ใครที่มีโอกาสได้มาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ จะพลาดรับชมความสวยงามของศิลปวัฒนธรรมล้านนาดั้งเดิมตามวัดต่าง ๆ ได้ยังไง โดยเฉพาะวัดหลวงขุนวิน อีกหนึ่งวัดที่ทั้งสวยงามและมีความสำคัญกับชาวอำเภอแม่วางเป็นอย่างมาก ตั้งอยู่ในหุบเขาท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ รับชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติไป เสพความสวยงามของงานศิลปะไป บอกเลยว่าฟินสุด ๆ ใครอยากลองไปสัมผัสกับวัดแห่งนี้ด้วยตาของตัวเอง ตามเราไปดูตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนเดินทางไปรับชมด้วยตาตัวเองกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เปิดประวัติความเป็นมาของวัดหลวงขุนวิน อดีตวัดร้างที่กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
วัดหลวงขุนวิน เป็นวัดเก่าแก่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองชาวอำเภอแม่วาง ตั้งอยู่ที่ ตำบลดอนเปา อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ มีอายุยาวนานมากกว่า 700 ปี และมีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ตามตำนานเล่าว่า วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นและปล่อยทิ้งร้างในหลายช่วงเวลา ทำให้มีทั้งยุคที่รุ่งเรืองและยุคเสื่อมสลับกันไป
ว่ากันว่าพระพุทธเจ้าเคยเสด็จมายังบริเวณวัดหลวงขุนวิน ในช่วงเวลานั้นว่ามีชาวลัวะ 2 คน ประกอบไปด้วยขุนสาบและขุนสระเมิง เมื่อได้พบกับพระพุทธเจ้าก็ได้กราบทูลขอพระเกศาธาตุ พระพุทธองค์ก็ทรงประทานให้ ขุนทั้งสองจึงตัดสินใจสร้างพระเจดีย์ครอบไว้บนยอดเตี้ย ๆ ที่ชื่อว่าพระธาตุม่อนเปี้ยะ
จากนั้นพระพุทธเจ้าก็ได้เสด็จเดินทางมายังบริเวณที่จะประทับรอยพระบาท โดยประทับลงบนหินก้อนหนึ่งที่มีความกว้าง 1 ศอก ความยาว 2 ศอก แต่เพราะหินมีขนาดเล็กจนเกินไป รอยฝ่าพระบาทจึงปรากฏเฉพาะบริเวณฝ่าพระบาทเท่านั้น ทั้งส้นพระบาทและนิ้วพระบาทได้หายไป
พระพุทธองค์ก็ได้ทรงตรัสเอาไว้ว่า พระพุทธบาทตรงนี้ไม่เต็มรอยเพราะแหว่ง ตามภาษาพื้นเมืองก็คือคำว่า “หวิด” เมืองดังกล่าวจึงได้ชื่อว่า “เมืองหวิด” ต่อมาก็มีการเรียกเสียงเพี้ยนจนกลายเป็นเมืองวิน และได้กลายมาเป็นที่มาของสถานที่สำคัญแห่งนี้
ต่อมาในสมัยเจ้าหมื่นคำชาวเป็นน้องของขุนหลวงวิลังคะ ได้ทำนุบำรุงวัดหลวงขุนวินได้เจริญขึ้นมาอีกครั้ง โดยมีครูบาปัญญาวงศา เป็นเจ้าอาวาส หลังพม่าตีเมืองเชียงใหม่แตก วัดนี้จึงกลายเป็นวัดร้างเกือบ 700 ปี หลังจากเป็นวัดร้างมานาน เมื่อ พ.ศ. 2497 ครูบาอุ่นเรือน สุภทฺโท วัดควรนิมิตร ได้บูรณะวัดอีกครั้งหนึ่ง เมื่อแล้วเสร็จก็ได้นิมนต์ครูบาอภิชัยขาวปี มาเป็นประธานร่วมฉลอง เมื่อ พ.ศ. 2501
จากข้อมูลของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ วัดหลวงขุนวินก่อตั้งเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ปัจจุบันเป็นวัดราษฎร์ในสังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย
วัดแห่งนี้ถือว่าเป็นพุทธสถานอีกหนึ่งแห่งที่มีความสำคัญไม่น้อย เพราะเป็นวัดที่สวยงามและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเมื่อมาถึงวัดหลวงขุนวิน
วัดหลวงขุนวิน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ แค่ได้เดินทางไปก็อิ่มอกอิ่มใจกับธรรมชาติที่อยู่รอบตัวแล้ว เป็นโบราณสถานอายุเก่าแก่เกือบ 1,000 ปีที่เต็มไปด้วยความเงียบสงบ แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ดังนี้
พระธาตุม่อนเปี้ยะ
มีความเชื่อว่าเป็นเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธองค์ ตั้งอยู่บนยอดเขาเตี้ย ๆ มองเห็นวิวทิวทัศน์ของวัดและป่าไม้ที่สวยงามได้ องค์เจดีย์สร้างด้วยอิฐ ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส สูงประมาณ 10 เมตร ยอดเจดีย์เป็นทรงระฆังครอบด้วยฉัตรทองเหลือง
อุโบสถไม้
อุโบสถไม้ภายในวัดหลวงขุนวินคาดการณ์กันว่าถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2501 ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปยืน ปางจงกรมแก้ว สูง 9 เมตร ฐานกว้าง 2 เมตร เป็นพระพุทธรูปไม้แกะสลักจากต้นจำปีป่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญกับศาสนาไม่น้อยเลยทีเดียว หลังคาพระอุโบสถมุงด้วยใบตองตึง เสาไม้แกะสลักเป็นรูปเทพนม ประตูหน้าต่างแกะสลักเป็นรูปดอกบัวและลายดอกไม้
พระพุทธรูปยืน ปางจงกรมแก้ว
เป็นพระพุทธรูปแกะสลักจากต้นจำปีป่า สูง 9 เมตร ฐานกว้าง 2 เมตร พระพุทธรูปองค์นี้แกะสลักอย่างประณีตสวยงาม ใบหน้างดงามสง่า พระรัศมีเป็นเปลวเพลิง มือทั้งสองข้างทรงวางซ้อนกันอยู่ด้านหน้า และยังเป็นพระพุทธรูปไม้แกะสลักจากต้นจำปีป่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก อุโบสถไม้และพระพุทธรูปยืนปางจงกรมแก้ว จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก
พระนอน
ประดิษฐานภายในอุโบสถไม้ องค์พระนอนมีความยาว 18 เมตร เป็นพระนอนปาง สร้างขึ้นจากไม้จำปีป่าเช่นกัน แกะสลักอย่างประณีตสวยงาม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของวัดหลวงขุนวิน เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชน
ศาลาปฏิบัติธรรม
เป็นศาลาภายในวัดหลวงขุนวิน สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชน ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบของป่าไม้ ศาลาแห่งนี้มีบรรยากาศที่ร่มรื่นและเย็นสบาย เหมาะสำหรับการนั่งสมาธิและเจริญสติภาวนา ภายในศาลาปฏิบัติธรรม มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยพื้นที่สำหรับนั่งสมาธิ ศาลาแห่งนี้เปิดให้ผู้สนใจเข้าปฏิบัติธรรมได้ทุกวัน ไม่มีค่าใช้จ่าย การปฏิบัติธรรมที่วัดหลวงขุนวิน เน้นการปฏิบัติแบบวิปัสสนากรรมฐาน ภายใต้การแนะนำของครูบาอาจารย์ นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมได้ เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้ธรรมะและฝึกฝนจิตใจให้สงบร่มรื่น
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com