วัดระฆัง พระอารามหลวงเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรี 

by saimu
0 comment
วัดระฆัง

นับตั้งแต่ที่ศาสนาพุทธเข้าสู่ประเทศไทย มันก็กลายมาเป็นศาสนาประจำชาติของเราอย่างรวดเร็ว ทำให้เรามีวัดมากมายที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยโบราณ อย่างวัดระฆังที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ เป็นวัดที่ตั้งอยู่บริเวณแขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย จัดเป็นพระอารามหลวงชั้นโท อยู่ภายใต้เขตการปกครองของคณะสงฆ์มหานิกายภาค 1 ที่สำคัญคือถูกก่อสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเลยทีเดียว วัดแห่งนี้มีความเป็นมาอย่างไรและสำคัญกับประเทศเรามากแค่ไหน ไปดูกันเลย 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ประวัติความเป็นมาของวัดระฆัง วัดโบราณที่ถูกยกย่องให้เป็นพระอารามหลวง 

วัดระฆัง

วัดระฆัง วัดสำคัญที่มีการก่อสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แรกเริ่มเดิมทีมีชื่อว่าวัดบางหว้าใหญ่ ต่อมาในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชก็ได้สร้างพระราชวังใกล้กับวัดแห่งนี้ และมีการโปรดเกล้าฯ ให้ยกวัดระฆังเป็นพระอารามหลวง 

ในช่วงเวลานั้น วัดระฆังจึงเป็นสถานที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชเลยทีเดียว ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชก็ได้ยกให้วัดดังกล่าวอยู่ในพระราชูปถัมภ์ของเหล่าเจ้านายวังหลัง โดยเฉพาะพระเชษฐภคินีผู้เป็นพระชนนีของกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข ท่านมีตำหนักประทับอยู่ไม่ไกลจากวัด ดังนั้นจึงได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดร่วมกับพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกนั่นเอง 

ในช่วงเวลานั้นมีการขุดค้นพบระฆังลูกหนึ่ง สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้โปรดเกล้าฯ ให้นำเอาระฆังลูกนี้ไปไว้ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และมีการสร้างระฆังขึ้นมาใหม่เพื่อชดเชยแก่วัดแห่งนี้จำนวน 5 ลูกด้วยกัน จึงสบโอกาสพระราชทานนามใหม่ว่าวัดระฆังโฆสิตาราม เนื่องจากสามารถขุดค้นพบระฆังในวัดแห่งนี้นั่นเอง 

ความจริงแล้วในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อวัดระฆังเป็นวัดราชคัณฑิยารามแทน โดยคำว่า คัณฑิ มีความหมายถึง ระฆัง แต่คนไม่ค่อยนิยมเรียกชื่อนี้สักเท่าไหร่ สถาปัตยกรรมของวัดระฆังมีความสวยงามเป็นอย่างมาก เพราะครั้งหนึ่งเคยเป็นหอประทับนั่งและพระตำหนักของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกสมัยรับราชการในกรุงธนบุรี 

แต่หลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติแล้วก็ได้โปรดเกล้าฯ ให้รื้อมาถวายแก่วัดแทน และยังมีการบูรณปฏิสังขรณ์วัดนี้ให้สวยงามเพื่อให้เป็นหอพระไตรปิฎกอีกด้วย ทำให้วัดระฆังกลายเป็นที่ประชุมสังคายนาพระไตรปิฎกที่ถูกอัญเชิญมาจากนครศรีธรรมราชนั่นเอง 

พระประธานยิ้มรับฟ้า ปูชนียวัตถุสำคัญในวัดระฆัง 

วัดระฆัง

ภายในวัดระฆังเป็นที่ประดิษฐานของปูชนียวัตถุสำคัญอย่าง พระประธานยิ้มรับฟ้า เป็นพระพุทธรูปเนื้อทองสัมฤทธิ์ปางสมาธิ หน้าตักมีความกว้างประมาณ 4 ศอก เบื้องหน้ามีพระพุทธรูปเป็นพุทธสาวกจำนวน 3 พระองค์ กำลังนั่งประนมมือเหมือนกับรับพระพุทธโอวาทจากพระประธาน

ผู้คนต่างยกย่องให้พระพุทธรูปองค์นี้มีความสวยงามมากที่สุดอีกรูปหนึ่งในประเทศ ครั้งหนึ่งสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เดินทางมาถวายผ้าพระกฐินที่วัดระฆัง ได้ดำรัสกับผู้เข้าเฝ้าที่ใกล้ชิดว่า ไปวัดไหนก็ไม่เหมือนกับมาวัดแห่งนี้ พอเปิดประตูเข้ามาพระประธานก็ยิ้มรับฟ้าทุกที 

ท่านจึงได้ถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์นพรัตนราชวราภรณ์ รวมถึงพระมหาปรมาภรณ์ช้างเผือกแก่พุทธรูปองค์นี้เป็นพิเศษ และได้มีการตั้งชื่อใหม่ว่าพระประธานยิ้มรับฟ้านับตั้งแต่นั้นมา ซึ่งก็มีความเชื่อว่า หากใครก็ตามที่ได้มากราบไหว้พระในวัดแห่งนี้ ชีวิตก็จะเต็มไปด้วยความเป็นสิริมงคล หยิบจับทำอะไรก็เจริญรุ่งเรือง 

รวมสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาดหากได้ไปเที่ยววัดระฆัง 

วัดระฆัง

ใครที่มีโอกาสได้เดินทางมาท่องเที่ยวถึงวัดระฆัง นอกจากเราจะได้รับชมประติมากรรมทางพุทธศาสนาที่งดงาม และโบราณสถานพี่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากมายแล้ว ยังมีสิ่งต่าง ๆ มากมายที่ทุกคนไม่ควรพลาดหากได้เดินทางมาถึงวัดแห่งนี้ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย 

พระอุโบสถ 

ถูกสร้างขึ้นมาในแบบรัชกาลที่ 1 รูปทรงหลังคาลดหลั่นกัน 3 ชั้น มีครบทั้งใบระกา ช่อฟ้า หางหงส์ คันทวย ถูกออกแบบและประดิดประดอยขึ้นมาอย่างสวยงามวิจิตรตระการตา มุกด้านหน้าและด้านหลังทำเป็นปีกนกคลุมอยู่ มีลวดลายพระนารายณ์ทรงครุฑ และประดับประดาด้วยลายนกปิดทองที่ประณีตทุกรายละเอียด

มีการเจาะหน้าต่างทั้งหมด 2 ช่อง ติดกระจังปูนปั้นปิดทอง มีลายรดน้ำปิดทองเขียนด้านหน้าเป็นรูประฆัง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด ด้านหน้าพระประธานมีงานเขียนภาพพระพุทธเจ้าแสดงปาฏิหาริย์ก่อนขึ้นสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อจำพรรษา และมีเรื่องราวตอนที่ท่านเสด็จลงมาจากสวรรค์เพื่อแสดงธรรมแก่เหล่ามนุษย์ ด้านล่างปรากฏภาพเขียนเกี่ยวกับสัตว์นรกในอากัปกิริยาต่าง ๆ และยังมีภาพเรื่องราวเกี่ยวกับทศชาติอีกด้วย 

พระวิหาร 

เป็นพระอุโบสถหลังเก่าที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน ขึ้นชื่อเรื่องงานเขียนจิตรกรรมที่ได้รับการยกย่องว่างดงามเป็นอย่างมาก ใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวต้องเข้าไปรับชมความสวยงามให้ได้ 

วัดระฆัง

พระปรางค์ 

ถูกสร้างขึ้นมาด้วยพระราชศรัทธาในสมัยรัชกาลที่ 1 โดยพระราชทานราชกุศลร่วมกับสมเด็จพระพี่นางพระองค์ใหญ่ ถูกตั้งอยู่บริเวณหน้าพระวิหาร ขึ้นชื่อว่าเป็นพระปรางค์ที่ถูกก่อสร้างขึ้นมาอย่างถูกต้องตามแบบมากที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นมาด้วยสถาปัตยกรรมในช่วงรัตนโกสินทร์สมัยต้น ดังนั้นจะมีความสวยงามและกลายมาเป็นต้นฉบับของการสร้างพระปรางค์ในสมัยปัจจุบัน 

หอระฆัง 

เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของชื่อวัดระฆังเลยก็ว่าได้ หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้มีกระแสรับสั่งให้สอบถามเกี่ยวกับระฆังที่วัดบางหว้าใหญ่ว่ามีเสียงไพเราะมากแค่ไหน แถมยังขุดได้จากที่นั่นอีกด้วย ดังนั้นจึงได้ขอไปตั้งไว้ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และสร้างหอระฆังจตุรมุขขึ้นมาเพื่อบรรจุระฆังทั้งหมด 5 ลูกเอาไว้แทน และระฆังเหล่านั้นก็ถูกตั้งไว้ในหอระฆังมาตั้งแต่เวลานั้นจนถึงในปัจจุบันนี้

ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com

You may also like

Leave a Comment