ตำนานโลหะปราสาทวัดราชนัดดา วัดอายุร้อยปีที่มีความตระการตา 

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลักของประเทศไทย มันเลยไม่ใช่เรื่องน่าแปลกถ้าในประเทศของเราจะมีวัดอยู่เต็มไปหมด และยังกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกด้วย วัดราชนัดดา เป็นวัดที่ถูกก่อสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว นอกจากจะเก่าแก่แล้วยังมีโลหะปราสาทที่สวยงามตระการตาเป็นอย่างมาก บอกเลยว่านักท่องเที่ยวคนไหนที่เคยได้ไปเยี่ยมชมต่างต้องตกหลุมรักกันอย่างแน่นอน วัดแห่งนี้จะมีประวัติความเป็นมาอย่างไร และมีตรงไหนที่เราไม่ควรพลาดเวลาไปเที่ยวบ้าง ไปดูกันเลย

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

เปิดประวัติของวัดราชนัดดา วัดที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ในปี 2389 

วัดราชนัดดา จัดเป็นวัดสำคัญทางพุทธศาสนาของประเทศไทย มีชื่อเต็มว่าวัดราชนัดดารามวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ไม่ไกลจากป้อมมหากาฬและติดกับลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะผ่านการขึ้นทะเบียนโบราณสถานเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปี 2492 

นอกจากนี้วัดราชนัดดายังเป็นวัดเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยและแห่งเดียวบนโลกใบนี้ที่มีการสร้างปราสาทโลหะขึ้นมา โดยวัดแห่งนี้ถูกก่อสร้างตั้งแต่ปี 2389 ช่วงปลายรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว 

ก่อสร้างขึ้นมาเพื่อพระราชทานเป็นเกียรติแก่พระราชนัดดาอย่างพระเจ้าหลานเธอ พระองค์หญิงโสมนัสวัฒนาวดี ซึ่งเดิมทีพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นสวนผลไม้ที่มีเนื้อที่ 25 ไร่

วัดราชนัดดา เป็นวัดที่โดดเด่นจากโลหะปราสาท ที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ก่อสร้างขึ้นมาแทนเจดีย์ธรรมดาทั่วไป เป็นอาคาร 7 ชั้นที่มียอดปราสาทถึง 37 ยอด มีความหมายถึงโพธิปักขิยธรรมทั้ง 37 ประการ ตามหลักความเชื่อในศาสนาพุทธ

มียอดปราสาททั้งหมด 7 ชั้น ใช้สำหรับประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ บริเวณตรงกลางจะเป็นช่องกลวง ๆ มีบันไดเวียนทั้งหมด 67 ขั้น ที่เราสามารถเดินเข้าไปเพื่อรับชมวิวทิวทัศน์ด้านบนได้ งานสถาปัตยกรรมในการก่อสร้างเป็นแบบไทยเดิม 

พระอุโบสถของวัดราชนัดดาจึงมีครบทั้งช่อฟ้าและใบระกา หน้าบันลงรักปิดทอง จากนั้นประดับประดาไปด้วยกระจกที่ดูสวยงาม ภายในมีการประดิษฐานพระประธานที่มีพระนามว่า “พระเสฏฐตมมุนี”

ไม่ไกลจากกันเป็นพระวิหารที่ถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมศิลปะแบบไทยเดิม ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรเป็นพระประธาน โดยมีนามว่า “พระพุทธชุติธรรมนราสพ”

เดิมทีโลหะปราสาทในวัดราชนัดดาไม่ได้ดูสวยงามและโดดเด่นเป็นสง่าเฉกเช่นทุกวันนี้ เพราะในปัจจุบันเพียงแค่เราเดินทางผ่านถนนราชดำริ ก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เนื่องจากในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม มีการก่อสร้างโรงภาพยนตร์อย่างศาลาเฉลิมไทยบริเวณมุมถนนราชดำเนิน ซึ่งถือว่าเป็นโรงภาพยนตร์แห่งแรกในประเทศไทย 

จนกระทั่งปี 2532 ได้มีการรื้อโรงภาพยนตร์ออก เพื่อเปิดมุมมองทางเข้าเกาะรัตนโกสินทร์หากมองจากสะพานผ่านฟ้าลีลาศได้ และมีการก่อสร้างเป็นลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ขึ้นแทน เป็นการจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักผ่อนสำหรับแขกบ้านแขกเมืองเวลาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับแขก 

และยังเป็นสถานที่ประดิษฐานของพระบรมราชานุสาวรีย์กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ซึ่งในช่วงเวลาต่อมาขึ้นเป็นรัชกาลที่ 3 ก่อสร้างแล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 9 เราจึงมีโอกาสได้มองเห็นความสวยงามของวัดราชนัดดาเวลาสัญจรบนถนนราชดำเนินตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 

เปิดสถานที่ต้องห้ามพลาดในวัดราชนัดดา 

วัดราชนัดดา เป็นพุทธสถานที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะถูกขึ้นทะเบียนเป็นที่โบราณสถานเรียบร้อยแล้ว ยังมีโลหะปราสาทเพียงแห่งเดียวในโลก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในประเทศไทยอีกด้วย ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ทำให้สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ง่าย ใครที่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมความสวยงาม จะมีจุดไหนที่ไม่ควรพลาดบ้าง วันนี้เรามีมาแนะนำ

พระเจดีย์โลหะปราสาท 

เดินทางมาถึงวัดราชนัดดาทั้งที จะพลาดรับชมความสวยงามของสถานที่สำคัญอย่างพระเจดีย์โลหะปราสาทได้ยังไง โลหะปราสาทมีปรากฏบนโลกใบนี้เพียงแค่ 3 แห่งเท่านั้น แห่งแรกถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ยุคพุทธกาลในประเทศอินเดีย มีชื่อว่า “มิคารมาตุปราสาท” ปัจจุบันสูญหายไปตามกาลเวลาจนหมดแล้ว 

แห่งที่ 2 ถูกสร้างขึ้นในประเทศศรีลังกา ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ซากปรักหักพังเพราะได้รับความเสียหายตั้งแต่ปีพุทธศักราช 387 และสุดท้ายคือที่วัดราชนัดดา 

ก่อสร้างขึ้นมาตามแบบฉบับของเดิมของปราสาทแห่งที่ 2 ในศรีลังกา มีการปรับสถาปัตยกรรมตกแต่งด้วยงานศิลปกรรมไทย เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงพระราชศรัทธาของกษัตริย์ที่มีต่อศาสนาพุทธนั่นเอง 

พระอุโบสถ 

พระอุโบสถในวัดราชนัดดาจะถูกห้อมล้อมด้วยซุ้มสีมาถึง 8 ซุ้ม หน้าบันถูกประดับประดาอย่างสวยงามด้วยกระจกสีน้ำเงิน มีลำยอง ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ และนาคสะดุ้งครบถ้วนตามแบบฉบับของสถาปัตยกรรมไทยเดิม 

บริเวณบานประตูและหน้าต่างด้านใน รวมถึงส่วนลึกในช่องประตูถูกประดับประดาด้วยภาพเขียนสีทวารบาล ภาพรามเกียรติ์ และภาพเล่าเรื่องราวอดีตชาติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ข้างในประดิษฐานพระพุทธรูปมารวิชัยอย่างพระพุทธเสฏฐุตตมมุนิทร์ 

ย้อนกลับไปในยุครัชกาลที่ 3 ได้มีการขุดแร่ในอำเภอจันทึก จังหวัดนครราชสีมา และมีการโปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระพุทธปฏิมากรก่อนนำเอามาประดิษฐานที่วัดราชนัดดาจนถึงในปัจจุบัน 

ภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังด้านหลังพระประธานจะเป็นเรื่องราวพุทธประวัติ เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อแสดงธรรมโปรดสัตว์

พระวิหาร 

พระวิหารของวัดราชนัดดาจะเป็นอาคารที่ดูสูงใหญ่ใกล้เคียงกับขนาดของพระอุโบสถเลยทีเดียว ทั้งด้านหน้าและด้านหลังมีลวดลายดอกพุดตานเหมือนกัน ถูกประดับประดาด้วยกระจกที่ปิดทอง บานประตูและหน้ากลางมีภาพเขียนสี เพดานจะมีการวาดลวดลายผีเสื้อและดวงดาว ผนังเขียนลวดลายสีดอกไม้ร่วง 

บริเวณด้านหลังพระพุทธรูปจะเป็นภาพนูนต่ำลวดลายช้างสามเศียรกำลังแบกวิมาน โดยในวิมานมีพระพุทธรูปปางประทานพร 1 องค์ ปางสมาธิ 2 องค์  ถูกปิดทองอย่างงดงาม โดยลายดังกล่าวเป็นเครื่องหมายของรัชกาลที่ 3 เนื่องจากเป็นวัดที่รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นมา นั่นเอง 

ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com