เบี้ยแก้ ของขลังพุทธคุณครอบจักรวาลที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ยุคโบราณ

by saimu
0 comment
เบี้ยแก้

เครื่องรางของขลังในประเทศไทยนั้นมีด้วยกันมากมายหลายชนิด ทั้งสายขาวและสายดำ ทั้งสายบุ๋นและสายบู๊ แต่ละชนิดก็จะมีพุทธคุณที่แตกต่างกันออกไป ทำให้วัตถุประสงค์ที่นำมาใช้แตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน แต่มีเครื่องรางอยู่ไม่กี่ชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นเครื่องรางครอบจักรวาล ซึ่ง เบี้ยแก้ ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในเครื่องรางของขลังครอบจักรวาลด้วยเช่นกัน ด้วยพุทธคุณที่ช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้าย ทั้งจากคนทั่วไปที่เรามองเห็นและจากสิ่งที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ ป้องกันคุณไสย ภัยมืดต่าง ๆ 

นอกจากนี้ยังสามารถช่วยเสริมเสน่ห์ในด้านเมตตามหานิยม ช่วยเรียกทรัพย์สินเงินทองได้ ทำให้มีความเชื่อที่ว่า หากใครได้ครอบครองเบี้ยแก้ จะทำให้คนคนนั้นเจริญก้าวหน้าได้เป็นอย่างดี มีแต่ผู้คนนิยมรักใคร่ และในวันนี้ สายมู.com จะพาทุกคนไปดูกันว่า เครื่องรางของขลังชิ้นนี้คืออะไร ทำมาจากอะไร และมีพุทธคุณอย่างที่เราได้กล่าวไปจริงหรือไม่ ไปติดตามกันได้เลย 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับเบี้ยแก้ เสริมโชคได้ แก้ของดี 

เบี้ยแก้

เบี้ยแก้ นับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นิยมใช้กันมาตั้งแต่ในยุคโบราณ สมัยที่ประเทศไทยของเรายังใช้เปลือกหอยแทนเงิน คำว่าแก้นั้นมาจากคำว่าแก้บน เพราะในอดีตจะใช้เงินเป็นเครื่องมือในการบนบานศาลกล่าวให้เกิดผลตามความปรารถนา 

ดังนั้นจึงเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของการพลิกสถานการณ์เปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี สามารถแก้สิ่งอาถรรพ์หรือของให้โทษได้ เรียกได้ว่าเป็นเครื่องรางที่อเนกประสงค์เป็นอย่างมาก ลักษณะภายนอกของเบี้ยแก้นั้นอาจจะดูเหมือนเปลือกหอยธรรมดา 

แต่ความจริงแล้วเกจิอาจารย์ที่จะสร้างของชิ้นนี้ขึ้นมานั้น จะต้องนำเอาหอยเบี้ยมาบรรจุปรอทเข้าไป หลังจากนั้นก็อุดเอาไว้ด้วยชันโรง นำเอาแผ่นตะกั่วหรือผ้ามาห่อหุ้ม จากนั้นนำเอาเชือกที่ทาด้วยรักมาถักทอก่อนจะนำเอาไปปลุกเสก 

เบี้ยแก้

ดังนั้น เบี้ยแก้ จึงมีกระบวนการทำที่ค่อนข้างยาก เพราะไม่สามารถบรรจุปรอทเข้าไปได้ด้วยวิธีการปกติ แต่ละสายแต่ละสำนักก็จะมีรูปแบบการประกอบพิธีที่แตกต่างกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วไม่มีการใช้มือกรอกปรอทเข้าไปในเบี้ย แต่จำเป็นจะต้องใช้พลังจิตที่แรงกล้าเพื่อให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นมา จึงจะกลายเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถบูชาเพื่อให้เกิดพุทธคุณได้ 

สำหรับพุทธคุณนอกจากจะช่วยเสริมดวงให้มีความโชคดี มีเงินทองไหลมาเทมา ไม่ว่าจะหยิบจับสิ่งใดก็ล้วนแล้วแต่ประสบความสำเร็จตามความปรารถนาแล้ว และยังสามารถช่วยแก้ของเมื่อโดนของได้อีกด้วย สามารถป้องกันเสนียดจัญไรสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายที่จะเข้ามาทำร้ายคนที่บูชา ทั้งมนุษย์ ผีสางเทวดา ยาเบื่อ ยาสั่ง หรือสัตว์ที่มีพิษร้าย 

เบี้ยแก้

สาเหตุที่ต้องใช้ปรอทเป็นหนึ่งในส่วนประกอบของการทำเบี้ยแก้นั้นเป็นเพราะว่า ในยุคโบราณเชื่อว่าปรอทเป็นสิ่งมีชีวิตแถมยังเป็นรองเพียงแค่เหล็กไหลเท่านั้น แม้ว่าจะไม่เคยทำพิธีมาก่อนก็มีอาถรรพ์อยู่ในตัว เป็นของที่ภูตผีปีศาจรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก 

อีก 1 องค์ประกอบที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ ชันโรง ซึ่งตามธรรมชาติแล้วจะมีอยู่ 2 ชนิด ประกอบไปด้วย แบบบนต้นไม้และแบบใต้ดิน ส่วนใหญ่จะนิยมใช้แบบใต้ดินมากกว่า เนื่องจากนับว่าเป็นของอาถรรพ์ที่หากไปอยู่ตรงไหนก็จะไม่เกิดเหตุไฟไหม้ 

เป็นมหาอุดกันได้ทั้งการโดนของและอัคคีภัย ใช้ในการปิดปากเบี้ยไม่ให้ปรอทหนีออกมา ในส่วนของยางรักหรือน้ำรักนั้น เป็นส่วนที่ช่วยเรื่องพุทธคุณเมตตามหานิยม ไปไหนมาไหนก็มีแต่ผู้คนรักใคร่เอ็นดู 

เปิดเบี้ยแก้ที่ได้รับความนิยมและวิธีการใช้ 

เบี้ยแก้

เบี้ยแก้ เป็นของขลังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากมาตั้งแต่ในยุคโบราณอยู่แล้ว ดังนั้นจึงมีแหล่งที่มาจากหลากหลายเกจิอาจารย์เลยทีเดียวที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่ว่าจะเป็นสายอ่างทองของหลวงปู่คำ วัดโพธิ์ปล้ำ สายนครชัยศรีของหลวงปู่บุญ หลวงปู่เจือ หลวงปู่เพิ่ม 

ซึ่งการสร้างของแต่ละสายแต่ละสำนักก็จะมีกระบวนการที่แตกต่างกันออกไป ผู้ที่จะสามารถสร้างได้นั้นจำเป็นที่จะต้องมีพลังจิตที่สูงเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องใช้พลังจิตในการบังคับให้ปรอทวิ่งเข้าไปในตัวเบี้ยด้วยตนเอง 

อย่างเช่นเบี้ยแก้ของสายอ่างทองนั้นจะนำเอาหญ้าคามาวางเป็นสะพานทอดกลางระหว่างเบี้ยกับปรอท หลังจากนั้นก็ใช้พลังจิตบังคับให้ปรอทวิ่งไหลผ่านหญ้าคาเข้าไปในเบี้ย โดยที่ไม่ไปแตะต้องเลยแม้แต่น้อย นับว่าเป็นของที่ทำได้ยากดังนั้นจึงมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมากตามตำราโบราณ 

สำหรับวิธีการใช้นั้นส่วนใหญ่แล้วก็จะถักเชือกเพื่อคลุมตัวเบี้ยรักษาเอาไว้ไม่ให้แตก เพราะตัวเบี้ยก็เหมือนกับเปลือกหอยธรรมดาทั่วไปที่สามารถแตกหักได้ง่าย มีความเปราะบางค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงต้องบูชาอย่างระมัดระวัง บ้างก็นำเอารักมาทาทับเพื่อช่วยเพิ่มความเป็นสิริมงคล 

ในยุคสมัยใหม่ก็เริ่มมีการนำเอามาเหลี่ยมพลาสติกเพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงทนทานและความสะดวกสบายในการพกพา บางคนก็ใช้ห้อยคอเป็นจี้ บางคนใช้เป็นตะกรุดคาดเอว หรือบางคนก็ใช้เหน็บตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอย่างเช่น เอวหรือกระเป๋าเสื้อบนหน้าอก เป็นต้น

เวลาเราเดินทางไปไหนมาไหนแล้วกำลังจะเผชิญหน้ากับอันตราย ตัวเบี้ยจะสั่นเพื่อเตือนว่ากำลังมีอันตรายรออยู่ข้างหน้า ดังนั้นมันจึงสามารถใช้แก้เวลาโดนคุณไสย กำลังจะเผชิญกับอาถรรพ์ อันตราย รวมไปถึงสัตว์มีพิษทั้งหลายได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว 

สิ่งสำคัญในการบูชาไม่ใช่แค่การพกติดตัวเท่านั้น แต่ยังต้องประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นคนดีอยู่ในศีลในธรรม ไม่ว่าจะเป็นการทำความดี เป็นคนกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ ก็จะช่วยเพิ่มความเป็นสิริมงคลในการบูชาได้มากขึ้น 

You may also like

Leave a Comment