ในช่วงนี้ประเทศไทยของเรานั้นมีสายมูเตลูมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว ความจริงแล้วคนไทยเรานั้นมีความเชื่อเกี่ยวกับโชคลาภมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่ปี่เซียะจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงเวลานี้ ของขลังดังกล่าวนั้นเป็นสัตว์มงคลตามความเชื่อของประเทศจีนที่ได้รับอิทธิพลเข้ามา โดยเฉพาะในช่วงประมาณ 2-3 ปี ให้หลังมานี้ หลายคนนิยมพกพาติดตัวเป็นเครื่องประดับหรือมีการวางเอาไว้บนตำแหน่งสำคัญภายในบ้าน เนื่องจากมีความเชื่อว่าสามารถเพิ่มโชคลาภและความเป็นสิริมงคลได้ ในวันนี้ สายมู.com จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสัตว์มงคลชนิดนี้ให้มากขึ้นกันว่า เขาคือใครมาจากไหนกันแน่
ทำความรู้จักกับปี่เซียะ สัตว์มงคลจากประเทศจีนที่เชื่อว่าช่วยเพิ่มโชคลาภได้เป็นอย่างดี
ปี่เซียะ นั้นเป็นสัตว์มงคลตามความเชื่อของชาวจีนมาตั้งแต่โบราณ ปัจจุบันนิยมพกพาติดตัวเป็นเครื่องรางเพื่อช่วยเพิ่มความโชคดีและเรียกทรัพย์ โดยในภาษาจีนนั้นจะเรียกสัตว์ชนิดนี้ว่า “ผีซิว” มีความเชื่อว่าพวกเขานั้นเป็นลูกของมังกรตัวที่ 9 พวกเขาจึงกลายเป็นตัวแทนของความเป็นสิริมงคล รูปร่างของเขานั้นประกอบไปด้วยลักษณะของสัตว์รวมกันอยู่หลายชนิดไม่ว่าจะเป็น สิงโต นก กวาง มังกร รวมไปถึงปลา หากเป็นตัวผู้นั้นจะเรียกว่า “ปี่” ส่วนตัวเมียนั้นจะมีชื่อเรียกว่า “เซียะ”
โดยลักษณะที่ดีของเครื่องรางชนิดนั้นจะประกอบไปด้วย 8 ประการ ไม่ว่าจะเป็นหางยาวเอาไว้กวักโชคลาภ มีปากอ้ารับทรัพย์อยู่เสมอ มีฝ่าเท้าใช้ตะปบเงินทอง หัวยกขึ้นเพื่อข่มศัตรู ลิ้นยาวสำหรับตวัดโชคลาภ มีการก้าวขาเพื่อความก้าวหน้า ไม่มีรูทวารเพื่อให้เงินทองไม่รั่วไหล และอกผายไหล่ผึ่งน่าเกรงขาม เครื่องรางชนิดนี้เป็นสัตว์ที่ไม่มีการขับถ่ายแต่อย่างใด ดังนั้นจึงมีความเชื่อว่าหากครอบครองไว้ก็จะช่วยเรื่องการเก็บเงินเก็บทองได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้นยังเป็นเครื่องรางที่ช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและช่วยคุ้มครองผู้ที่นับถือได้อีกด้วย ดังนั้น จึงมีความนิยมนำเอามาทำเป็นเครื่องประดับเพื่อพกพาติดตัวเป็นเครื่องรางของขลังหรือแม้แต่ตั้งรูปปั้นเอาไว้ในบ้าน บางแห่งอาจมีการวาดรูปติดตามฝาผนังโดยเฉพาะในสถานที่สำคัญเลยทีเดียว
โดยเครื่องรางดังกล่าวนั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประกอบไปด้วยแบบเดียวจะช่วยเรื่องการค้าขาย การทำกำไร ช่วยเพิ่มดวงเพิ่มโชคด้านการเงิน ช่วยคุ้มครองให้ปลอดภัยแคล้วคลาดเมื่อต้องเดินทางไกล นิยมสวมบริเวณข้อมือซ้ายเนื่องจากเชื่อว่าเป็นตำแหน่งของมังกรเขียว และแบบที่ 2 คือแบบคู่ จะช่วยเรื่องการติดต่อสื่อสารการเจรจา ช่วยเพิ่มอำนาจบารมี มีโอกาสได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ช่วยให้การเจรจาตกลงเป็นไปอย่างราบรื่นด้วยดี นิยมสวมเอาไว้บริเวณมือขวาเพราะเป็นตำแหน่งของเสือขาว
สำหรับวิธีการสังเกตว่าสัตว์มงคลที่เราบูชามานั้นเป็น ตัวผู้ หรือ ตัวเมีย ให้สังเกตบริเวณเท้า หากเป็นสัตว์มงคลที่มาเป็นคู่นั้น ปกติแล้วจะอยู่ในลักษณะที่หันหลังให้กันเป็นรูปตัววี ตัวผู้นั้นจะก้าวเท้าซ้าย ส่วนตัวเมียนั้นจะก้าวเท้าขวา สำหรับคนที่สวมเครื่องประดับติดตัวตลอดเวลานั้น ให้หันหน้าของพวกเขาออกไปนอกตัวเพื่อให้ดูดทรัพย์เข้าหาเรา สำหรับการวางภายในบ้านนั้นควรวางเอาไว้ในบริเวณที่ไม่อับชื้น อย่างเช่น ในห้องเก็บของ หรือ ห้องน้ำ
สำหรับวิธีการบูชาให้เราร่ำรวยมีเงินทองไหลมาเทมา ก่อนที่จะบูชาเข้าบ้านหรือพกติดตัวให้จุดธูปบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในบ้านของเรา หลังจากนั้นสวดคาถาบูชาโดยตั้งนะโม 3 จบ แล้วท่องว่า อุ อา กะ สะ ปี่เซียะ อานุภาโว เมตตาจิต ประสิทธิเม แล้วลูบบริเวณตำแหน่งสำคัญได้แก่หัว หลัง และท้อง หากทำเช่นนี้เป็นประจำก็จะช่วยเพิ่มเรื่องความอุดมสมบูรณ์ ร่ำรวยเงินทอง สมหวังตามความปรารถนา มีโชคลาภบารมี ส่วนวัสดุที่ใช้ทำนั้นก็มีมากมายไม่ว่าจะเป็น ทองแท้ อัญมณี อย่างเช่น หยก หรือ เงิน เป็นต้น
รวมข้อห้ามที่คุณไม่ควรทำเมื่อต้องการบูชาปี่เซียะ
ปี่เซียะ นั้นเป็นเครื่องรางตามความเชื่อของจีนโบราณที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยเป็นอย่างมาก แต่เพราะว่าเป็นสัตว์มงคลจากประเทศจีนดังนั้น หลายคนจึงอาจจะยังไม่รู้จักกับพวกเขาดีพอแต่อย่างใด และอาจมีการทำผิดข้อห้ามในการบูชาพวกเขาซึ่งอาจจะทำให้เกิดผลร้ายมากกว่าผลดีตามมา โดยข้อห้ามที่คุณไม่ควรทำโดยเด็ดขาดจะประกอบไปด้วย การลูบบริเวณปากของพวกเขา เนื่องจากจะทำให้เก็บเงินไม่อยู่และเงินทองรั่วไหล ไม่ควรให้ผู้อื่นมาแต่ต้องของเราโดยเด็ดขาดเพราะนับว่าเป็นของส่วนบุคคล ใส่ไปในงานไม่เป็นมงคลอย่างเช่น งานศพ ที่สำคัญคือไม่ควรสวมอาบน้ำโดยเด็ดขาด เพียงเท่านี้วัตถุมงคลดังกล่าวก็จะช่วยเสริมความเป็นมงคลให้กับชีวิตของเราได้เป็นอย่างดี ดังนั้นก่อนจะบูชาอะไรมาช่วยเพิ่มเสริมดวงให้กับตนเอง เราควรศึกษาก่อนว่า วิธีการดูแล การบูชา รวมไปถึงข้อห้ามนั้นมีอะไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้สามารถปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องและได้รับประโยชน์จากการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากที่สุด