ประเทศไทยของเรานับถือศาสนาพุทธ และหนึ่งในศีล 5 ที่เรายึดถือปฏิบัติกันก็คือ งดเว้นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่ใช่แค่การใช้ชีวิตประจำวัน แต่รวมไปถึงอาหารการกินด้วย ดังนั้นจึงมี เทศกาลกินเจ ซึ่งเป็นเทศกาลที่เรานั้นจะงดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ติดต่อกันเป็นเวลายาวนานถึง 9 วัน ด้วยเหตุนี้เราจึงจะพาทุกคนย้อนกลับไปดูจุดเริ่มต้นของเทศกาลดังกล่าวและวิธีการปฏิบัติตนกันว่าต้องทำอะไรบ้าง
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับเทศกาลกินเจ เทศกาลที่ผู้คนจะงดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์
เทศกาลกินเจ เป็นเทศกาลในประเทศไทยที่เรียกได้ว่าเป็นงานใหญ่ไม่แพ้งานอื่นเลยแม้แต่น้อย ยิ่งบริเวณไหนที่มีลูกหลานชาวจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก อย่างเช่นเยาวราชหรือจังหวัดภูเก็ต เราจะเห็นบ้านช่องถูกประดับประดาด้วยธงสีเหลืองที่มีตัวอักษรสีแดงกันทุกหนทุกแห่ง
แต่ทราบหรือไม่ว่าเทศกาลกินเจที่ดูเหมือนจะเป็นเทศกาลจากประเทศจีน แต่หากคุณเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศจีน ฮ่องกง หรือแม้แต่ในไต้หวันเองก็ตาม คุณจะไม่พบกับเทศกาลดังกล่าวแต่อย่างใด ผู้คนในประเทศเหล่านี้อาจไม่รู้จักด้วยซ้ำไปว่าเทศกาลดังกล่าวคืออะไรกัน
นั่นก็เป็นเพราะว่า มันเป็นประเพณีที่อยู่ในประเทศไทยเท่านั้น ส่วนสาเหตุที่ทำไมในประเทศไทยลูกหลานชาวจีนจึงออกมาร่วมเทศกาลกันอย่างคึกคักเป็นพิเศษนั้น เป็นเพราะว่าเทศกาลดังกล่าวมาจากชาวจีนโพ้นทะเลจริง ๆ เพียงแต่ไม่ได้นิยมทำกันแพร่หลายแต่อย่างใด
เปิดประวัติความเป็นมาของการกินเจในประเทศไทย
ถึงตรงนี้หลายคนน่าจะสงสัยไม่น้อยว่า สรุปแล้วเทศกาลกินเจมาจากไหนกันแน่ คำตอบก็คือมาจากประเทศจีน ประเทศที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้แต่ละมณฑลจึงมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงความเชื่อด้วยเช่นเดียวกัน
ดังนั้นการกินเจจึงมีเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้นที่นิยมทำกัน ส่วนใหญ่แล้วชาวจีนที่นิยมปฏิบัติตนด้วยการงดเว้นรับประทานเนื้อสัตว์จะเป็นกลุ่มชาวแต้จิ๋วและชาวฮกเกี้ยนที่อาศัยอยู่ในมณฑลฟูเจี้ยน ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่นิยมอพยพมาอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทย สิงคโปร์และมาเลเซีย
โดยจะเรียกว่า เทศกาลเฉลิมฉลองพระราชาธิราชทั้ง 9 ในประเทศจีนปัจจุบันก็ยังคงมีเทศกาลกินเจอยู่บ้างแต่ก็หาได้ค่อนข้างยากเช่นเดียวกัน เป็นการทำพิธีแบบลัทธิเต๋าเป็นระยะเวลา 9 วัน กำหนดวันตามจันทรคติเริ่มในวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 9 ถึงวันขึ้น 9 ค่ำเดือน 9
หลังจากที่ศาสนาพุทธได้เผยแผ่เข้ามายังเมืองจีน ตำนานดังกล่าวก็ได้เชื่อมโยงเข้ากับพระพุทธเจ้าทั้ง 7 พระองค์และพระโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ ชาวจีนจึงหันมาละเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์เพื่อเป็นการสักการบูชาพระพุทธเจ้าทั้ง 7 พระองค์และพระโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์รวมเป็น 9 พระองค์
เป็นที่มาของการจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลกินเจที่ยาวนานถึง 9 วัน แต่ช่วงเวลาตามวัตถุประสงค์เดิมไม่มีความเกี่ยวข้องกับหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาแต่อย่างใด เป็นเพียงช่วงเวลาที่จะระลึกถึงวีรบุรุษที่โค่นล้มราชวงศ์ชิงพร้อมกอบกู้ราชวงศ์หมิงขึ้นมาเมื่อ 2-3 ร้อยปีที่แล้ว
หลังจากที่ราชวงศ์แมนจูเข้ามายึดครองบัลลังก์ของราชวงศ์หมิง เป็นเหตุการณ์ที่มีผู้คนเสียสละชีวิตไปเป็นจำนวนมาก การกินเจจึงเปรียบเสมือนกับการระลึกถึงวีรกรรมของบรรพบุรุษ นั่นเอง
เปิดวิธีการเตรียมตัวและการรับประทานอาหารเจอย่างถูกต้อง
ใกล้เข้าสู่เทศกาลกินเจ หลายคนก็เริ่มเตรียมตัวเพื่อรับประทานอาหารเจกันแล้ว แต่ความจริงแล้วการรับประทานอาหารแบบละเว้นเนื้อสัตว์ไม่ได้หมายความว่า คุณสามารถกินผักทุกชนิดได้แต่อย่างใด และไม่ได้หมายความว่า คุณสามารถปรุงผักได้ตามความต้องการอีกด้วย
การรับประทานอาหารเจมีขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อน เราจะต้องเตรียมตัวก่อนด้วยการทำความสะอาดบ้าน จากนั้นให้นำเอาข้าวของเครื่องใช้ในการรับประทานอาหารหรือประกอบอาหารมาล้างแล้วลวกน้ำร้อนให้สะอาด เพื่อกำจัดกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ บางคนก็จะรับประทานผักผลไม้ก่อน 1 วันเพื่อเป็นการล้างท้อง ส่วนอาหารต้องห้ามมีดังนี้
- เนื้อสัตว์และผลผลิตจากสัตว์ การกินเจต้องละเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามที่มาจากสัตว์ไม่สามารถรับประทานได้ ด้วยเหตุนี้ นม โยเกิร์ต ชีส ไข่ น้ำมันหมู ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งต้องห้ามที่คุณไม่สามารถรับประทานได้
- ผักดินฉุน เป็นผักที่ทำให้เกิดความรู้สึกอยากจะรับประทานเนื้อสัตว์อย่างเช่น ขึ้นฉ่าย กระเทียม หอมแดง หอมหัวใหญ่ หรือต้นหอมเป็นต้น
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเบียร์ สุรา ไวน์
- อาหารรสเข้มหรือรสจัด อาหารที่มีรสชาติจัดจ้านหรือมีความเข้มข้นจะเข้าไปกระตุ้นความอยากอาหาร ดังนั้นมันจึงเป็นอาหารต้องห้าม อาหารเจส่วนใหญ่จะมีรสชาติที่กลมกล่อม ไม่มีรสชาติใดที่เด่นชัดจนเกินไป
ข้อควรปฏิบัติและข้อห้าม
- ถือศีล ในช่วงกำลังกินเจหลายคนก็จะถือทั้งศีล 5 ไปด้วย หรือบางคนก็อาจจะไปถึงศีล 8 เพื่อให้ได้บุญกุศลมากขึ้นกว่าเดิม
- แต่งกายสีขาวและหลีกเลี่ยงสีดำ เป็นการตอกย้ำเจตนารมณ์ในการทำบุญด้วยการเข้าร่วมเทศกาลกินเจ บ้างก็อาจจะใส่สีเหลืองที่เป็นสีมงคลของชาวจีน และละเว้นการแต่งกายด้วยสีดำซึ่งเป็นสีอัปมงคล
- ห้ามใช้เครื่องสำอางหรือเครื่องแต่งกายจากสัตว์ อย่างเช่นกระเป๋าหนัง เสื้อคลุมขนสัตว์แท้ ลิปสติกที่มีเกล็ดปลาเป็นส่วนผสม อายแชโดว์ที่มีส่วนผสมของปีกแมลงทับ เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังเพราะหลายคนจะพลาดเรื่องนี้ได้ง่าย ๆ
เพราะเหตุใดเราจึงควรกินเจ
เทศกาลกินเจเป็นเทศกาลที่ผู้คนจะหันมารับประทานอาหารที่ประกอบด้วยผักหรือโปรตีนเกษตร เพื่อเป็นการละเว้นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ด้วยเหตุนี้คุณก็จะได้รับประโยชน์มากมายจากการกินเจ ไม่ว่าจะเป็น
- สุขภาพดี การรับประทานแต่ผักในช่วงเวลาหนึ่งจะสามารถขับสารพิษตกค้างภายในร่างกายของเราออกมาได้ ช่วยให้ระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ระบบเลือดมีความสมดุล ผิวพรรณดูผ่องใส ร่างกายไม่อึดอัดและรู้สึกเบาสบาย สามารถลดปัญหาการเกิดโรคได้มากมาย ผู้ที่รับประทานอาหารเจเป็นประจำหรือหันมารับประทานผักมากขึ้นในเทศกาลกินเจจะสามารถลดความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรครุนแรงเรื้อรังได้ อย่างเช่น ไขข้ออักเสบ โรคมะเร็ง ไขมันอุดตันในเส้นเลือด หรือโรคไต
- เสริมดวง แน่นอนว่าการที่เรางดเว้นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตย่อมเป็นการไม่เบียดเบียนชีวิตอื่น ด้วยเหตุนี้หลายคนที่กำลังดวงตกจึงมักจะหันมากินเจเพื่อช่วยให้ดวงดีมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เกิดเมตตาจิต มีความสุขุมเยือกเย็น อารมณ์ดี ไม่มีอาการฉุนเฉียวโมโหง่าย ช่วยเกื้อกูลให้บารมีสูงขึ้น มีสมาธิและสติปัญญา ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต จิตใจผ่องใส
- แก้บน เวลาใครไปขออะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วไม่รู้ว่าจะถวายอะไรเป็นการตอบแทนดี หลายคนเลือกใช้วิธีการกินเจ ยิ่งไปขอพรกับพระโพธิสัตว์หรือเทพฝั่งฮินดู การบอกกล่าวว่าจะถวายการกินเจจะยิ่งช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ สายมู.com