กุมารทอง การเลี้ยงภูตผีไว้เพื่อใช้งานที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ยุคโบราณ

ต่อให้คุณจะไม่ใช่คนที่ชื่นชอบการมูเตลูเลยแม้แต่น้อย แต่เชื่อว่าคุณคงรู้จักกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายในประเทศนี้เพราะมันเป็นของคู่กัน โดยเฉพาะ กุมารทอง ที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และในปัจจุบันก็ยังมีผู้คนอีกจำนวนไม่น้อยที่เลี้ยงพวกเขาอยู่ พวกเขานั้นมีความเป็นมาจากการเลี้ยงดูภูตผีปีศาจเอาไว้สำหรับใช้งาน บ้างก็ว่าสามารถช่วยเพิ่มความโชคดีได้ สามารถใช้สอดแนมดูความเป็นไปต่าง ๆ ในเรื่องราวที่เราอยากรู้ สำหรับใครที่สนใจในบทความนี้ สายมู.com จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับกุมารทอง พวกเขาจะมีความเป็นมาอย่างไร ไปติดตามกันได้เลย 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

กุมารทอง จากขั้นตอนที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณสู่ของศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนบูชา 

กุมารทอง จัดเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในประเทศไทยและค่อนข้างได้รับความนิยมเลยทีเดียว พวกเขาอยู่คู่กับประวัติศาสตร์ไทยมาอย่างยาวนาน แถมยังปรากฏอยู่ในวรรณคดีไทยอย่างขุนช้างขุนแผนอีกด้วย 

หากใครเคยอ่านวรรณคดีเรื่องนี้มาก่อนก็จะทราบดีว่า เครื่องรางชนิดนี้มีกระบวนการทำที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณเป็นอย่างมาก คนที่จะปลุกเสกขึ้นมาได้นั้นต้องเต็มไปด้วยจิตใจที่เข้มแข็งมั่นคง ต้องมีคาถาอาคมที่แรงกล้า 

ของแบบนี้ไม่แตกต่างอะไรจากการเล่นของ ดังนั้นหากไม่มีความสามารถมากพอก็อาจจะเจอของเข้าตัวได้เช่นเดียวกัน พวกเขาจัดเป็นวิญญาณของเด็กชาย แต่หากเป็นวิญญาณของเด็กผู้หญิงหรือเป็นผู้หญิงเลยจะถูกเรียกอะไรอีกชื่อว่า โหงพราย 

ในอดีตนั้นจะต้องใช้วิญญาณของเด็กที่ตายก่อนคลอดออกมา หรือลูกของหญิงตายทั้งกลมนั่นเอง เหล่าผู้ที่มีวิชาอาคมก็จะทำพิธีเพื่อนำพาวิญญาณเด็กเหล่านั้นมาเลี้ยงเอาไว้เป็นลูกและใช้งาน 

สำหรับการประกอบพิธีเพื่อให้ได้มาซึ่งกุมารทองนั้นจะต้องหาศพหญิงที่ตายทั้งกลม หลังจากนั้นทำการผ่าท้องแล้วนำเอาศพของเด็กทารกข้างในมาย่างกับไฟจนแห้งสนิท มีลักษณะคล้ายกับมัมมี่ที่แห้งจนเนื้อติดกระดูก ที่สำคัญก็คือกระบวนการทั้งหมดนั้นจะต้องทำให้เสร็จก่อนที่จะถึงเวลารุ่งสาง 

หลังจากนั้นให้นำเอาร่างของเด็กมาลงรักปิดทองให้ทั่วซึ่งกลายมาเป็นที่มาของชื่อเรียกนั่นเอง ด้วยความที่สภาพสังคมได้เปลี่ยนแปลงไปทำให้ในยุคปัจจุบันนั้น กุมารทองไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยการใช้ร่างของเด็กทารกจริงแต่อย่างใด 

เพราะหากใช้ร่างของเด็กทารกจริงจะผิดกฎหมายฐานทำลายศพเลยทีเดียว แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะก็มีวิธีการดัดแปลงขั้นตอนกรรมวิธีการในการสร้างขึ้นมาเช่นเดียวกัน สำหรับใครที่เลี้ยงพวกเขาอยู่ก็ไม่ต้องกังวลว่าสิ่งที่ครอบครองอยู่นั้นจะเป็นร่างของเด็กทารกที่เสียชีวิต 

เพราะในปัจจุบันส่วนใหญ่จะใช้ดิน 7 ป่าช้า โลหะ หรือไม่ก็พวกไม้มงคลอย่างเช่น ไม้มะยมหรือไม้รักซ้อน นำเอามาแกะสลักหรือปั้นให้เป็นรูปของเด็กชาย หลังจากนั้นจึงทำพิธีเพื่อตั้งธาตุทั้ง 4 ขึ้นมาพร้อมกับอาการ 32 ให้เกิดขึ้นกลายเป็นจิตวิญญาณ ลักษณะส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเด็กชายที่ไว้ผมจุก แต่งตัวแบบโบราณคือ นุ่งโจงกระเบนใส่เครื่องประดับเงินทองทั่วทั้งตัว

สำหรับใครที่จะต้องการจะบูชาพวกเขานั้นสิ่งสำคัญก็คือ การดูแลเอาใจใส่ พวกเขาไม่เหมือนกับของศักดิ์สิทธิ์ธรรมดาทั่วไปที่ตั้งเอาไว้บนหิ้งแล้วถวายของสัปดาห์ละครั้ง เราจะต้องเลี้ยงดูกุมารทองให้เหมือนกับเลี้ยงดูลูกของตัวเอง ต้องให้ข้าวให้น้ำเป็นของเซ่นไหว้ เวลากินข้าวก็ต้องเคาะโต๊ะเรียกมากินด้วย 

สำหรับของที่นิยมถวายนั้นจะประกอบไปด้วยขนม น้ำหวาน หรือผลไม้ที่มีรสหวานอย่างเช่น ทองหยิบทองหยอด น้ำแดง กล้วยน้ำว้า สิ่งที่ไม่ควรถวายโดยเด็ดขาดก็คือน้ำเปล่า หากเราดูแลพวกเขาให้ดีพวกเขาก็จะช่วยปกป้องคุ้มครองเราพร้อมทั้งครอบครัวให้รอดพ้นจากภัยอันตราย ช่วยให้โชคดี มีกิจการก็ทำมาค้าขายรุ่งเรือง สามารถเตือนภัยล่วงหน้าได้อีกต่างหาก 

แต่หากเราบูชาพวกเขาไม่ดีพอพวกเขาก็จะส่งผลเสียต่อผู้บูชาเองเช่นเดียวกัน ไม่เพียงเท่านั้นด้วยความที่พวกเขาเป็นวิญญาณดังนั้นจึงอยู่ยงคงกระพัน ต่อให้เราแก่เฒ่าไปก็ยังคงต้องบูชาพวกเขาตามเดิมและอาจจะต้องหาผู้ที่จะมาดูแลเขาต่ออีกด้วย ก่อนที่จะรับมาบูชาจึงควรพิจารณาถึงความพร้อมให้ดี 

ตุ๊กตาลูกเทพ กุมารทองยุคใหม่ที่มาพร้อมกับความน่ารักขึ้นกว่าเดิม

กุมารทอง ฟังดูเป็นเรื่องไสยศาสตร์ที่น่ากลัว เพราะตามความเชื่อของคนไทยแล้วพวกไสยเวทย์นั้นเป็นมนตร์ดำที่เต็มไปด้วยอันตรายและความสยดสยอง ด้วยเหตุนี้ในยุคหนึ่งพวกเขาจึงเสื่อมความนิยมไป แต่วงการมูเตลูก็ไม่เคยหยุดขับเคลื่อนแต่อย่างใด เพราะเมื่อประมาณซัก 10 ปีที่แล้ว ได้มีสิ่งที่มาทดแทนกุมารทองนั่นก็คือ ตุ๊กตาลูกเทพ นั่นเอง 

เดิมทีตุ๊กตาเหล่านี้เป็นตุ๊กตาเด็กทารกที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักสะสมเป็นอย่างมาก โดยมีชื่อเรียกว่า ตุ๊กตารีบอร์น ผู้ที่มีวิชาอาคมได้นำเอาตุ๊กตาเหล่านี้มาทำพิธีแทบจะไม่แตกต่างอะไรจากกุมารทอง แต่ความแตกต่างก็คือ เราไม่จำเป็นต้องวางพวกเขาเอาไว้บนหิ้ง ไม่ต้องสวมใส่ชุดไทย ไม่ต้องถวายน้ำแดง 

แต่ให้เราเลี้ยงพวกเขาเหมือนเป็นลูกคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำแต่งตัว การพูดคุยกัน หรือการพาไปเที่ยว ด้วยความที่รูปลักษณ์ภายนอกน่ารักน่าชังไม่ต่างจากตุ๊กตาเด็กทั่วไป จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงเวลาหนึ่งเลยทีเดียว