว่า 3 กษัตริย์ แต่หากมี 16 ดอกก็จะเรียกว่าโสฬส

ตะกรุด

ตะกรุดแต่ละรุ่นนั้นก็จะเสริมดวงแตกต่างกันออกไป แล้วแต่ความต้องการของแต่ละคนอย่างเช่น แบบมหาเสน่ห์ที่จะช่วยให้คุณมีเสน่ห์และทำมาค้าขึ้น พูดจาอะไรคนก็ฟัง ไปไหนมาไหนคนก็รักและเอ็นดู รุ่นปลดหนี้ที่จะช่วยให้คุณนั้น สามารถทำงานหาเงินหรือมีโชคลาภนำเอามาใช้ปลดหนี้สินที่มีอยู่ได้ รุ่นร้อยชู้ที่ช่วยเสริมในด้านความรักเป็นพิเศษ ให้คุณสุขสมหวังกับคนที่ปรารถนา หรือจะเป็นรุ่นมหามนต์จนไม่เป็นสำหรับคนที่อยากจะร่ำรวยเงินทอง มีกินมีใช้ไม่ขาดมือ 

บางรุ่นไม่ได้ช่วยให้เราโชคดีหรือมีดวงในด้านการทำมาค้าขายเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถพลิกดวงชะตาเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดีได้ สามารถเสริมในด้านการงานช่วยให้เราได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง และที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือ รุ่นคงกระพันชาตรี ที่จะช่วยให้คุณแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติหรือสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติที่จ้องจะทำลายคุณก็ตาม 

บูชาตะกรุดอย่างไรให้ได้ผลดีไปดูกัน 

ตะกรุด

ตะกรุด นั้นเป็นหนึ่งในของศักดิ์สิทธิ์ที่หากคุณบูชาแล้วต้องการให้เกิดพุทธคุณสูงสุด ก็ต้องปฏิบัติตนให้ดีไม่ว่าจะเป็นการทำตัวให้เหมาะสม ไม่ด่าว่าพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ ไม่ลองของหรือท้าทายสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ เพียงเท่านี้ก็จะดีต่อตัวผู้บูชาอย่างเราแล้ว เพราะความจริงแล้วของเหล่านี้ไม่ได้มีวิธีการบูชาที่ยุ่งยากหรืออันตรายแต่อย่างใด และหากคุณต้องการจะเสริมให้โชคดีมากขึ้นกว่าเดิมก็มีบทคาถาบูชาเช่นเดียวกัน โดยให้ตั้งนะโม 3 จบแล้วกล่าวว่า นะเมตตา โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู สารพัดศัตรูวินาศสันติ อิติปิโส สำเร็จสมปรารถนาด้วย นะโมพุทธายะ 

สำหรับใครที่สวมใส่เป็นเครื่องประดับสายมูโดยเฉพาะกำไล เราต้องไม่ลืมว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่จำเป็นต้องดูแลรักษาความสะอาดให้ดี ไม่ควรใช้ทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับความสกปรกอย่างเช่น หากคุณจะอาบน้ำ เข้าห้องน้ำ หรือทำความสะอาดบ้านที่ต้องใช้มือลงไปทำ ก็ขอแนะนำให้ถอดเก็บไว้ก่อน หลังจากทำความสะอาดร่างกายเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่อยกลับมาสวมใส่ใหม่อีกครั้ง

You may also like

Leave a Comment