สีผึ้ง จากเครื่องสำอางสู่ของเพิ่มความนิยมให้คุณมีเสน่ห์ 

by saimu
0 comment
สีผึ้ง

ในปัจจุบันการมูเตลูได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและบรรดาของที่เคยได้รับความนิยมในอดีตทั้งหลายก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง สีผึ้ง ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน ความจริงแล้วมันคือลิปสติกที่มีการใช้กันมาตั้งแต่ในยุคโบราณ เพียงแต่ว่าได้รับการปลุกเสกทำให้มีพุทธคุณที่ช่วยเสริมในด้านความรักและความมีเสน่ห์ สำหรับคนที่ต้องการสมความปรารถนาในด้านความรักหรืออยากให้มีแต่ผู้คนรักใคร่เอ็นดู และในวันนี้ สายมู.com จะพาทุกคนไปเปิดประวัติกันว่าสีผึ้งนั้นมีความเป็นมาอย่างไรและมีวิธีการใช้อย่างไรให้ได้ผล ไปติดตามกันได้เลย

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับสีผึ้ง เครื่องสำอางทาปากที่ช่วยเพิ่มความมีเสน่ห์ให้กับคุณ 

สีผึ้ง

สีผึ้ง เครื่องรางที่ถูกบรรจุอยู่ในตลับ เดิมทีเป็นเครื่องสำอางที่ใช้สำหรับทาปากเหมือนกับลิปมัน แต่ละตลับที่มาจากแต่ละสำนักนั้นก็จะมีสีสันหรือแม้แต่กลิ่นที่แตกต่างกันออกไป ในยุคโบราณนั้นนับว่าเป็นของดีที่มีพุทธคุณ ใช้ทาตัวทาใบหน้าช่วยเพิ่มความมีเสน่ห์ได้เป็นอย่างดี 

องค์ประกอบหลักจะเป็นขี้ผึ้งซึ่งนับว่าเป็นวัสดุที่สามารถช่วยให้เกิดวิชาเสน่ห์ขั้นสุดยอดได้ แต่จะเป็นขี้ผึ้งทั่วไปไม่ได้เพราะต้องมาจากรังผึ้งร้างที่ฝูงทิ้งรังไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยิ่งได้รังของผึ้งหลวงก็ยิ่งดี ผสมผสานเข้ากับองค์ประกอบอื่นอย่างเช่น แผ่นทองคำเปลว น้ำมันที่ได้มาจากช้างตกมัน น้ำตาปลาพะยูน 

นำมาหุงด้วยเชื้อเพลิงที่ใช้กระดูก 7 ป่าช้า หรือ ตะปูตอกโลงศพ เมื่อหุงออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็จะมีสีแตกต่างกันออกไปบ้างก็เป็นสีขาว บ้างก็เป็นสีเหลือง หรือเป็นสีดำก็มีเช่นเดียวกัน ระหว่างการหุงนั้นจะต้องทำการบริกรรมคาถาไปด้วยเป็นร้อยจบพันจบ กว่าจะได้สำเร็จออกมาหนึ่งตลับ 

สีผึ้ง

ตามความเชื่อแล้วนอกจากจะมีสีผึ้งแบบที่ใช้เพื่อให้เกิดพุทธคุณสายขาว ยังมีแบบที่เป็นไสยศาสตร์เต็มรูปแบบอีกด้วย โดยจะนำขี้ผึ้งที่ใช้ในการปิดปากศพตายโหงหรือศพตายทั้งกลม ผสมเข้ากับน้ำมันพรายที่ได้มาจากการลนน้ำมันศพหญิงตายทั้งกลมแบบตายโหงอีกด้วย 

อาจมีการผสมชิ้นส่วนของศพเข้าไปแล้วนำเอามาเคี่ยวรวมกับว่านมหาเสน่ห์หลากหลายชนิดจนมีฤทธิ์แรงกล้า ใครก็ตามที่โดนเข้าไปนั้นจะหลงใหลแบบหัวปักหัวปำถอนตัวไม่ขึ้นกันเลยทีเดียว 

บางตำราเพื่อให้เกิดผลที่แรงขึ้นกว่าเดิมก็อาจจะมีการฝังสาริกาลิ้นทอง ลูกกรอก หรือตะกรุดเงินเข้าไปด้วยเพื่อช่วยเสริมพุทธคุณในด้านความรักนั่นเอง แต่หากเป็นคุณไสยสายขาวนั้นก็จะเลือกใช้ฟืนไฟเป็นไม้มงคลอย่างเช่น ไม้กาหลง ไม้มะยม ไม้รัก หรือไม้ขนุน เป็นต้น 

สีผึ้ง

สีผึ้ง นั้นอาจเป็นที่รู้จักในฐานะของขลังที่ใช้เสริมดวงในด้านเมตตามหานิยมและความรักใคร่ แต่ความจริงแล้วพุทธคุณของมันนั้นมีมากกว่าแค่ช่วยให้ผู้คนมาหลงใหลเสน่ห์ในตัวเราเท่านั้น หลายคนเชื่อว่ามันยังช่วยให้ผู้ใหญ่เมตตาและรักใครเอ็นดู ใครพบเข้าก็นิยมชมชอบ ช่วยเสริมในด้านการงานโดยเฉพาะคนที่ทำอาชีพค้าขาย ช่วยให้ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ช่วยให้สามารถชนะคดีความเวลาขึ้นโรงขึ้นศาลหรือแม้แต่หลีกเลี่ยงปัญหาการมีเรื่องทั้งหลาย มีมหาอุดที่ช่วยในด้านความคงกระพันชาตรี ช่วยให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวง สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ และยังป้องกันโรคบางชนิดอย่างเช่นไข้ป่าได้อีกด้วย 

เปิดวิธีการบูชาและการใช้สีผึ้งอย่างไรให้เกิดผล 

สีผึ้ง

สีผึ้ง นั้นเป็นของขลังที่ไม่ได้มีเอาไว้เพียงแค่ให้คุณบูชาพกไปไหนมาไหนอย่างเดียวเท่านั้น หากคุณต้องการให้เกิดผลเป็นพิเศษก็ต้องมีคาถาอาคมเช่นเดียวกัน สิ่งสำคัญก็คือการใช้นั้นเราจะต้องตั้งเป้าหมายก่อนว่าเราจะใช้กับใคร ใช้เมื่อไหร่ 

ปกติแล้วหากต้องการให้เกิดผลก็จะใช้เพียงแค่ 2 วันต่อสัปดาห์ประกอบไปด้วยวันจันทร์และวันเกิดของเรา โดยโบราณได้กำหนดวิธีการใช้โดยให้เรานำเอานิ้วมือแต่ละนิ้วจิ้มลงบนสีผึ้งตามแต่กลุ่มบุคคลที่เราจะเข้าหา หากเข้าหาผู้ใหญ่หรือคนที่มียศถาบรรดาศักดิ์มากกว่าเราให้ใช้นิ้วหัวแม่มือ 

หากจะเข้าหาคนธรรมดาทั่วไปที่อยู่ในระดับเสมอกับเราหรือคนที่อายุน้อยกว่า มียศถาบรรดาศักดิ์ต่ำกว่า ก็ให้ใช้นิ้วชี้ หากเข้าหาคนที่มีอายุมากกว่าหรือพ่อหม้ายแม่หม้ายให้เลือกใช้นิ้วกลาง หากจะไปหาหนุ่มสาวให้เลือกใช้นิ้วนาง หากจะไปหาคนที่อายุน้อยกว่าให้เลือกใช้นิ้วก้อย 

สำหรับขั้นตอนการทานั้น ให้เราหยิบสีผึ้งขึ้นมาแล้วตั้งนะโม 3 จบ ระลึกถึงคุณครูบาอาจารย์หรือเทพที่ถูกอัญเชิญมาในสีผึ้งนี้ หลังจากนั้นก็ให้ท่องคาถาตามที่ได้รับมาจากอาจารย์ในแต่ละสำนักอย่างเช่น หากใช้คาถาขุนแผนก็ให้ท่องว่า เอหิ มะมะ นะโมพุทธายะ นะ มะ พะ ทะ กำหนดจิตไปถึงบุคคลเป้าหมายเพื่อให้เกิดเมตตามหานิยม 

นำเอานิ้วแตะลงไปบนสีผึ้งจากนั้นทาตามตัวหรือทาบนใบหน้า พร้อมกับท่องคาถาก็ได้เช่นเดียวกัน เมื่อทาลงบนหน้าผากให้ท่องว่า นะ เมตตา ทาแก้มซ้ายให้ท่องว่า โม กรุณา ทาแก้มขวาให้ท่องว่า พุท ปราณี ทาจมูกให้ท่องว่า ธา ยินดี ทาบนริมฝีปากให้ท่องว่า ยะ เอ็นดู มหาลาภา ประสิทธิเม เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เวลาเราใช้งานได้ผลขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง 

You may also like

Leave a Comment