พระแม่อุมาเทวี เทพที่สายมูควรกราบไหว้สักครั้งในชีวิต 

ในแต่ละพื้นที่บนโลกใบนี้ก็มีสิ่งที่เชื่อแตกต่างกันออกไป โดยสิ่งที่ผู้คนเชื่อนั้นก็จะถูกอ้างอิงมาจากศาสนาที่ใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ซึ่ง พระแม่อุมาเทวี ก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเทพที่หลายคนให้ความเคารพ ศรัทธา และยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับชาวฮินดู ท่านนั้นอาจจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่หากเทียบกับพระสวามีหรือบุตรชายอย่างพระศิวะและพระพิฆเนศ แต่ความจริงแล้วในหลายพื้นที่นิยมบูชาท่านเป็นอย่างมาก วันนี้เราจึงจะพาสายมูทุกคนไปทำความรู้จักกันว่า พระแม่อุมาเทวี เป็นใครและนิยมขอพรเรื่องอะไรกันบ้าง 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

เปิดประวัติพระแม่อุมาเทวี ชายาพระศิวะและมารดาของพระพิฆเนศ 

พระแม่อุมาเทวี อาจเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาฮินดูก็จริง แต่ในประเทศไทยเป็นดินแดนที่รวมเอาความเชื่อที่หลากหลายเอาไว้ในประเทศเดียว ทำให้หลาย ๆ คนมีความศรัทธาและนิยมบูชาพระแม่อุมาเทวีไม่แพ้ที่ใดในโลก 

ชาวฮินดูเชื่อกันว่า หากใครที่บูชาพระองค์อยู่เป็นประจำ ก็จะได้รับยศถาบรรดาศักดิ์และมีความยิ่งใหญ่ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ท่านได้รับความนิยม โดยเฉพาะคนที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก ครอบครัว อำนาจวาสนา บารมีสรรเสริญ 

ในประเทศไทยนั้นมีสถานที่ประดิษฐานท่านอยู่หลายแห่งเลยทีเดียว และมีผู้คนจำนวนไม่น้อยเดินทางไปกราบไหว้เพื่อขอพรอยู่เป็นประจำ พระแม่อุมาเทวีเป็นชายาของพระศิวะ 1 ใน 3 เทพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศาสนาพราหมณ์และยังเป็นมารดาของพระพิฆเนศ อีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงเวลานี้ 

ท่านถูกจัดให้เป็นมหาเทพผู้ทำลายโลกและเป็น 1 ใน 3 ของพระตรีมูรติ รวมไปถึงพระตรีศักติซึ่งมีความหมายถึง แม่ทั้งสามประกอบไปด้วย พระแม่สรัสวดี พระแม่ลักษมี และพระแม่อุมาเทวี วิมานสถิตของท่านนั้นอยู่บนเขาไกรลาสที่เดียวกับของพระศิวะ

สัญลักษณ์ประจำตนของพระแม่อุมาเทวีจะเป็นฐานรองศิวลึงค์ที่มีชื่อเรียกว่า “โยนี” กายของท่านเป็นหญิงที่มีความงดงาม เปี่ยมไปด้วยความใจดีมีเมตตา ฉลองพระองค์นั้นประกอบไปด้วยหลายสีสันที่สดใส ประดับประดาตัวด้วยเครื่องแต่งกายทองคำที่มีความวิจิตรงดงาม 

ศาสตราวุธเป็นดาบและตรีศูลที่มีความหมายถึงการตัดสินใจ ความเฉียบคม และการมีอำนาจ ประทับอยู่บนเสือที่เป็นยานพาหนะ มีความหมายถึงความยิ่งใหญ่และอำนาจ 

พระแม่อุมาเทวี อาจเป็นชื่อที่ไม่คุ้นหูสักเท่าไหร่ แต่ท่านมีชื่อเรียกอีกมากมายอย่างเช่น ปารวตี พระแม่ทุรคา หรือพระแม่กาลี ที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี เนื่องจากท่านนั้นเป็นปางที่ปรากฏกายขึ้นมาเพื่อปราบปรามความชั่วร้าย 

ชาวฮินดูนับถือพระแม่อุมาเทวีเปรียบเสมือนมารดาของทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ ต้นกำเนิดของท่านมีตำนานว่ากันว่ามาจากพระศิวะที่ใช้พระหัตถ์ขวาลูบบริเวณตรงกลางของพระอุระแบบเบา ๆ หลังจากนั้นพระแม่ก็ได้จุติขึ้นมาบริเวณกลางพระอุระของพระศิวะในเวลานั้น 

บ้างก็ว่ากันว่าท่านนั้นเป็นธิดาของพระทักษะประชาบดีชื่อว่า พระสตี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระศิวะที่ได้อวตารลงมาในภาคพระมุนีภพ แปลงกายเป็นคนที่นุ่งห่มผ้าเก่าๆ นำเอาประคำกระดูกมาสวมบนคอ ผมเผ้าและหนวดเครารุงรัง กลิ่นตัวก็ไม่น่าภิรมย์ เพื่อเป็นการบำเพ็ญตนและสร้างบารมี 

พระสตีได้เห็นรูปกายแท้จริงว่าเป็นพระศิวะภาคหนึ่ง ด้วยเหตุนี้จึงขอดูแลรับใช้ในฐานะของภรรยา ทำให้พระบิดาของท่านไม่พอใจเป็นอย่างมาก ในครั้งหนึ่งเคยกล่าววาจาดูหมิ่นและแสดงท่าทีรังเกียจอย่างชัดเจน พระแม่อุมาเทวีจึงได้ปกป้องพระสวามีด้วยการกระโจนเข้าไปในกองไฟ เผาจนร่างกายไม่เหลือซาก 

ถึงอย่างนั้นพระศิวะก็ยังบำเพ็ญสมาธิต่อเป็นเวลานาน ทำให้ทวยเทพกังวลใจเป็นอย่างมาก พระวิษณุจึงได้มาขอให้พระองค์แบ่งอวตารมาจุติบนโลกมนุษย์ ท่านจึงออกจากสมาธิและกลับมาปกครองตามเดิม และเมื่อนั้นพระแม่ก็ได้ถือกำเนิดใหม่อีกครั้งในพระนามว่า พระปารวตี พอเติบใหญ่ก็ได้ออกบำเพ็ญพจน์ก่อนจะได้พบกับพระศิวะด้วยวาสนาที่เคยครองคู่กันมาก่อนในอดีตชาติ 

เปิดวิธีการบูชาและกราบไหว้พระแม่อุมาเทวี 

สถานที่ที่ได้รับความนิยมสำหรับการไปบูชาพระแม่อุมาเทวีในประเทศไทยคือ วัดแขกสีลม และนอกจากที่สีลมแล้ว วัดในศาสนาฮินดูที่อื่นก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เนื่องจากเชื่อว่าท่านนั้นมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่หาสิ่งใดมาเปรียบเทียบได้ 

ช่วยให้ผู้ที่บูชานั้นมีชัยชนะเหนือศัตรูทั้งหลาย ช่วยให้สตรีมีกำลังวังชา สามารถทำลายล้างความชั่วช้าได้จนหมดสิ้น ช่วยให้เกิดความอุดมสมบูรณ์และความผาสุกในบ้านเรือน ช่วยให้มีบุตรที่เป็นอภิชาตบุตร นอกจากนี้ยังช่วยให้ครอบครัวมีความพร้อมในการเลี้ยงดูบุตรที่เกิดออกมาอีกด้วย 

หากเป็นหญิงตั้งครรภ์ก็จะช่วยให้คลอดง่าย ช่วยป้องกันอันตรายจากภัยทั้งหลายทั้งปวง เคล็ดลับที่จะช่วยให้ขอพรจากพระแม่อุมาเทวีแล้วได้ผลดีและเร็วมากขึ้นคือ หลังจากที่สวดบูชารวมถึงถวายของไหว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ทำการบอกชื่อนามสกุลของตนเองแล้วจึงทำการกล่าวขอพร ก็จะสามารถช่วยให้ได้ผลดีและเร็วขึ้นนั่นเอง

สำหรับของที่ใช้ในการบูชาพระแม่อุมาเทวีนั้นจะประกอบไปด้วย แท่นหรือโต๊ะบูชาปูด้วยผ้าที่มีสีเงิน สีแดง สีขาว หรือสีทอง ดอกไม้ที่พระองค์โปรดปรานโดยเฉพาะ ดอกกุหลาบ ดอกดาวเรือง หรือดอกกล้วยไม้ ให้เน้นดอกไม้ที่มีสีแดงและสีเหลืองเป็นหลัก ธูปหอมหรือกำยานเพื่อถวายกลิ่นหอม 

หากเป็นการไหว้ทั่วไปให้ใช้ธูป 9 ดอก การบวงสรวงใช้ธูป 16 ดอก การบนบานศาลกล่าวใช้ธูป 39 ดอก อาหารจะต้องมีรสชาติมันและไม่มีเนื้อสัตว์ มีกลิ่นได้แต่ต้องไม่หอมแรงจนเกินไป โดยส่วนใหญ่นิยมถวายขนมลาดูหรือขนมโมทกะซึ่งเป็นชนิดเดียวกันที่ใช้ถวายให้กับพระพิฆเนศ รวมไปถึงธัญพืชและผลไม้ทุกชนิด จากนั้นก็เป็นน้ำที่สามารถเลือกได้ไม่ว่าจะเป็น น้ำอ้อย นม น้ำเปล่า หรือน้ำแดงอย่างใดอย่างหนึ่ง 

ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com