วันนี้ สายมู.com จะพาทุกคนมาเยี่ยมชมวันที่มีความสวยงามและศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก นั่นคือวัดโสธรวรารามวรวิหาร วัดนี้ ตั้งอยู่ที่ เขตเทศบาลเมือง ริมแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เดิมชื่อว่า วัดหงส์ สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโสธร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง แต่เดิมหลวงพ่อโสธรประทับอยู่ในโบสถ์หลังเก่า รวมกับพระพุทธรูปอื่นๆ 18 องค์ จนกระทั่งปี พ.ศ.2509 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินมาที่วัดแห่งนี้ มีพระราชปรารภความคับแคบของโบสถ์เก่า อดีตเจ้าอาวาสจึงได้รวบเงินบริจาคจัดซื้อที่ดินเพิ่มสร้างโบสถ์ใหม่ โดยใช้เทคนิควิศวกรรมสมัยใหม่ ไม่มีการเคลื่อนย้ายหลวงพ่อโสธร ปัจจุบันวัดโสธรวรารามวรวิหารจัดเป็น พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร สามารถเข้าสักการะได้ทุกวัน
ประวัติหลวงพ่อโสธร
ตามตำนานเล่าว่าได้มีพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ 3 พี่น้องลอยตามแม่น้ำปิงมาจากทางเหนือแล้วลัดเข้าสู่คลองมาทางพระโขนงก่อนออกสู่แม่น้ำบางปะกงได้เกิดอภินิหารโผล่พ้นน้ำและทวนน้ำได้ทั้ง 3 องค์ ชาวบ้านจำนวน 500 คนช่วยกันนำพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ขึ้นจากน้ำแต่ก็ไม่สำเร็จ พระพุทธรูปหล่อทั้ง 3 องค์ก็จมน้ำหายไป สถานที่พระพุทธรูป 3 องค์ลอยน้ำและทวนน้ำได้นี้เลยให้ชื่อว่า “สามพระทวน” ต่อมาพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ได้แสดงอภินิหารลอยน้ำผ่านหน้าวัดโสธรไปถึงคุ้งน้ำใต้วัดโสธร ชาวบ้านก็ไม่สามารถนำขึ้นฝั่งได้สำเร็จ จึงเรียกว่า “คลองบางพระ” หลังจากนั้นพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ได้แสดงอภินิหารอีกครั้งลอยวนอยู่นั้นเรียกว่า “คลองสองพี่น้อง” หลังจากนั้นองค์พี่ใหญ่ได้แสดงอภินิหารไปลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ประชาชนประมาณ 300,000 คนช่วยกันนำขึ้นฝั่งก็ไม่สำเร็จ แล้วลอยไปโผล่ขึ้นแม่น้ำกลอง จ.สมุทรสงคราม ประชาชนชาวประมงนำขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดบ้านแหลม ส่วนองค์สุดท้องลอยไปโผล่ขึ้นที่วัดบางพลี จ.สมุทรปราการและชาวบางพลีได้อัญเชิญประดิษฐานอยู่ที่วัดบางพลีใหญ่ พระพุทธรูปหล่อองค์กลาง คือ “หลวงพ่อโสธร” เมื่อลอยตามน้ำมาจากหัววน ดังกล่าวแล้วมาโผล่ขึ้นที่ท่าหน้าวัดโสธร กล่าวกันว่าประชาชนจำนวนมากทำการบวงสรวงแล้วเอาด้ายสายสิญน์คล้องกับมือหลวงพ่อโสธร อัญเชิญขึ้นมาบนฝั่งนำไปประดิษฐานในวิหารสำเร็จ หลวงพ่อโสธรเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ปูนปั้นปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 1.65 เมตร สูง 1.48เมตร แต่เดิมเป็น พระพุทธรูปหล่อสำริดปางสมาธิหน้าตักกว้างศอกเศษ รูปทรงสวยงามมาก แต่พระสงฆ์ในวัดเกรงจะมีผู้มาลักพาไปจึงได้เอาปูนพอก เสริมหุ้มองค์เดิมไว้จนมีลักษณะที่เห็นในปัจจุบัน
การไปสักการะขอพร
ในการสักการะนั้น จะแบ่งเป็นโบสถ์ 2 หลัง คือ โบสถ์ใหม่จะประดิษฐานหลวงพ่อโสธรองค์จริง และโบสถ์ข้าง ๆ จะประดิษฐานหลวงพ่อโสธรจำลอง เป็นที่เล่าขานกันว่า เป็นพระที่ขอพรได้สมใจทุกสิ่ง ผู้ที่มาขอพร ส่วนใหญ่จะขอเรื่องการรักษาพยาบาล ความเป็นสิริมงคลกับชีวิต แต่มีข้อยกเว้นในการขอพรหรือบนบานที่จะไม่สำเร็จคือ การขอไม่ให้ถูกเกณฑ์ทหาร จะได้เป็นทหารเพราะหลวงพ่อชอบทหารมาก หากขอลูกก็จะได้ลูกไม่ครบ 32 เพราะหลวงพ่อได้ส่งลูกที่เคยเป็นทหารบาดเจ็บล้มตายมาให้นั่นเอง ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อ ใครเป็นทุกข์ก็มาสักการะปัดเป่าทุกข์ให้หายไป และสิ่งที่ผู้คนนิยมนำมาแก้บนนั้นคือ ไข่ต้ม ถือว่าเป็นพระที่มีความศักดิ์สิทธิ์ผู้คนต่างศรัทธาให้ความเคารพบูชากันจนมาถึงทุกวันนี้