วิธีการแก้คุณไสย สิ่งที่สายมูควรรู้เอาไว้ประดับตัว 

by saimu
0 comment
แก้คุณไสย

การมูเตลูนั้นไม่ได้มีเพียงแค่การเสริมดวงหรือการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพียงอย่างเดียว แต่บนโลกใบนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่าคุณไสยอีกด้วย การแก้คุณไสยนั้นจึงเป็นสิ่งที่สายมูควรรู้เอาไว้เพื่อประดับติดตัว เผื่อวันใดวันหนึ่งเกิดเหตุเข้ากับตนเองหรือคนรอบข้าง จะได้สามารถแก้ไขได้ทันเวลา เพราะถึงแม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นหรือจับต้องได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีอยู่จริงแต่อย่างใด วันนี้ สายมู.com จะพาทุกคนไปดูกันว่า วิธีการแก้เมื่อโดนคุณไสยเล่นงานสามารถทำอย่างไรได้บ้าง และความจริงแล้วคุณไสยคืออะไรกันแน่ 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เปิดวิธีการแก้คุณไสย การเอาชนะความชั่วร้ายด้วยมนต์สายขาว 

แก้คุณไสย

ก่อนที่เราจะไปดูกันว่าวิธีการแก้คุณไสยจะต้องทำอย่างไร อันดับแรกเราขอแนะนำก่อนว่า อาการเมื่อคุณโดนของจะเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นด้วยการที่มีอาการเหม่อลอยผิดปกติ สมาธิสั้น มักจะขี้หลงขี้ลืมอย่างผิดสังเกต ในทางอารมณ์จะมีทั้งโมโหร้าย แปรปรวน หงุดหงิด หรือฉุนเฉียวผิดปกติ บางคนก็อาจจะมีบุคลิกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง อาจมีอาการทางประสาทไม่ว่าจะเป็นรู้สึกหลอน หูแว่ว ตาฝาด มีอาการหลงใหลได้ปลื้มบางสิ่งบางอย่างหรือคนบางคนอย่างผิดวิสัย 

สำหรับอาการทางร่างกายก็มีได้ทั้งรู้สึกอ่อนแรง เหนื่อยง่าย ใจสั่น รู้สึกปวดเมื่อยหรือชาตามร่างกาย ครั่นเนื้อครั่นตัว มีอาการแน่นหรือจุกเสียดหน้าอก ใต้ตาหมองคล้ำ ดวงตาดูไร้อารมณ์หรือไม่ก็แข็งกร้าวเหมือนกับสัตว์เดรัจฉาน อาการเหล่านี้หากพาไปตรวจสุขภาพแล้วไม่พบความผิดปกติอะไร อาจหมายถึงบุคคลนั้นโดนไสยศาสตร์เล่นงานเข้าให้แล้ว ส่วนวิธีการแก้นั้นจะมีขั้นตอนดังนี้ 

แก้คุณไสย

การสำรวจอาการ 

แม้ว่าอาการที่เกิดขึ้นกับคนที่โดนของ อาจเหมือนกับโดนสาปแช่งมายังไงอย่างนั้น พาไปพบแพทย์แล้วก็ไม่มีความผิดปกติอะไร แต่เราก็ไม่สามารถตีความไปว่าอาการของพวกเขาเกิดจากการโดนของแต่อย่างใด ให้เราพิจารณาอย่างมีสติก่อนว่า อาการที่เกิดขึ้นนั้นเกิดมาจากปัจจัยหรือสาเหตุอะไร โดยให้ยึดหลักวิทยาศาสตร์ก่อน หากพยายามจนถึงที่สุดแล้วก็ยังไม่สามารถรักษาให้หายได้ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนปัจจุบันหรือแพทย์แผนโบราณ การรักษาทั้งทางร่างกายหรือทางจิตใจ ค่อยหาวิธีการแก้คุณไสยอีกทางหนึ่ง 

ปรึกษาผู้ที่มีความรู้ 

หากเราตรวจสอบแล้วพบว่า อาการที่เกิดขึ้นไม่ใช่อาการทางวิทยาศาสตร์อย่างแน่นอน แต่เกิดมาจากการโดนคุณไสยมนต์ดำ สิ่งที่ต้องทำก็คือการปรึกษาผู้ที่มีความรู้หรือเกจิอาจารย์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดาทั่วไปหรือเป็นพระก็ตาม เนื่องจากวิธีการแก้คุณไสยนั้นก็ต้องอาศัยความรู้ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณและต้องใช้ผู้ที่มีวิชาความรู้โดยเฉพาะ ให้เราปรึกษาก่อนว่าอาการดังกล่าวนั้นเกิดมาจากอะไรและจะสามารถแก้ได้ด้วยบทสวดหรือคาถาพุทธคุณอะไรบ้าง ต้องมีการกำหนดฤกษ์ยามทั้งวันและเวลาที่ดี หลังจากนั้นจึงจะสามารถนัดแนะมาถอนของได้ 

แก้คุณไสย

การอาบน้ำมนต์ 

หากคุณไม่มั่นใจในการทำพิธีเพราะอาการของคนโดนของค่อนข้างรุนแรง จะใช้วิธีการอาบน้ำมนต์ที่ได้มาจากวัดอีกวิธีหนึ่งก็ได้เช่นเดียวกัน เพราะน้ำมนต์ที่ได้มาจากวัดนั้นจะผ่านการปลุกเสกด้วยบทสวดที่มีพุทธคุณอยู่แล้ว โดยปกติเราจะใช้น้ำมนต์ในการประพรมเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล แต่ในด้านการแก้คุณไสยก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน ให้ผสมน้ำอาบเป็นประจำทุกวันจนกว่าจะมีอาการดีขึ้น หรือหากมีอาการที่หนักหน่วงจะใช้ผสมน้ำดื่มไปเลยก็ได้ จะช่วยให้ได้ผลมากขึ้นกว่าเดิม

การพกเครื่องรางของขลังติดตัว 

เป็นทั้งวิธีแก้และวิธีการป้องกันในกรณีที่ไม่อยากจะโดนของ เครื่องรางของขลังแต่ละชนิดก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป แต่เราขอแนะนำให้เลือกชิ้นที่มีคุณสมบัติในการคุ้มครองปกป้องจากอันตราย ปัดเป่าสิ่งอัปมงคลให้ออกไปจากชีวิต อย่างเช่นเบี้ยแก้หรือตะกรุด เป็นต้น ยิ่งหากของขลังเหล่านี้ได้รับการปลุกเสกจากผู้ที่มีวิชายิ่งสามารถป้องกันคุณไสยได้เป็นอย่างดี 

ก่อนแก้คุณไสยต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามันคืออะไรกันแน่ 

แก้คุณไสย

การจะแก้คุณไสยได้นั้นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามันคืออะไร ตามความเชื่อแล้วเราจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 สาย ประกอบไปด้วยสายขาว ซึ่งเป็นการใช้ไสยเวทย์ในทางที่ดี ใช้เพื่อช่วยเหลือหรือป้องกันผู้อื่นจากการถูกกระทำหรือการถูกรังแก และสายดำซึ่งเป็นการใช้ไสยเวทย์ในทางที่ไม่ถูกไม่ควรอย่างเช่น การทำร้ายผู้อื่นหรือการทำให้ผู้อื่นลุ่มหลง เป็นต้น 

นอกจากนี้เรายังสามารถแบ่งรูปแบบการใช้งานออกได้อีกถึง 4 ประเภทประกอบไปด้วย 

– การเสกเข้าท้อง เป็นไสยเวทย์ระดับต่ำที่สามารถนำเอาของมาใช้ได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น หนังควาย เงินปากผี หรือตะปู 

– การควบคุม เป็นการฝังรูปฝังรอยเพื่อทำเสน่ห์ให้ผู้คนมาหลงรักเอ็นดูจนถอนตัวไม่ขึ้น 

– สายป้องกัน เป็นสายที่เน้นการคุ้มครองทั้งตนเองและผู้อื่นอย่างเช่น การสักยันต์ การปลุกเสกตะกรุด เพื่อให้เกิดความแคล้วคลาดปลอดภัยต่อผู้ที่นับถือบูชา 

– สายโจมตี อย่างเช่น พวกหุ่นปั้นตุ๊กตาเสียกบาล กุมารทอง หรือควายธนู สามารถใช้ในการโจมตีผู้อื่นได้ 

You may also like

Leave a Comment