หากสังเกตดูให้ดี เราจะพบว่าบนเหรียญในประเทศไทยนั้น มีรูปวัดประทับอยู่หลายรูปเลยทีเดียว บนเหรียญ 10 ที่มีมูลค่าสูงที่สุดจากบรรดาเหรียญทั้งหลายในประเทศไทย ก็ประทับรูปวัดอรุณไว้บนนั้น เห็นได้ชัดเลยว่าเราให้ความสำคัญกับวัดแห่งนี้ไม่แพ้กับวัดอื่นใดในประเทศ สำหรับใครที่อาจจะยังไม่รู้จักวัดแห่งนี้ เราจะพาทุกคนไปดูประวัติความเป็นมาและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในวัดแห่งนี้กัน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เปิดประวัติความเป็นมาของวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
วัดอรุณ ถือว่าเป็นวัดสำคัญที่มีประวัติศาสตร์คู่กับประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ตำนานของวัดอรุณแห่งนี้เริ่มต้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แรกเริ่มเดิมทีมีชื่อว่าวัดมะกอก ในตอนที่พระเจ้าตากได้นำกองทัพเดินทางมาเพื่อเลือกชัยภูมิสำหรับการสร้างเมืองหลวงแห่งใหม่
พระองค์ได้เดินทางมาจนถึงวัดมะกอกในช่วงรุ่งเช้า หลังจากนั้นก็มีการสถาปนากรุงธนบุรีให้กลายเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ หลังจากนั้นนั้นจึงได้มีรับสั่งให้ปฏิสังขรณ์อารามแห่งนี้ และสถาปนาให้กลายเป็นอารามหลวง พระราชทานชื่อวัดใหม่ว่า วัดแจ้ง และยังประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรหรือพระแก้วมรกตที่ถูกอัญเชิญมาจากเวียงจันทน์อีกด้วย
ต่อมาในสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชหรือรัชกาลที่ 1 ของกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ได้เสด็จมาประทับที่พระราชวังเดิม และได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดอรุณ (วัดแจ้ง) ขึ้นใหม่ทั้งวัด
ยังไม่ทันที่ทุกอย่างจะดำเนินการแล้วเสร็จ รัชกาลที่ 1 ก็เสด็จสวรรคตไปก่อน เข้าสู่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยหรือรัชกาลที่ 2 การปฏิสังขรณ์ก็ยังคงดำเนินต่อไป แต่มีการพระราชทานนามใหม่เป็นวัดอรุณราชธารามแทน
เข้าสู่สมัยรัชกาลที่ 4 หรือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามวัดแห่งนี้ว่า “วัดอรุณราชวราราม”
รวมสถานที่ในวัดอรุณ ไปเที่ยวแล้วต้องห้ามพลาด
ภายในวัดอรุณมีสถานที่สำคัญมากมายที่สวยงาม ผสมผสานศิลปะจากหลากหลายแขนงรวมกันจนออกมาเป็นสิ่งก่อสร้างที่ดูแปลกตา ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง ใครที่มีโอกาสได้เดินทางมาท่องเที่ยวยังวัดอรุณแห่งนี้ จะมีจุดไหนที่ไม่ควรพลาดกันบ้าง ไปดูกันได้เลย
พระปรางค์ ศิลปกรรมอันโดดเด่นในวัดอรุณ
เริ่มต้นจากสิ่งก่อสร้างที่ปรากฏบนเหรียญ 10 กันก่อนกับ พระปรางค์วัดอรุณ เป็นงานประติมากรรมที่ดูสวยงามและโดดเด่นเป็นสง่า ถูกก่อสร้างขึ้นมาโดยช่างที่มีความชำนาญ ประดับประดาไปด้วยเครื่องกระเบื้องและชามเบญจรงค์ที่นำเข้ามาจากประเทศจีน ทำให้ดูเก่าแก่และยังเป็นของหายากอีกด้วย
มีพระปรางค์ใหญ่ 1 องค์และพระปรางค์เล็กอีก 4 องค์รายล้อมทั้ง 4 ทิศ มีรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายทั้งพระอินทร์ทรงช้าง มารและกระบี่แบกฐาน พระนารายณ์อวตาร และเทพนมนรสิงห์ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราเห็นกันในปัจจุบันไม่ใช่พระปรางค์องค์เดิมในสมัยกรุงศรีอยุธยาแต่อย่างใด
พระปรางค์องค์เดิมมีความสูงเพียงแค่ 16 เมตรเท่านั้น ส่วนองค์ที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบัน ถูกสร้างขึ้นมาในสมัยรัชกาลที่ 2 ด้วยการรื้อพระปรางค์องค์เดิมออกแล้วก่อสร้างองค์ใหม่ขึ้นมาแทน
ยักษ์เฝ้าประตู สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนกราบไหว้บูชา
ยักษ์เฝ้าประตู หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ ยักษ์วัดแจ้ง ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าของพระอุโบสถ ฝั่งขวาจะเป็นยักษ์ที่มีร่างกายสีขาว ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นยักษ์ที่มีร่างกายสีเขียว เป็นการผสมผสานกันระหว่างศิลปะแบบไทยและจีน ถูกสร้างขึ้นมาในลักษณะปูนปั้นและเคลือบด้วยกระเบื้องสี ๆ ทำหน้าที่ในการปกป้องรักษาสถานที่สำคัญทางศาสนา มีความเชื่อว่าหากกราบไหว้ก็จะช่วยเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตได้เป็นอย่างดี ในปัจจุบันถึงขั้นที่มีเครื่องรางของขลังเกี่ยวกับยักษ์ทั้งสองตนนี้เลยทีเดียว
แท่นพระเจ้าตาก
นอกจากวัดอรุณจะเป็นพุทธสถานที่มีความสำคัญกับประเทศของเราแล้ว ภายในวัดยังมีพระแท่นของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชอีกด้วย ใครที่เป็นสายมู ให้เดินไปยังบริเวณแท่น นำเอาหน้าผากแตะแท่นเอาไว้ จากนั้นก็ตั้งจิตอธิษฐานเรื่องที่เราอยากให้สมปรารถนา เอ่ยชื่อนามสกุลของตัวเอง จากนั้นก็ลอดเข้าไปใต้ฐานของพระแท่นไปยังอีกฝั่ง เวียนขวาออกทางประตูแล้วกลับมาลอดพระแท่นใหม่อีกครั้งจนครบ 3 รอบ ก็จะช่วยให้สิ่งที่ขอกลายเป็นจริง
พระอุโบสถ
เป็นอาคารทรงไทยในวัดอรุณที่ถูกสร้างขึ้นมาในสมัยรัชกาลที่ 2 มีความสวยงามแตกต่างจากพระอุโบสถในวัดอื่น เนื่องจากเป็นอาคารยกสูง มีหลังคาซ้อนทับกัน 2 ชั้น ขอบกระเบื้องเป็นสีเขียวใบไม้ มาครบทั้งช่อฟ้า หางหงส์ ใบระกา ลงรักปิดทองเป็นอย่างดี และประดับประดาเพื่อเพิ่มความสวยงามด้วยกระจก ไม่มีกำแพงแก้ว แต่มีระเบียง ถูกสร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมในสมัยอยุธยาตอนปลาย หลังจากที่ถูกเพลิงไหม้ในสมัยรัชกาลที่ 5 ก็ได้มีการปฏิสังขรณ์จนกลับมาเหมือนใหม่ ภายในมีพระประธานเป็นพระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่สร้างขึ้นด้วยศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์
พระวิหาร
เป็นอาคารที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างสวยงาม มีบันไดขึ้นลง ผนังถูกประดับประดาไปด้วยกระเบื้องเคลือบลวดลายก้านแย่งที่ถูกสั่งนำเข้ามาจากเมืองจีนโดยเฉพาะ ภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางมารวิชัยชื่อพระพุทธชัมภูนุทมหาบุรุษลักขณาอสีตยานุบพิตร ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 พร้อมกับพระประธานในวัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหารที่ตั้งอยู่ในฝั่งพระนคร
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com